หัวอกแม่จำใจแจ้งตำรวจคุมตัวลูกชายส่งบำบัดหลังติดยาบ้าหนักเดินอาละวาดด่าคนในหมู่บ้านจนหวาดกลัว แถมขโมย จยย.คนงานโรงสีข้าว ขับไปไกลกว่า 10 กม.ก่อนถูกสกัด แม่บอกรู้ลูกชายติดยาบอกให้เลิกแต่ไม่ฟังเคยถูกจับคดีครอบครองติดคุกหลายปีเพิ่งออกก็กลับมาเสพอีกจนหลอนพูดคนเดียวแม่ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น กลัวลูกชายคลั่งก่อเหตุฆ่าคนอื่นเหมือนในข่าวจึงอยากให้นำไปบำบัดรักษา
วันที่ 3 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากนางหาญ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาวบ้านหัววัว ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ว่าลูกชายมีอาการหลอนจากฤทธิ์ยาเสพติดอาละวาดโวยวายเดินด่าชาวบ้านไปทั่วหมู่บ้าน ทั้งยังขโมยรถจักรยานยนต์คนงานโรงสีข้าวในหมู่บ้านไปด้วย อยากให้ตำรวจช่วยนำตัวลูกชายส่งบำบัดรักษา หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประสานสายตรวจตำบล กำนันตำบลเสม็ด และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบนางหาญ ผู้เป็นแม่ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านด้วยอาการกระวนกระวายใจ พร้อมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า นายเต้ย อายุ 24 ปี ลูกชายคนเล็กเคยถูกจับกุมคดีครอบครองยาเสพติดและติดคุกอยู่หลายปีเพิ่งจะออกมาได้ประมาณ 1 ปี ก็กลับมายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ระยะหลังอาการหนักขึ้นเริ่มพูดคนเดียวจำใครไม่ค่อยได้ ล่าสุดเดินอาละวาดโวยวายด่าคนในหมู่บ้านไปทั่วจนชาวบ้านเกิดความหวาดกลัว ทั้งยังขโมยรถจักรยานยนต์ของคนงานที่จอดไว้ในโรงสีข้าว แล้วขับไปไกลกว่า 10 กม. แต่ถูกตำรวจท้องที่ สภ.หนองสองห้อง สกัดเอาไว้ได้ พร้อมนำรถจักรยานยนต์กลับมาส่งคืน เจ้าของไม่เอาเรื่องเจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวมา จากนั้นก็ขังตัวเองในบ้านพูดคนเดียวไม่ยอมนอนทั้งคืนจนถึงเช้า จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำตัวลูกชายส่งไปบำบัดรักษา เพราะกลัวหากปล่อยไว้จะก่อเหตุรุนแรงถึงขั้นทำร้ายหรือฆ่าคนเสียชีวิตได้
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้แม่ และกำนันเข้าไปพูดคุยเกลี้ยกล่อมก่อน หากไม่เป็นผลจึงจะใช้อุปกรณ์ไม้ง่าม เข้าทำการควบคุมตัวตามยุทธวิธี แต่พอกำนันเข้าไปพูดคุยนายเต้ย ก็ไม่ได้มีท่าที่ขัดขืนแต่มีอาการเหม่อลอย เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจค้นในร่างกายไม่พบอาวุธหรือยาเสพติด จึงได้นำตัวส่งไปบำบัดรักษาที่ รพ.บุรีรัมย์โดยให้ผู้เป็นแม่ตามไปด้วย
นางหาญ ผู้เป็นแม่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตัวเองรู้ว่าลูกชายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมานานแล้วบอกให้ลูกเลิกหลายครั้ง แล้วไปหางานทำแต่ลูกก็ไม่ฟังจนเคยถูกจับติดคุก แต่ออกมาก็วนเวียนอยู่กับยาเสพติดอีก จนมีอาการหนักขึ้นเรื่อยทั้งพูดคนเดียว เริ่มโวยวายอาละวาด จนตนเองต้องออกไปอยู่ข้างนอก แต่หัวอกคนเป็นแม่ก็ยังรักลูกก็จะเอาข้าว เอาเงินมาให้ลูกเป็นระยะ แต่พออาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านในหมู่บ้านก็กลัวจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจให้มาช่วยนำตัวลูกชายส่งไปบำบัดรักษา เพราะกลัวหากปล่อยไว้ลูกอาจจะก่อเหตุฆ่าคนตายเหมือนที่เป็นข่าวในหลายๆ จังหวัด - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี