ตำรวจสืบสวนภาค 1 สืบจังหวัดนนทบุรี และสืบ สภ.บางบัวทอง นำกำลังเข้าจับกุม "ไอ้แจ๊ค" มือฆ่าปาดคอเผาอำพรางคดีเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าอำเภอบางบัวทอง คุมตัวสอบผู้ต้องหารับสารภาพ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค.66 เวลาประมาณ 09.10 น.ศูนย์วิทยุ สภ.บางบัวทอง ได้รับแจ้งมีหญิงเสียชีวิตที่ร้านรับซื้อของเก่า หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 1 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วรรณา ตันติวณิชย์ อายุ 52 ปี สภาพศพมีบาดแผลไฟไหม้บริเวณใบหน้ากับลำตัว ขณะที่ข้อมือและข้อเท้าถูกมัดด้วยสายไฟเสียชีวิตอยู่บริเวณภายในห้อง หลังนำศพส่ง รพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิตชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตก่อนจะถูกเผาอำพราง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้นำตัวนายสุทโธ สามีคนตาย นางบุญล้อม พี่สาวนายสุทโธ น.ส.นิตยา นายทวีศักดิ์ งและนายวิพัฒน์ หลานนายสุทโธ มาสอบปากคำ ทั้งหมดให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่องการเสียชีวิตของ น.ส.วรรณา แต่อย่างใด
ต่อมาทางทีมชุดคลี่คลายคดี ได้ข้อมูลว่ามีหลานของนายสุทโธ คือนายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค อายุ 35 ปี เคยเป็นคนงานทำงานที่ร้านนี้แล้วถูกไล่ออกเนื่องจากประพฤติตัวไม่ดี ประกอบกับข้อมูลหลักฐานที่ทางตำรวจได้มาจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ร้านรับซื้อของเก่าให้ข้อมูลว่าเห็นรถจักรยานยนต์สีแดงขับออกจากหน้าร้านในช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ตำรวจจึงได้ไล่กล้องตรวจสอบเส้นทางพบว่ารถคันดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบว่าเป็นคนของนายหนุ่ม (นามสมมุติ) ให้ข้อมูลว่านายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค ขอยืมไปใช้โดยไม่ทราบว่านายพงษ์ภัทร นำไปก่อเหตุตำรวจจึงรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังบุกเข้าจับกุมตัวนายพงศ์ภัทร หรือ แจ๊ค ได้ที่บ้านในพื้นที่หมู่ ต.บางพลี อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา นำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนนายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค รับสารภาพว่า เป็นคนที่ลงมือฆ่า น.ส.วรรณา จริงโดยอ้างว่าวันที่เกิดเหตุนั้นตั้งใจที่จะไปขโมยของในร้านขายของเก่า แต่ผู้ตายตื่นมาเจอแล้วบอกว่าจะโทรศัพท์บอกนายสุทโธ ตนกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีจึงไปแย่งโทรศัพท์ ขณะที่ผู้ตายตะโกนร้องให้คนอื่นมาช่วยจึงใช้ผ้าอุดปากเพื่อไม่ให้ผู้ตายส่งเสียงร้องเรียกให้คนมาช่วย แล้วใช้สายไฟมัดมือและเท้าของผู้ตาย หลังจากนั้นจึงใช้มีดปาดที่ลำคอของผู้ตาย แล้วได้เอาสร้อยข้อมือทองคำของผู้ตายไปด้วย ก่อนที่จะจุดเทียนแล้วนำเศษกระดาษทำเป็นเชื้อเพลิง เพื่อที่จะให้เกิดเพลิงไหม้ในร้านขายของเก่าเพื่อที่จะอำพรางศพ หลังจากนั้นก็ขับรถหลบหนีแล้วนำทองไปขายที่ร้านทองแถวอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
ต่อมา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 เดินทางมาที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อสอบปากคำนายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค เพื่อถามสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ก่อนจะให้ทางพนักงานสอบสวนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ
ด้านนายสุทโธ สามีคนตายกล่าวทั้งน้ำตาว่า ไม่คิดว่าจะเป็นหลานที่ก่อเหตุครั้งนี้ ทั้งที่ผู้ตายคอยดูแลเมตตาสงสารมาตลอด เมื่อก่อนเคยทำงานที่ร้านแต่พฤติกรรมไม่ดี ตนจึงไล่ออกจากงาน ผู้ตายสงสารยังให้ไปพักอยู่ที่ห้องพักด้านนอก ไม่คิดว่าเขาจะเหี้ยมโหดแบบนี้ตนอยากให้เขาได้รับกรรมตายตกตามไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี