บุกทลายรังแก๊งคอล ยึดเครื่องแปลงสัญญาณ‘ซิมบ๊อกซ์’ ส่อโยงคดีตุ๋นหลายพื้นที่
2 มิถุนายน 2566 ตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) นำโดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นที่บ้านในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งใน ต.สันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายอลงกรณ์ และ น.ส.วาสนา พร้อมของกลางเป็นเครื่องซิมบ๊อกซ์ (SIM BOX) 5 เครื่อง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซิมการ์ดมือถือ โทรศัพท์มือถือ เงินสด บัญชีธนาคารจำนวนมาก โดยได้แจ้งข้อหาในเบื้องต้นความผิดเกี่ยวกับวิทยุโทรคมนาคมไม่ได้รับอนุญาต และความผิดเรื่องบัญชีม้า
สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนที่ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงให้โอนเงิน เมื่อได้ติดตามจนพบว่าแหล่งที่ปล่อยสัญญาณโทรศัพท์นั้นอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สันทราย จึงจัดวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์บ้านหลังนี้มาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยแม้ว่าจะไม่พบมีคนเข้าออกพลุกพล่านผิดสังเกต แต่มีข้อพิรุธหลายอย่าง จึงขอหมายค้นเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นพบอุปกรณ์ที่เรียกว่าซิมบ๊อกซ์ (SIM BOX) ซึ่งเป็นเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ดจากซิมม้าที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงเหยื่อ 5 เครื่อง , อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ , บัญชีม้าที่พร้อมใช้งาน 31 บัญชี และตรวจสอบในคอมพิวเตอร์พบบัญชีม้าที่ควบคุมใช้งานอีกกว่า 200 บัญชี โดยเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลว่าของกลางที่ตรวจพบทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ไหน
พล.ต.ท.ปิยะ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากข้อมูลทราบว่าบ้านหลังนี้เพิ่งมีการนำอุปกรณ์ดังกล่าวมาติดตั้งไว้ช่วงต้นเดือน พ.ค.66 ขณะที่ชาย-หญิงที่เป็นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน แต่เป็นเพื่อนร่วมแก๊ง ได้มาเช่าบ้านหลังนี้ในราคาเดือนละ 1,6000 บาท อ้างว่ารับจ้างให้เช่าวางอุปกรณ์ดังกล่าวเท่านั้น ได้ค่าจ้างคนละแสนกว่าบาท แต่ยอมรับว่าเป็นผู้รวบรวมบัญชีม้าเพื่อส่งขาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การ เนื่องจากพบว่ามีการให้ข้อมูลหลายอย่างไม่ครบถ้วน และขัดแย้งกับหลักฐานที่ตรวจสอบพบ ซึ่งจะต้องทำการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด
เบื้องต้นดำเนินคดีใน 2 ข้อหา ได้แก่ ความผิดเกี่ยวกับวิทยุโทรคมนาคมไม่ได้รับอนุญาตและความผิดเรื่องบัญชีม้า พร้อมขยายผล เนื่องจากเชื่อว่ามีขบวนการที่เชื่อมโยงในลักษณะเดียวกันนี้ในพื้นที่กรุงเทพ พื้นที่ตำรวจภาค 3 และภาค 7 โดยทราบมาว่านายทุนที่อยู่เบื้องหลังเป็นชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ตอนนี้เตรียมขอหมายศาลออกหมายจับในวันนี้เพื่อติดตามจับกุมตัว และขายผลไปยังพื้นที่อื่นเพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมต่อไป พร้อมกันนี้ก็จะมีการอายัดเงินในบัญชีม้าทั้งหมดเพื่อตรวจสอบว่ามีเงินเท่าไหร่ และมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกเท่าไหร่
ทั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมีขบวนการนี้กระจายไปทั่วประเทศ ในลักษณะเดียวกัน เพื่อติดตั้งซิมบ๊อกซ์ (SIM BOX) ปล่อยสัญญาณโทรออก เนื่องจากเมื่อนำเครื่อง ซิมบ๊อกซ์ (SIM BOX) มีตั้งในประเทศแล้วก็จะสามารถตบตาว่าเบอร์โทรที่โทรออกไปหาเหยื่อนั้นเป็นเบอร์ที่โทรมาจากในประเทศไทย แต่ความจริงแล้วคอลเซ็นเตอร์ ที่เป็นคนโทรจริงๆ นั้นอยู่ในต่างประเทศ แต่อาศัยเครื่องซิมบ๊อกซ์ (SIM BOX) เป็นตัวกระจายสัญญาณเพื่อตบตาว่าเป็นเบอร์ในประเทศเท่านั้น
ขณะเดียวกันก็จะผู้ที่รับจ้างในการดำเนินการเรื่องบัญชี รวบรวม และดำเนินการด้านเอกสารเกี่ยวกับบัญชีม้า ส่วนเครื่องซิมบ๊อกซ์ (SIM BOX) พบว่ามีการอำพรางนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยอำพรางประกอบมาเป็นลักษณะของเครื่องแอมปลิฟายเออร์ หรือเครื่องขยายเสียง หลังจากที่นำเข้ามาแล้วก็จะถูกนำมาถอดประกอบใหม่ และใช้อะไหล่ที่ส่งแยกมา ประกอบขึ้นเป็น เครื่องซิมบ๊อกซ์ (SIM BOX) หลังจากนั้นก็สามารถใช้งานได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี