คืบหน้าเหตุนักเรียนแทงกันตาย ล่าสุดแม่และญาติๆนำศพไปทำพิธีเก็บร่างไว้อีก 3 ปี ค่อยนำออกมาเผาบำเพ็ญกุศลตามประเพณี บรรยากาศสุดเศร้าเพื่อนๆนำเค้กวันเกิด มามอบให้ พร้อมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์หน้าโลงศพ

จากเหตุการณ์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แทงนักเรียนชั้นเดียวกันในโรงเรียนจนมีคนเสียชีวิต 1 ราย เจ็บอีก 3 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถคุ้มตัวผู้ต้องไว้ได้ภายในโรงเรียน ก่อนจะนำส่งดำเนินคดี 

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ 1 มิ.ย. 2566  ทางแม่และญาติของน้องที่เสียชีวิต ได้เคลื่อนศพน้องออกจากบ้าน ไปที่วัดโนนสว่าง ต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อไปประกอบพิธีฝังศพ หรือในพื้นถิ่นเรียกว่า ประกอบพิธีดอยศพไว้ ก่อนจะนำศพมาเผาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลอีกครั้งในอีก 3 ปี ข้างหน้า โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีญาติๆ เพื่อนๆ คณะครู ของโรงเรียนที่เกิดเหตุ มาร่วมพิธีกันอย่างคับคั่ง ก่อนเคลื่อนศพ เพื่อนของน้องได้นำเค้กวันเกิดมา แล้วร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์หน้าโลงศพเนื่องจากในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ จะเป็นวันเกิดของน้องที่เสียชีวิต

ด้าน นางพนิดา พะพร แม่ของ น้องต้า (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนก็ยังรู้สึกทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทางโรงเรียนภได้ส่งคณะครู นักเรียนมาช่วยงานอยู่ตลอด พร้อมยังมีการมอบเงินช่วยเหลือค่าจัดงานศพ ในเบื้องต้นอีก 5 หมื่นบาท ส่วนเงินประกันที่ทำกับทางเรียน ทางโรงเรียนแจ้งว่า เหตุดังกล่าว ไม่เข้าหลักเกณฑ์ของการประกัน เพราะประกันที่ทำเป็นประกันอุบัติดหตุ แต่เหตุดังกล่าวไม่ใช้การเกิดอุบัติ ทำให้ทางครอบครัวไม่ได่เงินประกันตรงนี้ นอกจากนั้นยังมีเงินจากหลายภาคส่วนทั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ มอบให้ช่วยเหลือค่าจัดงานศพด้วย

นางพนิดา พะพร กล่าวต่อไปว่า ส่วนทางฝั่งผู้ก่อเหตุ ได้ส่งญาติมาร่วมงานศพในวันแรก ซึ่งทางเราก็ไม่ได้คุยเรื่องการช่วยเหลือ ค่าเสียหาย กับทางนั้นแต่อย่างใด หลังจากนั้น ก็มีโทรศัพท์มาครั้งหนึ่งบอกว่าจะร่วมงานศพ แต่ก็ไม่เห็นมา ส่วนตัวในเรื่องคดีขอให้ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายให้ถึงที่สุด

ด้าน นายอภิชาติ วงษ์วาฬ ผู้ปกครองหนึ่งในเด็กที่ถูกแทงในครั้งนี้  เปิดเผยว่า  จาการดูข่าวในหลายช่องตนคิดว่าข่าวที่ออกไปคาดเคลื่อนกับความเป็นจริงมาก ทำให้สังคมมองว่าเด็กในเหตุการณ์ทั้งหมด โดยเฉพาะเด็กที่ถูกแทงบาดเจ็บ เป็นเด็กเกเร ยกพวกทะเลาะกันในโรงเรียน ซึ่งเรื่องจริงแล้วไม่เป็นความจริง เด็กที่เสียชีวิต และบาดเจ็บ ไม่ได้เข้าไปรุมทำร้ายผู้ก่อเหตุ เป็นเพียงเข้าไปช่วยเพื่อนที่กำลังจะถูกแทง แต่ถูกลูกหลงจนทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บ อยากจะขอให้สื่อมวลชน ก่อนจะออกข่าวควรจะหาข้อเท็จจริงให้แน่ชัดก่อนเสนอข่าวออกไป

ขณะที่ เด็กชาย เอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นคนที่ผู้ก่อเหตุจะเข้าไปแทงทำร้าย เปิดเผยว่า สาเหตุเริ่มต้นมาจากช่วงพักเที่ยวพวกตน กับผู้ก่อเหตุ วิ่งเล่นกันในโรงยิมของโรงเรียน ก่อนพวกตนจะโยนนวมชกมวยใส่ผู้ก่อเหตุ ทำให้ผู้ก่อเหตุโมโห พวกตนรู้สึกผิดที่ทำรุงแรงไป เลยเข้าไปขอโทษ ขอให้เรื่องจบๆ กันไป แต่ผู้ก่อเหตุไม่ให้อภัย พร้อมบอกว่า “พวกมึงทำกูแรงกูไม่จบหรอก เดียวตอนเย็นมึงเจอกู” แต่ไม่ถึงเย็นช่วงบ่ายผู้ก่อเหตุก็เดินเข้ามาที่ห้อง พร้อมกับถือมีดมาด้วย ตนเห็นท่าไม่ดีเลยเข้าไปป้องกันตัว ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะพยายามใช้มีดแทงตน เพื่อนๆเห็นเลยพยายามเข้ามาช่วยแยก ดึงตัวออก แต่ก็เกิดเหตุสลดดังกล่าว

ส่วน เด็กชาย บี (นามสมมุติ) เป็นหนึ่งในผู้ถูกแทงขณะเข้าไปช่วยเหลือเพื่อน เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนเห็นท่าไม่ดี ผู้ก่อเหตุ ถือมีดเข้ามาเพื่อจะทำร้ายเพื่อน ตอนนั้นพวกตนได้ยินเสียงของรุ่นพี่ที่มากับผู้ก่อเหตุ พูดออกมาว่า แทงเลย แทงเลย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะลงมือแทง พวกตนพยายามเข้าไปช่วยเพื่อน ไม่ได้เข้าไปรุมทำร้ายผู้ก่อเหตุ ก็ถูกลูกหลงตนบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงนิสัยใจคอขอผู้ก่อเหตุ เด็กชาย บี (นามสมมุติ) กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนเกเร ไม่ชอบเข้าเรียน อารมณ์ร้อน ชอบไปแอบสูบบุหรี่ โดดเรียน ทั้งนี้ อยากจะฝากให้ทางโรงเรียน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเพื่อนๆที่เสียชีวิต และบาดเจ็บจากเหตุการณ์ให้ทั่วถึงด้วย และอยากให้มีมาตรการป้องกันในโรงเรียนให้ดีกว่านี้ อยากให้ตรวจค้นกระเป๋าหาอาวุธอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการเข้าออก ไม่ให้คนนอกเข้ามาในโรงเรียนโดยเด็ดขาด.-001