สธ.คิกออฟวันแรก
ฉีดวัคซีนเข็มคู่‘หวัดใหญ่-โควิด’ฟรี
สกัดระบาดหนักช่วงหน้าฝน
‘เน้น7กลุ่มเสี่ยง’ทุกสิทธิ์รักษา
หมอโอภาสถกแขนเสื้อประเดิม
“อนุทิน” นำผู้บริหาร สธ.เปิดกิจกรรมรณรงค์ “ฉีดวัคซีนคู่ สู้หน้าฝน” ป้องกันทั้ง “หวัดใหญ่-โควิด” ประจำปี ประเดิมดึงกลุ่มเสี่ยงคือผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป-ผู้มีโรคเรื้อรัง-หญิงตั้งครรภ์และกลุ่มเสี่ยงอื่นอาทิ ทหารและผู้ต้องขังในเรือนจำ เข้าฉีดไข้หวัดใหญ่ได้ทุกสิทธิ์รักษา ประชาชนทั่วไป หากฉีดเกิน 6 เดือน มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ จากนี้ไปมารับวัคซีนโควิดได้ปีละ 1 เข็ม ‘ปลัด สธ.’ประเดิมฉีดวัคซีนเข็มคู่ สู้หน้าฝนเป็นตัวอย่าง ด้าน สปสช.พร้อมจัดซื้อวัคซีนหวัดใหญ่เพิ่ม ถ้าในสต็อคที่มี5.26ล้านโดส ไม่พอ
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ที่สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน World Immunization Week: 2023 Vaccine for Everyone “Episode II: วัคซีนคู่ สู้หน้าฝน (Dual Immunity)” มีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ร่วมงาน ในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ นพ.โอภาสได้ฉีดวัคซีนเข็มคู่ ทั้งไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด -19 ประเดิมเป็นตัวอย่างด้วย
นายอนุทินกล่าวว่า สธ.เปิดกิจกรรมเชิญชวนประชาชนกลุ่มเสี่ยง บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขมาฉีดวัคซีนเข็มคู่ ทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนป้องกันโควิด เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้ประชาชน เพราะขณะนี้เริ่มเข้าฤดูฝน ซึ่ง สธ.เปิดจุดบริการตามโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และยังรับวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นได้ ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์และกลุ่มเสี่ยงอื่นตามเกณฑ์ เข้าฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ทุกสิทธิ์รักษา สำหรับประชาชนทั่วไปมาฉีดวัคซีนโควิดได้ หากเคยฉีดเกิน 6 เดือน ก็มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ และจากนี้ไปวัคซีนโควิดจะมารับได้ปีละ 1 เข็ม
นายอนุทินยืนยันว่า วัคซีนโควิดเตรียมไว้เพียงพอ ส่วนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ กระทรวงสาธารณสุขหวังให้กลุ่มเสี่ยงได้ฉีดครอบคลุมมากขึ้น จึงปรับลดค่าบริการฉีดวัคซีนจาก 60 บาทเหลือ 20 บาทต่อครั้ง เพื่อให้ สปสช.นำเงินค่าบริการส่วนนี้ไปปรับเป็นงบประมาณจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่ม ช่วยประหยัดงบประมาณ ซึ่งบอร์ดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เห็นชอบจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มอีก 8.6 แสนโดส เมื่อรวมกับวัคซีนที่สปสช.จัดซื้อสำหรับ 7 กลุ่มเสี่ยงปีนี้ 4.4 ล้านโดส จะมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้บริการทั้งหมด 5.26 ล้านโดส
ขณะที่นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวถึงสถานการณ์ระบาดโควิดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 10 คนและพบผู้เสียชีวิตตามบ้านว่า ผู้เสียชีวิต 10 คน มี 6 คนเป็นผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว และเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดเป็นครั้งแรก อีก 4 คนเป็นผู้ได้รับวัคซีนนานแล้วยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น จึงมีโอกาสป่วยหนักได้ ดังนั้น การรับวัคซีนจึงจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุรวมทั้งกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวที่ช่วยลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ การพบผู้เสียชีวิตตามบ้านแสดงให้เห็นว่าเรายังมีปัญหานี้ซ่อนอยู่ สิ่งที่ทำได้คือ ให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เคาะประตูบ้าน สำรวจและชวนมารรับวัคซีน หรือนำวัคซีนไปฉีดที่บ้าน ทั้งนี้ สายพันธุ์โอมิครอนที่ระบาดขณะนี้ แม้ว่าความรุนแรงลดลง ไม่รุนแรงสำหรับคนที่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนหรือเคยติดเชื้อมาก่อน แต่ไม่ใช่สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งมีกว่า 2 ล้านคนที่ยังไม่เคยรับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.เผยว่า สำหรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีที่ผ่านมา สปสช.จัดซื้อ 4.5 ล้านโดส ที่เหลือจะจัดบริการให้ทหารเกณฑ์ และกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ ส่วนปีนี้ซื้อมา 4.4 ล้านโดส และล่าสุดจัดซื้อเพิ่มอีก 8.6 แสนโดสรวมเป็น 5.26 ล้านโดส ซึ่งกรณีฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กลุ่มเสี่ยงนั้น จะฉีดได้ทุกสิทธิ์การรักษา ทั้งนี้ หากปริมาณวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่เพียงพอกับกลุ่มเสี่ยงที่ตื่นตัวมาฉีดมากขึ้น ก็พร้อมพิจารณาซื้อเพิ่มเติมได้ ซึ่งปีที่ผ่านมาการมาฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อยู่ที่ประมาณ 95% ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มทหารเกณฑ์ ผู้ต้องขังในเรือนจำ
ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ที่ได้รับสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างรับเคมีบำบัด และเบาหวาน บุคคลอายุ 65 ปีขึ้นไป โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) โรคอ้วน น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม และผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตนเองไม่ได้
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต และหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ โควิดปรับเข้าเป็นโรคประจำฤดูกาล เช่นเดียวกับโรคทางเดินหายใจอื่น เช่น ไข้หวัดใหญ่ RSVไข้หวัด rhinovirus โรคประจำฤดูกาลดังกล่าวสร้างปัญหาได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง อายุมาก มีโรคประจำตัวและเด็กเล็ก เห็นจากไข้หวัดใหญ่ RSVเมื่อติดเชื้อแล้วมีโอกาสเป็นซ้ำได้ แต่ถ้าร่างกายแข็งแรงความรุนแรงก็น้อย
ทั้งนี้ ไข้หวัดใหญ่ถึงแม้มีวัคซีน ก็ไม่สามารถป้องกันติดเชื้อได้ดี จึงยังระบาดทุกปีและเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไปตลอดเช่นเดียวกับโควิด เป็นแล้วยังเป็นซ้ำได้อีก โดยความรุนแรงจะลดลงยกเว้นในกลุ่มเปราะบาง RSV ความรุนแรงพบได้ครั้งแรกในเด็กขวบปีแรก หรือเด็กเล็กและปีต่อไป ความรุนแรงก็จะลดลง และจะไปพบความรุนแรงอีกครั้งหนึ่งในผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี