นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ แฉสาเหตุที่เกิดปัญหาขี้หมูจากฟาร์มเอกชนส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านถ้ำปลา เนื่องจากเกษตรกรยังสร้างฟาร์มไม่เสร็จสมบูรณ์และผู้ประกอบการนำหมูเข้ามาเลี้ยง โดยขาดประสบการณ์ ลั่นในอนาคตจะไม่อนุญาตให้เลี้ยงหมูเด็ดขาด หากสร้างฟาร์มไม่ได้มาตรฐาน

จากกรณีชาวบ้านใน ต.สหัสขันธ์ และต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นของขี้หมูที่โชยออกมาจากฟาร์มเลี้ยงหมูเอกชน 16 ฟาร์มโดยมีผลกระทบจากมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ ส่งผลให้สุขภาพจิตเสีย ปวดหัวปวดประสาทและเจ็บป่วยด้วยโรคทางลมหายใจ จึงออกมาเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรีบแก้ไข ล่าสุดมีการล่ารายชื่อและร้องทุกข์กล่าวโทษเอกชนและผู้เลี้ยงหมูให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่นายอำเภอสหัสขันธ์เรียกทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหาทางออก เดทไลน์แก้ปัญหากลิ่นภายใน 2 สัปดาห์และแก้ปัญหาทั้งระบบภายใน 2 เดือน ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 31 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บ้านถ้ำปลา หมู่ 3 และหมู่ 11 ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นชุมชนอยู่ใกล้กับฟาร์มเลี้ยงหมูของเอกชน 16 ฟาร์ม ยังคงมีกลิ่นเหม็นของขี้หมูโชยมาเป็นระยะ ตามจังหวะที่กระแสลมจะพัดพามา ถึงแม้ว่าบางครั้งกลิ่นเหม็นนั้นจะเจือจางลงบ้าง เนื่องจากเอกชนและผู้ประกอบการ ได้ดำเนินการดับกลิ่นด้วยการทำม่านน้ำให้กับฟาร์มเลี้ยงหมู และเริ่มขนย้ายหมูออกจากฟาร์ม ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ ในการประชุมที่ห้องประชุมอำเภอสหัสขันธ์เมื่อวันที่ 23 พ.ค.66 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ยังอยู่ในกระแสและวิพากษ์วิจารณ์ในชุมชน รวมทั้งแสดงความคิดเห็นในโซเชียลอย่างแพร่หลาย ขณะที่สังคมกำลังจับตามองว่า การแก้ไขปัญหาจะสัมฤทธิ์ผล ในกรอบ 2 เดือนจริงหรือไม่

ด้านนายธวัชชัย บุญทานันท์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) สหัสขันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของการอนุญาตสร้างฟาร์มหมู 16 ฟาร์มดังกล่าว อบต.สหัสขันธ์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนถูกต้องตามระเบียบ แต่ที่เกิดเป็นปัญหาเนื่องจากผู้ประกอบการยังขาดองค์ความรู้ในโครงสร้างการเลี้ยง การจัดระบบกำจัดของเสียยังไม่ครบถ้วน เอกชนที่เข้ามาส่งเสริมก็ขาดการประชาสัมพันธ์ ที่จริงใจ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูยังขาดความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการในฟาร์ม เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหากลิ่นเหม็น ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนตามมา ตรงนี้ได้ดำเนินการแก้ไขในส่วนของการจัดทำม่านน้ำ ขณะที่การทำบ่อบำบัดและหลุมฝังกลบ เกษตรกรบางรายยังรอสินเชื่อกับ ธ.ก.ส.อยู่ คาดว่าอีกไม่นาน นอกจากนี้บางฟาร์มได้ขนย้ายและจำหน่ายหมูออกเพื่อลดจำนวนเลี้ยงและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า สำหรับตัวอาคารหรือฟาร์มที่ยังไม่สมบูรณ์แบบนี้บริษัทเอกชนและผู้ประกอบการรับผิดชอบเอง ส่วนเรื่องนำหมูเข้ามาเลี้ยงในฟาร์ม ปศุสัตว์เป็นฝ่ายอนุมัติและดำเนินการกับผู้ประกอบการ อบต.สหัสขันธ์ เป็นเพียงผู้ออกใบอนุญาตให้สร้างฟาร์มเลี้ยงหมูเท่านั้น ซึ่งเริ่มต้นประชาคมและดำเนินการเมื่อปี 2564 ก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นนายก อบต.สหัสขันธ์ ก่อนที่ทางปศุสัตว์ให้ขนย้ายหมูเข้า-ออก โดยไม่ได้แจ้งมาที่ อบต.พอมีปัญหาเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่จะต้องช่วยกันแก้ไข ซึ่งต่อไปจะได้วางระบบใหม่การขนย้ายหมูต้องแจ้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรับทราบร่วมกัน ทั้งปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ อบต. สาธารณสุข ก่อนนำหมูเข้ามาเลี้ยงจะต้องสร้างโรงเรือนหรือฟาร์มเลี้ยงหมูให้เรียบร้อย หากไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์จะไม่อนุญาตให้เลี้ยงหมูโดยเด็ดขาด