ศูนย์การเรียนวิถีกะเหรี่ยงทุ่งใหญ่-ศูนย์การเรียนชุมชนศรีสุวรรณสะเนพ่อง (วิถีกะเหรี่ยงทุ่งใหญ่นเรศวร) เป็นสถานศึกษา ตั้งอยู่ที่บ้านสะเนพ่อง หมู่ที่ 1 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีองค์กรชุมชนบ้านสะเนพ่อง เป็นผู้จัดการศึกษา เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา (ชั้นปีที่ 1-6) มาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2557 ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 (สพม.8) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ แม้จะได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณและให้สิทธิประโยชน์ด้านการศึกษาใดๆ แก่นักเรียนในศูนย์การเรียน ตามสิทธิที่เด็กไทยควรได้รับ ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมาศูนย์การเรียนประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณสำหรับการบริหารจัดการศึกษามาโดยตลอด โดยปีการศึกษา 2566 มีนักเรียนชั้น ม.1-6 รวม 21 คน ครู 4 คน
นายชาญชัย สังขธิติ ครูศูนย์การเรียนศรีสุวรรณสะเนพ่อง เปิดเผยว่า ศูนย์การเรียนแห่งนี้ เกิดจากความต้องการของชุมชน ที่ต้องการลุกขึ้นมาจัดการเรียนการสอนให้กับลูกหลาน ที่ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่สามารถส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อในตัวเมืองได้ นอกจากนั้นเด็กบางคนไม่อยากออกจากชุมชนไปอาศัยอยู่ข้างนอกระหว่างเรียน จึงได้ช่วยกันจัดตั้งศูนย์การเรียนแห่งนี้ขึ้นมา โดยได้รับความช่วยเหลือจากหลายๆ ฝ่าย ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา ทางศูนย์หารายได้ด้วยการใช้วิธีการทอดผ้าป่าการศึกษา รวมกับเงินที่มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้ เพื่อใช้เป็นงบประมาณในการจัดการเรียนการสอน โดยแบ่งเป็นค่าตอบแทน ครู ค่าครุภัณฑ์ทางการศึกษา ค่าอาหารและกิจกรรมต่างๆ โดยไม่มีเงินอุดหนุนจากภาครัฐแต่อย่างใด จึงอยากเรียกร้องให้ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณาให้ความช่วยเหลือ เงินค่ารายหัวนักเรียนในศูนย์ เหมือนที่มอบเงินอุดหนุนรายหัวให้กับสถานศึกษาทั่วไป ซึ่งศูนย์การเรียนที่มีการจัดการโดยองค์กรชุมชนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ต่างเฝ้ารอการช่วยเหลือจากรัฐบาลใหม่
ในปีการศึกษา 2566 นี้ ศูนย์การเรียนศรีสุวรรณสะเนพ่อง มีนักเรียนทั้งหมด 21 คน นักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กในชุมชน ที่ด้อยโอกาสครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่สามารถส่งบุตรหลานไปเรียนต่อในเมือง นอกจากนั้นยังมีเด็กด้อยโอกาสที่มาจากหมู่บ้านใกล้เคียง เช่นบ้านแม่ติ้ว บ้านโจ่คีพื่อ ไกลสุดเป็นเด็กจากบ้านจะแกที่อยู่ห่างไกลออกไปกว่า 80 กิโลเมตร ติดอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งต้องมาพักอาศัยและกิน นอน อยู่กับครูที่ศูนย์การเรียน ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะเรื่องอาหารกลางวันและอาหารสำหรับเด็กบ้านไกล ที่ผ่านมาโรงเรียนและชุมชนได้ร่วมกันปลูกข้าวเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และนำข้าวมาบริโภค เพื่อลดค่าใช้จ่ายของศูนย์การเรียนฯ รวมทั้งช่วยกันปลูกผักสวนครัวและออกหาเก็บผักสดในชุมชนและในป่ารอบๆ ชุมชน เพื่อช่วยเหลือตัวเอง เช่น เลี้ยงปลา ไก่ไข่ ไว้เป็นอาหารกลางวัน แต่ก็ไม่เพียงพอและยังต้องการในเรื่องเครื่องปรุงต่างๆ จึงแก้ไขปัญหาด้วยการขอรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง เช่น มาม่า ปลากระป๋อง วุ้นเส้น เส้นหมี่ กุนเชียง ผักกาดดอง เครื่องครัวและอื่นๆ ตามสมควร เพื่อนำมาประกอบเป็นอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน รวมทั้งสื่อและอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์สำนักงานในการทำงานของครู แม็ก แล็คซีน กาวลาเท็กซ์ กระดาษ A4 A3 ธรรมดา และกระดาษ A4 แบบสี (หลายๆ สี)กระดาษร้อยปอนด์ คลิปหนีบกระดาษเมล็ดพันธุ์ผัก อุปกรณ์การเกษตร แม่พันธุ์ปลา ไก่หรือเป็ดไข่ เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี