“ไอซ์-ปรีชญา” ดาราสาวโชว์บริสุทธิ์ใจ เข้าพบตำรวจชี้แจงสาเหตุสั่งซื้อ“ไซยาไนด์” เพื่อใช้กำจัดสัตว์เลื้อยคลาน แม่เผยจิตใจย่ำแย่ทั้งคู่ “ลูกสาว” ร้องไห้ตลอด

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม ที่สโมสรตำรวจ นายมนต์ชัยจงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้ว พร้อมด้วย นางสาวปรีชญา พงษ์ธนานิกรหรือไอซ์ และนางบังอร พงษ์ธนานิกร มารดา เดินทางเข้าพบตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการวางยาไซยาไนด์ของ นางสาวแอม จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน เพื่อมาให้ข้อมูลในฐานะพยาน เนื่องจากพบว่าเป็นผู้สั่งซื้อไซยาไนด์ล็อตเดียวกับนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาพรณ์ ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”ถึง 14 คดี

โดยไอซ์ ดาราสาว ระบุยืนยันว่า ตนเองสั่งซื้อยาดังกล่าวเพราะต้องการเอามากำจัดสัตว์ เลื้อยคลานในบ้าน เนื่องจากที่บ้านเกิดปัญหาบ้านทรุด และเกิดโพรงต่างๆขึ้นทำให้มีสัตว์เลื้อยคลานเข้ามาในบ้านเป็นจำนวนมาก ไม่มีเจตนานำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ซึ่งข้อมูลได้มาจากการหาทางในอินเตอร์เน็ตจนทราบสถานที่ขาย และก็สั่งซื้อมาก่อนที่จะทราบข่าวเพราะเมื่อสั่งซื้อเสร็จ จึงมาเห็นข่าวประกอบกับเมื่อของเดินทางมาถึงก็พบว่าเป็นชนิดเดียวกันกับที่ปรากฏในข่าวของแอม จึงไม่กล้าใช้ และนำไปให้ตำรวจ สน.บางเขน

นางบังอร พงษ์ธนานิกร มารดาของไอซ์ กล่าวว่าที่ผ่านมาได้รับกระทบจากสัตว์เลื้อยคลานหลายชนิด ทั้งงู และตัวเงินตัวทอง จนมากัดสุนัขที่เลี้ยงไว้จนตายหลายตัว เนื่องจากพื้นบ้านที่ต่อเติมทรุดตัว จากการก่อสร้างของโครงการข้างเคียง ที่ผ่านมาได้แจ้งนิติบุคคลไปแล้ว แต่ก็ต้องซ่อมแซมส่วนที่เสียหายไปบ้างแล้ว ยกเว้นส่วนที่ต่อเติมใหม่

“ที่บ้านเป็นโพลงจนมีสัตว์ต่างๆ เข้ามาอาศัยได้นั้นเป็นเพราะมีการตอกเสาเข็มบริเวณใกล้บ้าน จึงทำให้พื้นบริเวณบ้านทรุด และร้าวจนเกิดโพลงและรูจนเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ ซึ่งได้ให้ช่างเข้ามาประเมินราคาแต่ราคาที่ต้องซ่อมนั้นสูงมากจึงทำได้แค่แก้ไขเฉพาะหน้าไปก่อน การที่ตัดสินใจเลือกไซยาไนด์แทนที่จะเป็นอย่างอื่นนั้น ตนได้ลองมาแล้วหลายอย่างทั้งกำมะถัน และผงชอล์ก แต่ก็กำจัดแต่แค่สัตว์เล็กจำพวกมด หนู ตะขาบ แต่ไม่สามารถกำจัดสัตว์ใหญ่อย่างตัวเงินตัวทอง หรืองูได้ ส่วนการสั่งซื้อไซยาไนด์นั้นไม่ได้มีคนแนะนำให้สั่งซื้อ แค่ค้นหาจากอินเทอร์เน็ตก็พบ”นางบังอรกล่าว

ขณะที่ก่อนหน้านี้มีการโยงเรื่องการเสียชีวิตของอดีตผู้จัดการส่วนตัวว่าเป็นการกระทำของไอซ์ ก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องแน่นอน เพราะอดีตผู้จัดการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคประจำตัว หลังจากนี้ก็อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินคดีกับเพจเฟสบุ๊กเพจหนึ่ง ที่ได้นำข้อมูลนี้ไปเผยแพร่จนทำให้สังคมเข้าใจผิด เพราะทำให้มีผลกระทบทางจิตใจเป็นอย่างมาก

นางบังอร กล่าวว่า เมื่อวานตนได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ สน.คันนายาว ว่าให้เข้าไปพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เวลา 16.00 น. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ตนยืนยันว่ายังไม่ได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่การไปครั้งนี้ไปเพราะได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ สน.คันนายาว ในส่วนของหลักฐานตอนนี้อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าทาง สน.คันนายาว จะส่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่สโมสรตำรวจหรือไม่ “ตอนนี้สภาพจิตใจของตนและลูกสาวย่ำแย่มาก ลูกสาวหลังจากตกเป็นข่าวก็ร้องไห้ตลอดเวลา เพราะกระทบกับงานเจตนาของเราที่ซื้อไซยาไนด์มานั้นต้องการนำมาไล่ และกำจัดสัตว์ที่บุกรุกบ้านเท่านั้น แต่การที่เราซื้อมาแล้วอ้างว่าไม่รู้ถึงข้อกฎหมายนั้นไม่ใช่ข้อแก้ตัว ทั้งนี้เราก็ได้ยอมรับว่าการที่เราซื้อมานั้นถือเป็นความผิดที่ต้องยอมรับ”แม่ไอซ์กล่าว

ด้าน นายมนต์ชัย จงไกลรัตนกุล ทนายความ ระบุว่า ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมทั้งจะแจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบถึงวัตถุประสงค์ ที่ไม่ได้นำไปใช้อย่างอื่น ส่วนจะมีความผิดฐานครอบครองวัตถุอันตรายหรือไม่ ก็ต้องรอให้พนักงานสอบสวนพิจารณา โดยหลังจากที่ทราบเรื่องก็ให้นำไซยาไนด์ที่สั่งซื้อมามอบให้กับพนักงานสอบสวนสน.บางเขน เก็บรักษาไว้รอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่