ปชช.ตื่นตัวฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
สกัดโควิดระลอกใหม่
คนแน่นรพ.กทม. 4 แห่ง-ภูมิภาค 5 จุด
ผวาระบาดหนักหลังสงกรานต์
ร้านยาโคราชคึกคักคนแห่ซื้อ ATK
สพฐ.สั่งรร.ทำแผนรับเปิดเทอม
หมอคาดป่วย 5 พัน-หมื่นคน/วัน
กรมการแพทย์เผยหลังสงกรานต์ปชช.สนใจเข้ารับฉีดวัคซีนโควิดมากขึ้น แจงจุดให้บริการในสังกัดกทม.มี 4 แห่ง ส่วนภูมิภาค 5 แห่งในเวลาราชการ ยันความพร้อม
ฉีดวัคซีนประจำปี“โควิด-หวัดใหญ่” เริ่มพ.ค.นี้ ขณะที่ประชาชน-หลายหน่วยงานตื่นตัวรับมือโควิดระลอกใหม่ ขณะที่สพฐ.ย้ำครูบุคลากรเฝ้าระวังสั่งรร.ทำแผนรับเปิดเทอม ที่โคราชชาวบ้าน แห่ซื้อชุดตรวจATKมาตรวจหาเชื้อหลังสงกรานต์ ส่วน‘หมอศิริราช’ระบุโอมิครอน XBB ยังไม่มีตัวไหนรุนแรงกว่าบรรพบุรุษ คาดไทยติดเชื้อวันละ5พันถึงหมื่นคน แต่เป็นพีคเล็กและจะลดลงใน2-3สัปดาห์ เช่นเดียวกับนายกฯห่วงปชช.สั่งทุกหน่วยบูรณาการรับมือโควิด
เมื่อวันที่ 19 เมษายน นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์รับวัคซีนโควิด-19 ว่า ก่อนสงกรานต์ที่ผ่านมาอัตรารับวัคซีนของประชาชน ยอมรับว่ามีน้อยมาก แต่เนื่องจากหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด XBB.1.16 ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความตระหนัก หันมารับวัคซีนอาจมาด้วย 2 ปัจจัย ทั้งจากภูมิคุ้มกันที่ลดลง จากระยะห่างของการรับวัคซีนในโดสก่อนมีมานานแล้ว รวมถึงความกังวลต่อไวรัสสายพันธุ์ลูกผสมตัวใหม่ จึงทำให้คนสนใจรับวัคซีนมากขึ้น ซึ่งสถานที่ฉีดวัคซีนในสังกัดของกรมการแพทย์ที่เปิดให้บริการตามปกติในเวลาราชการที่ยังได้รับความนิยม ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันโรคผิวหนัง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและโรงพยาบาลสงฆ์ ส่วนระดับภูมิภาคที่เปิดให้บริการอยู่ ได้แก่โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณ์ธัญบุรี โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานีและโรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี
ส่วนแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่จะฉีดควบคู่กับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่จะมีขึ้นวันที่ 1 พฤษภาคมนั้น นพ.มานัสกล่าวว่า รูปแบบคือ ต้นแขนข้างหนึ่งฉีดไข้หวัดใหญ่ อีกข้างหนึ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อสะดวกในการรับบริการ เริ่มในกลุ่มเสี่ยง 608 ก่อน เบื้องต้นเป็นการให้บริการในสถานพยาบาลในเวลาราชการ เพื่อให้สอดคล้องกับการคาดการณ์โรคที่กรมควบคุมโรคระบุสถานการณ์ของโควิด-19 อีกรอบจะพบช่วงเดือนพฤษภาคม ส่วนรายละเอียดตัววัคซีนนั้น ต้องรอจากกรมควบคุมโรค ขณะเดียวกันยังไม่มีความคิดเรื่องขยายจุดฉีดวัคซีนไปยังสถานีกลางบางซื่อเหมือนในอดีตเช่นเดิม
สำหรับสถานการณ์รับวัคซีนโควิดที่สถาบันโรคผิวหนัง ที่เปิดให้บริการตามปกติวันนี้ พบว่ามีประชาชนทยอยมารับวัคซีนต่อเนื่อง โดยวันนี้เปิดให้มีบริการรับวัคซีนไบวาเลนท์หรือวัคซีน 2 สายพันธุ์
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีผู้เชี่ยวชาญมีข้อกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเพิ่้มขึ้นหลังสงกรานต์ และสถานการณ์การติดเชื้อโควิดโอมิครอนลูกผสม XBB.1.16 ที่พบแล้วในหลายประเทศรวมถึงไทยตอนหนึ่งว่า โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย XBB.1.16 (.1) อาจทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่ในประเทศ อีกทั้งทำให้มีอาการรุนแรงได้ว่า เชื้อปัจจุบันโอมิครอนทุกสายตระกูลย่อย ยังไม่มีตัวใดรุนแรงกว่าบรรพบุรุษ ผู้ติดเชื้อถ้ามีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่งจากการเคยติดหรือเคยฉีด อาการโรคจะรุนแรงน้อยมากๆ ถ้ารุนแรงมักเป็นคนที่มีโรคทางร่างกายอยู่ หรือเป็นกลุ่มคนที่มีลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่างทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในตัวตอบสนองต่อการติดเชื้อรุนแรงเกินเหตุ
ทั้งนี้ ถ้าดูข้อมูลเฝ้าระวังในไทย เชื้อนี้ตรวจพบในประเทศตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และค่อยเพิ่มมากขึ้นจนตระกูล XBB กำลังแซงหน้าตระกูล BN แต่ทั้ง 2 ชนิดนี้ก็ร่วมบรรพบุรุษ BA.2 มาด้วยกัน ส่วนสายตระกูล BQ ที่มาจากบรรพบุรุษ BA.5 ดูเหมือนจะเร่งเครื่องไม่ขึ้นในบ้านเรา ในทางการแพทย์จึงไม่ได้กังวลในความรุนแรง และข้อมูลเฝ้าระวังผู้ป่วยโควิด อาการหนัก ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายเกินสัดส่วนที่ควรจะเป็นสำหรับผู้ติดเชื้อทั้งหมด
“ขณะนี้ประมาณการว่า คนในประเทศติดเชื้อประมาณวันละ 5,000-10,000 คน ถือว่าเป็นพีคเล็กเมื่อเทียบกับพีคของปีก่อน และน่าจะค่อยๆลดลงใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนหนึ่งเพราะเชื้อตัวนี้อาจแหวกภูมิคุ้มกันได้บ้าง แต่ส่วนหลักน่าจะเป็นเพราะเราเปิดประเทศให้คนนอกและคนของเรามากขึ้น อีกทั้ง คนที่เคยติดโอมิครอนช่วงครึ่งปีแรกของปีก่อนได้เวลาติดซ้ำอีกรอบ เมื่อมีกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น แต่ผลเสียจากการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ผมคิดว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับประโยชน์ของประเทศ” รศ.นพ.นิธิพัฒน์ ระบุ
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นห่วงสุขภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา เนื่องจากเพิ่งผ่านช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีการรวมกลุ่มเล่นน้ำ ส่งผลให้เชื้อโควิดกลับมาระบาดอีกครั้ง ขอให้ทุกคนระมัดระวัง ติดตามข่าวสาร และดำเนินการตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยให้ผู้บริหารโรงเรียนแต่ละแห่งเร่งทำแผนรับมือช่วงเปิดเทอมที่จะมาถึง
ด้านน.ส.ทิพานันศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นห่วงประชาชนเนื่องจากมีกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น ประชาชนเดินทางและร่วมกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์จำนวนมาก อาจเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังอาการตนเอง หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศีรษะ ตาแดง มีผื่น ถ่ายเหลว จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ควรตรวจ ATK หากผลเป็นบวกให้เข้ารักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิการรักษา เพื่อลดผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ด้วยความตระหนัก แต่ไม่ควรตระหนก นายกฯขอความร่วมมือทุกหน่วยงานบูรณาการเตรียมความพร้อมรับมือดูแลประชาชนอย่างเป็นระบบ
ส่วนผู้ป่วยโควิดที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ บัตรทอง30บาทนั้น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)มีระบบรองรับแบ่งเป็น3 กลุ่มคือ1.ผู้ป่วยสีเขียว มีอาการเล็กน้อย เข้ารับบริการได้ที่ร้านยาคุณภาพของฉัน ตรวจสอบรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/197พบแพทย์ออนไลน์ ส่งยาฟรีถึงบ้าน ผ่าน 4 แอพพลิเคชั่น ผู้ป่วยจะได้รับการซักถามและจ่ายยาตามอาการ ผู้ป่วยสามารถเลือกรับบริการผ่าน 4 แอพพ์สุขภาพ คือ 1.TotaleTelemed (โททอลเล่เทเลเมด) รับผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มเด็กผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 2. แอพพ์Clicknic (คลิกนิก) รับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวและสีเหลือง รวมถึงกลุ่ม 608 ทั่วประเทศ 3. MorDee(หมอดี) รับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวเฉพาะพื้นที่ กทม. (ไม่รับกลุ่ม 608) และ4. แอพพ์Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็มดี) รับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียว เฉพาะพื้นที่ กทม. (ไม่รับกลุ่ม 608)
2.ผู้ป่วยสีเหลืองคือ ผู้ป่วยมีภาวะเสี่ยงรุนแรง เป็นกลุ่ม 608 หรือมีโรคร่วม และมีอาการรุนแรงขึ้น
3.กลุ่มผู้ป่วยสีแดงที่มีอาการรุนแรง กว่า 94% ต้องรีบรักษาโดยเร็ว เข้ารับบริการที่หน่วยบริการได้ทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดเพื่อรักษาทันท่วงที โดยใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (UCEP) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช.1330ตลอด24ชั่วโมง หรือ เป็นเพื่อนที่ไลน์OAสปสช. ไลน์ไอดี@nhsoหรือเข้าเว็บไซต์ของ สปสช. ที่ www.nhso.go.th กรณีหาเตียงไม่ได้ หรือหน่วยบริการเตียงเต็ม ให้ติดต่อสายด่วน 1330.
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า บรรดาร้านขายยาในตัวเมืองนครราชสีมาตลอดทั้งวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ มีประชาชนเดินทางมาซื้อชุดตรวจ ATK ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 กันอย่างคึกคัก หลังจากที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ออกมาระบุสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มเพิ่มสูงขึ้น หลังเทศกาลสงกรานต์ ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา พบว่า ช่วงระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน ในจ.นครราชสีมา มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเป็น 109 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 16 ราย ทำให้ประชาชนตื่นตัวหาซื้อชุดตรวจ ATK กันอย่างคึกคัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี