เตือนกลุ่ม608

ควรรับวัคซีนโควิดปีละ1ครั้ง

ฉีดเดือนพ.ค.ก่อนฤดูฝน

ช่วงใกล้โรงเรียนเปิดเทอม

ลดเสี่ยงติดเชื้ออาการหนัก

“หมอยง”ย้ำโควิดเป็นโรคประจำฤดูกาล จึงปรับแผนเป็นการให้วัคซีนแบบโรคประจำฤดูเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ สำหรับไทยช่วงเวลาเหมาะสมคือ พฤษภาคม-มิถุนายน เพราะย่างเข้าหน้าฝน และเปิดเทอมเพื่อลดความรุนแรงหากติดเชื้อ เน้นกลุ่มเสี่ยง กลุ่ม608และคนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งมีคนแออัด แนะควรให้ปีละครั้ง

เมื่อวันที่ 23 เมษายน นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเรื่องการฉีดวัคซีนโควิดในประเด็นที่ว่า“โควิด-19 ควรฉีดวัคซีนหรือไม่” เป็นคำถามบ่อย สถานการณ์โควิดเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขณะนี้เข้าปีที่4 ทั้งนี้ เริ่มต้นความรุนแรงของโรคสูง จัดเป็นโรคติดต่ออันตรายร้ายแรง เราแย่งหาวัคซีน ต่อมาเมื่อความรุนแรงของโรคลดลง ในอีก 2 ปีต่อมาก็เปลี่ยนเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และปัจจุบันนี้โควิดเปลี่ยนมาเป็นโรคประจำฤดูกาล การให้วัคซีนก็ปรับเป็นการให้วัคซีนแบบโรคประจำฤดูกาล จะให้ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลของโรคและจะปรับเป็นปีละครั้งเช่นเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่

สำหรับฤดูกาลของโรคที่จะมีการระบาดเพิ่มสูงขึ้น ในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เช่นซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ที่มีฤดูหนาว การระบาดของโรคก็จะเกิดขึ้นในฤดูหนาว ไทยอยู่ในเขตร้อนชื้น ถึงแม้ว่าจะอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร แต่ก็ไม่มีฤดูหนาวที่แท้จริง มีร้อนมากกับร้อนน้อย การระบาดของโรคในไทยจึงพบได้ตลอดปี แต่จะพบสูงสุดในต้นฤดูฝน หรือเปิดเทอมแรกของนักเรียน ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่า วัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดโรคได้เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ แต่สามารถลดความรุนแรงของโรคได้ การให้วัคซีนจึงมุ่งเน้นในกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง608 พื้นที่ที่มีคนที่อยู่หนาแน่น เช่น ในเรือนจำ เรือนทหารและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีแนวโน้มเสี่ยงติดทั้งโรคง่าย ควรให้ตามฤดูกาลปีละ1ครั้ง

“เวลาที่เหมาะสมในการให้วัคซีนสำหรับประเทศไทยก็คือ ก่อนมีการระบาดของโรคที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ดังนั้น เวลาให้วัคซีนที่เหมาะสมประจำปีจึงเป็นปลายเดือนเมษายน พฤษภาคมของทุกปี”นพ.ยงระบุ และว่า ดังนั้น ผู้ที่ได้รับวัคซีนมานานแล้วเกินกว่า 3-6 เดือนขึ้นไป และอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรให้วัคซีนประจำฤดูกาลปีละ1ครั้งซึ่งปีนี้สามารถเริ่มให้ได้เลยก่อนที่จะมีการระบาดของโรค โดยใช้สายพันธุ์ที่ใกล้เคียงที่สุดที่มีอยู่ แล้วค่อยไปให้ปีหน้าอีก1ครั้ง ทุกอย่างคล้ายไข้หวัดใหญ่ ส่วนคนปกติก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจเช่นเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่ แต่ผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือกลุ่มเปราะบางดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เพื่อลดความรุนแรงของโรค

ด้าน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ไบโอเทค-สวทช.โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับโควิด ระบุว่า อากาศร้อนๆโควิดไม่ชอบ แพร่ไม่ดี แต่ตอนนี้อินเดียยังเป็นขาขึ้นและไทยก็กำลังขึ้น หลายคนสงสัยว่า ทำไมอากาศร้อนๆแบบนี้โควิดถึงขึ้นได้ แต่ความเป็นจริงยิ่งร้อนยิ่งไปรวมกันในที่เย็นอากาศถ่ายเทไม่ดี โอกาสของการติดโควิดน่าจะง่ายกว่าช่วงอากาศดีๆ ที่คนออกไปเดินกันข้างนอกนะครับ