แค้นอำมหิต!เร่งล่าคนงานก่อสร้าง คาด‘ฆ่าฝังดิน’นายจ้างคาบ้าน
ร.ต.อ.รุ่ง เหลี่ยมโคกสูง รอง สว.สอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 18 เม.ย.66 ว่าพบศพถูกฝังดิน ภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ซอยฉัตรหลวง2 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 หลังปลูกในพื้นที่เดียวกันเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา บ้านหลังแรกเป็นบ้านก่อสร้างด้วยปูนลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ส่วนบ้านอีกหลังเป็นบ้านไม้ ชั้นเดียว ที่บริเวณหลังบ้านพบกองหินสำหรับใช้ก่อสร้าง ที่ข้างกองหินพบถุงพลาสติกเปื้อนเลือด นอกจากนี้ที่ถังสียังมีรอยเลือดหยดอีกด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้จอบและพลั่วขุดเอาหินออก พบศพชายสภาพนอนหงายอืด ไม่สวมเสื้อผ้า โดยมีเสื้อยืดสีดำ คลุมไว้ที่ลำตัว ไม่พบบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายโรจน์นฤเบศร์ อายุ 53 ปี เป็นเจ้าของบ้านทั้ง 2 หลังและเป็นเจ้าของหอพักที่กำลังก่อสร้าง
นายประกอบ อายุ 30 ปี หลานชายผู้ตายและเป็นคนพบศพ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 18 เม.ย.66 น้าสาวได้โทรตามให้ตนมาช่วยดูน้าชายที่บ้านหลังเล็ก เพราะติดต่อไม่ได้มาประมาณ 3 วันแล้ว ตนจึงให้คนมาตัดกุญแจที่หน้าบ้าน ส่วนตัวเองเดินหารอบๆบ้าน จนมาถึงที่กองหินได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง ซึ่งข้างกองหินมีจานมะม่วงและธูปจุดทิ้งเอาไว้ ตนจึงใช้กระป๋องขุดดินออกปรากฏว่าพบถุงเลือด ทั้งนี้เมื่อช่วงบ่าย ตอนที่ตนมาถึงพบคนงานก่อสร้างชาย เดินสะพายเป้ออกไปจากบ้านน้าสาว โดยมีอาการเอะอะโวยวาย พร้อมกับพูดว่า “มึงพูดอะไรไม่ได้แล้ว มึงอยู่ในถุง” โดยชายคนดังกล่าวเดินมุ่งหน้าออกไปทางปากซอย เพื่อที่จะไปถนนบางกรวย-ไทรน้อย
จากการสอบถาม น.ส.แหม่ม (นามสมมุติ) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหอพักเดียวกับผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อคืนตนเปิดประตูห้องพักเพื่อให้ลมเข้า แล้วก็นั่งเล่นที่ด้านหน้าระเบียง โดยห้องของผู้ก่อเหตุอยู่ห้องสุดท้าย เขาตะโกนโวยวายเสียงดังและว่าตัวเขาเป็นนักฆ่า ฆ่าคนมาเยอะแล้ว ไม่กลัวใคร ซึ่งปกติเขาจะเป็นคนเงียบๆไม่คุยกับใคร แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาโวยวาย ก่อนหน้านี้ เขาตกงาน ที่เขาเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ ก็เพราะเจ้าของบ้านเป็นคนพามาทำงาน ให้มาทำงานก่อสร้างหอพัก ทำงานมีหน้าที่ฉาบปูน แต่เมื่อคืนเขามีอาการแปลกๆ บอกว่าเพิ่งจะฆ่าคนมา ตนรู้สึกกลัวเลยปิดประตูห้องแล้วก็ไม่เชื่อที่เขาพูด คิดว่าเขาน่าจะเมาแต่ปกติเขาก็ไม่กินเหล้า หลังจากนั้นเขาก็เดินถอดเสื้อออกมาโวยวาย เหมือนคนสติแตก และมีอาการลุกลี้ลุกลนอย่างมาก
ด้าน น.ส.ณกฤติกา อายุ 20 ปี ลูกบุญธรรมของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เพิ่งรู้ว่าพ่อถูกฆ่าวันนี้เพราะมาหาที่บ้านแล้วไม่เจอพ่อ แล้วที่ทำงานของพ่อ ก็โทรมาบอกว่าพ่อไม่ไปทำงานเขาเป็นห่วง ตนจึงขับรถมาดูแต่ไม่เจอ มาเจอผู้บุกรุกคาดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ และเหมือนเป็นคนสนิทของพ่อ ทำร้ายพ่อแล้วเขายังบอกอีกว่าตนไม่ใช่ลูกของพ่อ ตนจึงบอกว่ารอคุยกับตำรวจก่อน จะแจ้งความมาบุกรุกแบบนี้ไม่ได้ เขาก็เลยบอกว่าเขาเป็นพ่อบ้าน แล้วเขาก็หนีไป เหมือนเขาบอกว่าจะมาที่โรงพัก จะมาแจ้งความตนข้อหาพูดเท็จและใส่ร้ายเขา พอตำรวจมาถึงจึงให้คนข้างบ้านทำการงัดบ้านให้ แล้วตอนนั้นญาติของพ่อก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยอยู่หลังบ้าน ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่ใช่พ่อ คิดในใจว่าคงไม่มีอะไรหรอก พอขุดลงไปเจอถุงเลือด ก็รู้สึกใจเสีย คิดว่าคงไม่ใช่พ่อของตนหรอก จนเจ้าหน้าที่มาชันสูตรปรากฏว่าเป็นพ่อของตนที่หายตัวไปจริงๆ ส่วนผู้ก่อเหตุตนไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน มาเจอวันนี้เขาเข้ามาอยู่ในบ้านเลย แล้วเขาก็หยิบกุญแจบ้านมาไขประตูปิด แล้วก็หนีออกไปล็อคบ้านไม่ให้หนูเข้า อยากให้ตำรวจช่วยตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
“ไม่อยากให้มันติดคุกอยากให้มันโดนประหารชีวิต พ่อคงตายอย่างไม่สงบ พ่อยังห่วงตนอยู่เพราะตนก็ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย พ่อยังไม่หมดห่วงเรื่องของตน แต่เขามาทำร้ายพ่อ ในวันที่พ่อเขาเริ่มสร้างทุกอย่างได้แล้ว ทำทุกอย่างไว้ให้ตน แต่เขายังทำไม่สำเร็จ ฆาตกรก็มาตัดความฝันของเขาไป แล้วทิ้งให้พ่อของตนอยู่แบบนี้หรือ อยากให้ตำรวจช่วยจับให้ได้เร็วๆ ให้เขามาชดใช้กรรมกับสิ่งที่เขาทำ” น.ส.ณกฤติกา กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดรอบตัวบ้าน พบว่าผู้ก่อเหตุเดินมุ่งหน้าออกไปทาง ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ก่อนขึ้นแท็กซี่หลบหนีไป ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายทัศพงศ์ อายุ 32 ปี คนงานก่อสร้าง โดยหลังก่อเหตุได้เดินมาสารภาพ บอกคนที่บ้านเช่าว่าเป็นคนลงมือฆ่าผู้ตายโดยอ้างว่าโกรธแค้นที่ผู้ตายจะเลิกจ้างงาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขอหมายจับ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี จากนั้นมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตร หาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี