“บิ๊กป้อม”สั่งรับมือฝนทิ้งช่วง ชี้ “เอลนีโญ” กระทบหลายจังหวัด จี้ทำแผนเผชิญเหตุจริงจัง ด้านกรมอุตุฯ เตือนฝนหนักถึง
11มิ.ย.นี้ มี7จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน ด้านเมืองคอน พายุลมแรงซัดหลังคาอาคาร-บ้านเรือนพังเสียหายยับ เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจช่วยเหลือ ส่วน จ.ตรัง ปักธงแดง ห้ามลงเล่นน้ำทะเล
เมื่อวันที่ 8มิถุนายน ที่ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ โดยมีข้อห่วงใยถึงการคาดการณ์ของประเทศไทย ที่กำลังจะเข้าสู่ปรากฏการณ์ ‘เอลนีโญ’ ช่วงเดือนมิถุนายน 2566-กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้อุณหภูมิความร้อนเฉลี่ยสูงขึ้นและหลายจังหวัดอาจจะประสบปัญหาภัยแล้ง กระทบต่อปริมาณน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร โดยคาดว่าปีนี้ปริมาณฝนจะน้อยกว่าปกติถึงร้อยละ 5 และมีโอกาสเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2566
จากนั้นที่ประชุมรับทราบการดำเนินงานช่วงสิ้นสุดฤดูแล้ง ปี65/66 ตามปฏิทินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดย สทนช.จะประเมินผลและสรุปบทเรียนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทุกภาคส่วน (7กระทรวง 32หน่วยงาน) เพื่อสรุปผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอนำไปปรับปรุงมาตรการ รวมทั้งกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี66/67 ต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบความก้าวหน้า และปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 และการเตรียมการรับมือฝนทิ้งช่วง ปี 2566 โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและภาวะฝนทิ้งช่วงอย่างใกล้ชิด พร้อมกับสร้างการรับรู้ให้เครือข่ายภาคประชาชน และดำเนินการตาม12 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 และ10มาตรการรับมือฤดูแล้ง ปี65/66 อย่างเคร่งครัด เพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญ ที่คาดการณ์ไว้ พร้อมทั้งให้เร่งดำเนินการจ่ายค่าชดเชยความเสียหายแก่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นพื้นที่รับน้ำนองที่ผ่านมา
พล.อ.ประวิตร กล่าวขอบคุณ สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันบูรณาการทำงานเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ด้วยดี พร้อมกับกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือฝนทิ้งช่วงปี 2566 และซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งอย่างจริงจัง รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจ และรับทราบสถานการณ์อย่างทั่วถึง ทันเวลา
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง คลื่นลมแรง (บริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน) และ ฝนตกหนักถึงหนักมาก (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก) ฉบับที่ 17 มีผลกระทบถึงวันที่ 11มิถุนายน2566 ขณะเดียวกัน ได้พยากรณ์อากาศ ว่าร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้และอ่าวตังเกี๋ย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมชายฝั่งประเทศเมียนมา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 11 มิถุนายน 2566
ทั้งนี้ 7 จังหวัดเสี่ยงภัย ‘ฝนตกหนักมาก’ ได้แก่ จันทบุรี ตราด เลย หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ และนครพนมภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งที่ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาฯ ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ70ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งที่ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-35องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งที่ จ.ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งที่ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักบางแห่งที่ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาฯ ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งที่ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาฯ ตั้งแต่ จ.ภูเก็ตขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ตั้งแต่ จ.กระบี่ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร
กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 32-36องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เกิดลมพายุพัดแรงและมีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ต้นไม้หักโค่นทับอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหาย บางจุดความรุนแรงของลมได้หอบเอาหลังคาอาคารหายไปทั้งหมด โดยเฉพาะที่ อ.ปากพนัง พายุฝนพัดพากันสาดหลังคาโรงจอดรถของโรงเรียนสตรีปากพนัง พังถล่มทับรถยนต์เสียหายหลายคัน ส่วนบ้านที่ปลูกสร้างด้วยคอนกรีตหลังใหญ่หลังหนึ่งใน ต.หูล่อง อ.ปากพนัง ลมพายุที่รุนแรงได้พัดเอาส่วนหลังคาบ้านหายไป ผนังบ้านแตกร้าว โดยขณะเกิดเหตุ ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านต่างพากันวิ่งหนีออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด
ส่วนที่ อ.จุฬาภรณ์ อาคารธุรการ สภ.จุฬาภรณ์ได้ถูกต้นไม้ล้มทับ และถูกรถยนต์ในราชการตำรวจของ สภ.ดังกล่าว ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยทหารจาก ศบภ.มทบ.41 ได้ร่วมกันออกสำรวจพื้นที่และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัย ก่อนสรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง ที่ จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณทะเลตรัง เขตอุทยานแห่งชาติเจ้าไหม หาดปากเมง อ.สิเกา รวมถึงหาดยาว อ.กันตัง ตามริมชายหาด และเกาะแก่งต่างๆ ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนัก ติดต่อกัน 2-3 วัน รวมถึงมีคลื่นลมแรงสูงประมาณ 3เมตร จนไม่สามารถออกไปท่องเที่ยว หรือจับสัตว์น้ำได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปักธงแดงประกาศห้ามลงเล่นน้ำทะเล นับตั้งแต่ชายหาดปากเมง อ.สิเกา ต่อเนื่องไปหาดเจ้าไหม และหาดยาว อ.กันตัง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จนกว่าสถานการณ์คลื่นลมแรงจะสงบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี