อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง เชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล  โดยเฉพาะที่เกาะกระดานที่มีชายหาดที่ดีที่สุดในโลก และการดำน้ำดูปะการังใต้ทะเล ก่อนที่จะปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล จำนวน 4 เกาะ 4 เดือน  เพื่อให้ธรรมชาติได้พักฟื้นหลังจากที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยว  ส่วนแหล่งท่องเที่ยวบริเวณชายหาดสามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังพบพะยูนโผล่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย

12 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง เตรียมประกาศปิดการท่องเที่ยวทางทะเล ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายนของทุกปี เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  ที่สั่งการให้อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ดำเนินการปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม สามารถฟื้นฟูสภาพตามธรรมชาติได้ด้วยตนเอง เป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ อันเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสำหรับการออกไปท่องเที่ยวทางทะเล โดยทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมกำหนดเปิดการท่องเที่ยวใหม่อีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2566

นายพริษฐ์ นราสฤษฏ์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล โดยเฉพาะที่เกาะกระดานที่มีชายหาดที่ดีที่สุดในโลก และการดำน้ำดูปะการังใต้ทะเล ก่อนที่ประกาศปิดการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน  – 30 กันยายน 2566 ประกอบด้วย เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะแหวน เกาะเชือก โดยได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวรับทราบแล้ว โดยจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ไปเฝ้าระวังควบคุมลาดตระเวนไม่ให้มีการนำเรือออกไปเที่ยวทางทะเลโดยเด็ดขาด หากพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

จึงขอความร่วมมือจากเรือผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างๆ ว่าอย่าได้นำนักท่องเที่ยวออกไปท่องเที่ยว เพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงหน้าฤดูมรสุม ทั้งนี้การท่องเที่ยวของตรังเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์  จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว  ในขณะที่แหล่งท่องเที่ยวถ้ำมรกตนั้นจะปิดการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 กันยายน และแหล่งท่องเที่ยวบริเวณชายหาดสามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติ อีกทั้งการปิดแหล่งท่องเที่ยวที่บ้านเกาะมุกด์นั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบพะยูนโผล่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย