เพลิงไหม้โกดัง

โรงงานรีไซเคิล

วอดกว่า 40 ล้าน

คาดไฟฟ้าลัดวงจร

ไฟไหม้โกดังอัดเม็ดพลาสติก-โรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติกจ.ชัยภูมิ วอดทั้งหลังเสียหายกว่า 40 ล้านบาท เจ้าหน้าที่คาดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรรอพฐ.ตรวจสอบอย่างละเอียดหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังอัดเม็ดพลาสติก ภายในโรงงานคัดแยกขยะพลาสติกเอกชน ในพื้นที่ระหว่างหลัก กม.ที่ 4-5 ถนนชัยภูมิ หนองบัวแดง บ้านโนนเหลี่ยม หมู่ 14 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยภายหลังนายทองสุข สองศรี กำนัน ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ที่มีบ้านพักในพื้นที่ดังกล่าว พบเห็นควันไฟปกคลุมที่โกดังของโรงงานดังกล่าว จึงรุดเข้าตรวจสอบ จึงพบว่าเพลิงกำลังโหมไหม้โกดังอย่างรุนแรง เปลวไฟลุกท่วมและมีกลุ่มควันสีดำพุ่งขึ้นเต็มท้องฟ้า โดยไม่มีทีท่าว่าจะดับเพลิงได้ง่ายๆ จึงรีบแจ้งตำรวจและประสานหน่วยดับเพลิง อบต.นาฝาย รวมทั้งในพื้นที่ใกล้เคียง นำรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วน

ด้าน พ.ต.อ.สรวิศ มาอินทร์ นายก อบต.นาฝาย หลังจากทราบเหตุแล้ว จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่และเดินทางเข้าควบคุมการดับเพลิงด้วยตนเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องพบกับอุปสรรคหลายประการ ทั้งกระแสลมแรง และอากาศที่แห้ง ทำให้เพลิงโหมรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง และอีกส่วนต้องฉีดไปบนยอดกองขยะที่สูงกว่า 10 เมตร เพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังโกดังที่อยู่ติดกัน ซึ่งเพลิงไหม้ครั้งนี้อยู่ห่างจากบ้านเรือนประชาชน ประมาณ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกดังกล่าวปิดประตูหน้าต่างบ้านเพื่อป้องกันควันไฟปลิวเข้าไปภายในบ้าน

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เชื่อว่าสาเหตุของเพลิงไหม้นั้นคาดว่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้มีประกายไฟตกใส่กองเม็ดพลาสติกจนเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุที่แน่ชัด จะได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ชัยภูมิ เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ สำหรับโรงงานคัดแยกขยะพลาสติกและอัดเม็ดพลาสติกแห่งนี้ เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา โดยสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท แต่ห่างกันเพียง 2 เดือนเศษ ก็ยังมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 2

ขณะที่ น.ส.ชนันท์กานต์ สังเกตุ อายุ 40 ปี เจ้าของโกดังที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ในระหว่างที่นั่งเล่นอยู่ในออฟฟิตที่เป็นบ้านพักซึ่งอยู่ภายในพื้นที่โรงงาน ได้ยืนเสียงระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง จึงเดินออกมาดู แล้วก็เห็นเปลวไฟลุกไหม้ท่วมกองเม็ดพลาสติกในโกดังอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี แต่โชคดีที่ช่วงเกิดเหตุไม่มีคนงานอยู่ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนภายในโกดังมีทั้งเครื่องจักรบดเศษพลาสติก 3 เครื่อง ราคาเครื่องละ 5 แสนบาท มีเครื่องอัดไฮโดลิกส์อัดเม็ดพลาสติก 2 เครื่องๆ ละ 1 แสนบาท และเครื่องหลอมเม็ดพลาสติก 2 เครื่องๆ ละ 8 ล้านบาท มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท และมีเม็ดพลาสติกอัดแท่งเตรียมส่งโรงงานใน กทม.อีกหลายก้อน มีมูลค่าอีกไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ถูกเพลิงไหม้เสียหาย ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนความเสียหายทั้งหมดจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ไม่น่าจะต่ำกว่า 40 ล้านบาท