พายุฤดูร้อนพัดถล่มศรีสะเกษ
บ้านพังยับเยิน
พ่อ-แม่-ลูกรอดตายหวุดหวิด
‘พัทยา’ฝนตกหนักถนนลื่น
รถบัสพลิกคว่ำ-โชคดีไร้เจ็บ
กรมอุตุฯชี้ทั่วไทยมีฝนหนัก
กรมอุตุฯเตือนทั่วไทย ฝนตกหนัก ทะเลอันดามันคลื่นลมแรง กระทบถึง 30 พฤษภาคม นี้ ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ 3 พ่อแม่ลูก มุดใต้ที่นอนหลบพายุฝน-ลมกระโชกแรง ซัดหลังคาบ้านปลิว ต้นไม้ล้ม ข้าวของเสียหาย รอดตายหวิว ขณะที่รถมินิบัสพัทยา-บ้านแหลม พลิกคว่ำชนศาลาข้างทาง โชคดีไร้เจ็บ เหตุฝนตกถนนลื่น
เมื่อวันที่ 28พฤษภาคมน.ส.ชมภารี ชมพูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 28-30พฤษภาคม 2566 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศกัมพูชาและเวียดนามตอนล่างจะเคลื่อนผ่านประเทศไทยและลงสู่อ่าวมะตะบัน ประเทศเมียนมา ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีสมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2566
ที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวได้เข้าสำรวจความเสียหายในพื้นที่บ้านยาง หมู่ 1 ต.ยาง อ.กันทรารมย์ ภายหลังได้รับแจ้งว่าที่หมู่บ้านดังกล่าว ถูกพายุพัดบ้านเรือนพังเสียหายไปหลายหลัง และมีต้นไม้หักโค่น โดยที่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 1 ต.ยาง อ.กันทรารมย์ ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นใต้ถุนโล่ง ปลูกอยู่กลางทุ่งนา ของนายพงษ์ยุทธ กิ่งผา อายุ 46 ปี ได้ถูกแรงลมจากพายุพัดหลังคากบ้านเสียหาย โดยนายพงษ์ยุทธ เปิดเผยว่า เหตุเกิดในช่วงค่ำวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีพายุฝนตกหนักและลมกระโชกแรง สักพักลมที่พัดเหมือนพายุหมุน ก็พัดเอาหลังคาบ้านปลิว และต้นไม้รอบๆ บ้าน หักโค่นลง ตนรู้สึกกลัวและเกรงว่าภรรยาและลูกจะได้รับอันตราย จึงรีบเอาที่นอนมาหุ้มตัวไว้ นอกจากนี้ขื่อไม้ คานบ้าน ยังหล่นลงมาทับใส่ภรรยาและลูก ด้วย แต่โชคดีที่ตนนำที่นอนมาหุ้มคลุมทั้งสองไว้ก่อน
นายพงษ์ยุทธ เปิดเผยด้วยว่า ได้รีบสับคัทเอ้าท์ตัดกระแสไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่ว และรีบหลบใต้ที่นอนกับภรรยาและลูก เพื่อความปลอดภัย เมื่อพายุลมค่อยๆ เบาลงจนสงบ จึงออกมาสำรวจความเสียหาย จึงพบว่าหลังคาบ้านที่เป็นสังกะสีถูกพายุพัดปลิวไปเกือบทั้งหมด ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าก็ถูกฝนจนเปียก เสียหาย ซึ่งตนและครอบครัวต้องไปอาศัยนอนบ้านญาติที่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร เป็นการชั่วคราวก่อน
“ผมเคราะห์ร้ายเหลือเกิน เมื่อปี 2559 บ้านก็ถูกไฟไหม้วอดหมดทั้งหลังมาแล้ว ต้องค่อยๆ เก็บออมเงินมาปลูกบ้านหลังนี้ แต่กลับต้องมาถูกพายุพัดถล่มเสียหายอีก ก็ไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาซ่อมแซมบ้าน ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน มีฝนตกชุกทุกวัน เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ก็เสียหายทั้งหมด” นายพงษ์ยุทธ กล่าว
ด้านนายอิทธิพล สุยะลา นายอำเภอกันทรารมย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางอำเภอได้มอบหมายให้อบต.ในแต่ละพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายในพื้นที่รับผิดชอบแล้ว ว่ามีหมู่บ้าน ชุมชนไหนได้รับความเสียหายจากพายุฝนครั้งนี้ โดยยังไม่แน่ชัดว่าใน อ.กันทรารมย์ มีผลกระทบกี่ตำบล กี่หมู่บ้าน ซึ่งหากมีการรวบรวมแล้วก็จะให้รีบรายงานเข้ามา เพื่อเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนโดยด่วน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังตำรวจ สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยแพทย์และกู้ภัย เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถมินิบัสโดยสาร สีขาว สายพัทยา-บ้านแหลม พลิกตะแคง และชนศาลาพักรอของผู้โดยสาร ที่อยู่ข้างทาง ด้านหน้าตลาดเอกธานี กม.ที่ 10 แต่โชคดีที่ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากมีผู้โดยสารรอรถอยู่เพียง 1 คน ส่วนคนขับรถ บขส.ที่ประสบเหตุพลิกคว่ำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทราบชื่อคือ นายอำนาจ ซึ่งให้การว่า ในระหว่างขับรถจากพัทยากำลังมุ่งหน้าเข้า จ.ระยอง เพื่อส่งผู้โดยสารเมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ มีฝนตกหนักทำให้รถลื่นเสียหลักพลิกคว่ำและไถลไปชนศาลาพักรอข้างทางดังกล่าว