รองนายกฯภูมิธรรม นั่งหัวโต๊ะถกคณะกก.แก้ปัญหา “เอลนีโญ-ลานีญา” ย้ำภัยแล้งปัญหาใหญ่ หวั่นส่งผลกระทบวงกว้าง ทำให้ขาดแคลนน้ำใช้นาน 3 ปีเน้นเดินหน้าโครงการขนาดเล็ก มุ่งเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำให้มีน้ำใช้ได้ 3 ปีสร้างความชุ่มชื้น กระจายทั่วประเทศ เล็งตั้งศูนย์สั่งการ รับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 29 กันยายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการเพื่อรองรับสถานการณ์เอลนิโญ และลานิญา ของประเทศไทย ครั้งที่ 1/2566 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
โดยนายภูมิธรรมกล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญปัญหาเอลนิโญและลานิญามาก จึงสั่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้มาร่วมแก้ปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะส่งผลกระทบวงกว้าง ถ้าเตรียมการรองรับที่ดี ปัญหาจะเบาบาง ประชาชนจะเดือดร้อนน้อยลง เรื่องนี้นายกฯประกาศไว้ชัดเจนในวันแถลงนโยบายว่าให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพอากาศ เพราะอาจส่งผลกระทบถึงเรื่องเศรษฐกิจด้วย ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น เป็นเพียงการคาดการณ์ แต่มั่นใจว่ามีโอกาสเกิดขึ้น จึงต้องวางแนวทางการทำงานไว้
“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะน้ำคือชีวิต ถ้าเจอภัยแล้ง 3 ปี เราจะเหนื่อยมาก จึงต้องเข้าใจว่าเป็นภารกิจสำคัญ จากนี้เราจะหลีกเลี่ยงโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณมาก และมุ่งไปขับเคลื่อนโครงการขนาดเล็ก เพื่อให้กระจายไปทั่วประเทศ และเมื่อเข้าสู่สถานการณ์ปกติ จะกลับมาเดินหน้าโครงการใหญ่ต่อ ซึ่งอะไรทำได้ นายกฯให้ทำทันที แต่ถ้าติดขัดอะไรก็ให้รีบแก้ไข ผมอยากเห็นความคืบหน้า 100 วันแรก เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ” นายภูมิธรรมกล่าว
ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานกรรมการแก้ปัญหาเอลนิโญและลานิญากล่าวเพิ่มเติมว่า เราต้องเตรียมป้องกันภัยแล้งให้ถึงที่สุด ต้องมีศูนย์สั่งการหรือบูรณาการตนขอเสนอที่ตั้งศูนย์สั่งการ ที่กระทรวงพาณิชย์ ส่วนเรื่องทำงบประมาณนั้น รัฐบาลเพิ่งเข้ามาใหม่ แล้วเจอภัยแล้ง จึงอาจไม่สอดคล้องกับเรื่องที่จะทำ ตนจึงมองว่ารัฐบาลอาจขับเคลื่อนงานตามที่ต้องการไม่ได้ทั้งหมด เพราะด้วยสถานการณ์เอลนิโญ เราต้องมุ่งเน้นไปทำโครงการขนาดเล็ก เพื่อให้ทั่วถึงทั้งประเทศ เช่น โครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ฝายแกนซอยซิเมนต์ เพิ่มพื้นที่เก็บน้ำและความชุ่มชื้น ให้ปัญหาภัยแล้งเบาบางลง ต้องสามารถรองรับสถานการณ์ภัยแล้งได้ถึง 3 ปี
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองประธานกรรมการฯกล่าวว่า วันนี้เราต้องบริหารความเสี่ยงให้ดี ต้องเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ ตนมั่นใจว่า เอลนิโญ เกิดขึ้นแต่จะยังไม่แรงจนกว่าจะเข้าหน้าแล้ง จะทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกจำนวนมาก ทั้งฝุ่น PM 2.5 จะรุนแรง น้ำกินน้ำใช้ก็จะขาดแคลน โดยทั้งหมดนี้ คือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ตนจึงขอเสนอ 3 มาตรการแก้ปัญหาคือ 1.ยุทธศาสตร์และเป้าหมาย โดยคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นเครื่องมือรัฐบาลบรรเทาผลกระทบทั้งระยะสั้น-ยาว 2.ยุทธวิธีติดตามสถานการณ์เป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน พร้อมสร้างคลังข้อมูลให้ลึกมากขึ้น และ3.ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาขับเคลื่อน 10 คณะ จะทำให้รัฐบาลสามารถรับมือภัยแล้งได้เป็นระบบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี