วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ไปต่อ!‘วิโรจน์’เปิดผลหารือตำรวจ ขยับเพิ่ม 3 มาตรการกำราบ‘ส่วยทางหลวง’

ไปต่อ!‘วิโรจน์’เปิดผลหารือตำรวจ ขยับเพิ่ม 3 มาตรการกำราบ‘ส่วยทางหลวง’

วันศุกร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 10.13 น.
Tag : วิโรจน์ ส่วยสติ๊กเกอร์ สติ๊กเกอร์ ส่วยรถบรรทุก ส่วย สติ๊กเกอร์ส่วย ส่วยทางหลวง
  •  

ไปต่อ!‘วิโรจน์’เปิดผลหารือตำรวจ ขยับเพิ่ม 3 มาตรการกำราบ‘ส่วยทางหลวง’

9 มิถุนายน 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่าน “Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” หัวข้อ “3 มาตรการเพิ่มเติม กำราบส่วยทางหลวง 1.สาวถึงโรงงานต้นทาง 2.จัดการกับตำรวจค้าสำนวน 3.เลิกโบกกลั่นแกล้ง” มีเนื้อหาดังนี้...


[ 3 มาตรการเพิ่มเติม กำราบส่วยทางหลวง 1.สาวถึงโรงงานต้นทาง 2.จัดการกับตำรวจค้าสำนวน 3.เลิกโบกกลั่นแกล้ง ]

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

จากการหารือร่วมกันระหว่างผม อ.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ - Surachet Pravinvongvuth ผู้แทนจากสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ฎิษพจน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. รรท.รอง จตร. และพล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 66 นอกจากการส่งมอบเบาะแสเพื่อการสืบสวนขยายผลเรื่อง "ส่วยสติ๊กเกอร์" แล้ว ที่ประชุมยังมีข้อเสนอเพิ่มเติมร่วมกัน ในการจัดการกับปัญหานี้ ให้ครอบคลุมเพิ่มเติมอีก 3 มาตรการ คือ

1. การดำเนินคดีกับผู้ประกอบการต้นทาง เช่น โรงโม่หิน บ่อดิน บ่อทราย โรงงาน ฯลฯ ที่มีเจตนาใส่น้ำหนักเกินให้กับรถบรรทุก มาตั้งแต่ต้นทาง ยัดเยียดให้แบกตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้ ในคราวเดียวกัน เนื่องจากผู้ประกอบการต้นทางเหล่านี้ มีตราชั่งที่สถานประกอบการอยู่แล้ว รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าน้ำหนักบรรทุกต้นทางเป็นเท่าใด แต่ก็ยังบังคับยัดเยียดให้รถบรรทุกแบกน้ำหนักเกิน โดยจะพิจารณาดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วน พร้อมกับเสนอให้ยึดใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือ ร.ง.4 ด้วย เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการต้นทางเหล่านี้ มักจะบีบบังคับให้ผู้ขับรถบรรทุกต้องจำยอมบรรทุกน้ำหนักเกิน โดยไม่เคยต้องมาร่วมรับผิดชอบอะไร สำหรับการสืบสวนหาผู้ประกอบการต้นทางที่สนับสนุนการกระทำผิด ก็ไม่ยากเลย เพราะรถบรรทุกทุกคัน ต้องติดตั้ง GPS ตามกฎหมายอยู่แล้ว แค่ตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเดินทาง ก็จะทราบโดยทันทีว่าผู้ประกอบการต้นทางนั้นเป็นใคร

2. จัดการกับพนักงานสอบสวนบางนาย ที่มีพฤติกรรม "ค้าสำนวน" ที่นำเอา "การริบรถ" มาใช้เรียกรับผลประโยชน์จากรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ใครที่ยอมจ่าย 30,000-70,000 บาท ก็จะทำสัญญาเช่าช่วงรถเท็จขึ้นมาในสำนวน เพื่อเปลี่ยนสถานะของผู้ขับรถ จาก "ลูกจ้าง" ให้มาเป็น "ผู้เช่ารถ" เพื่อที่รถบรรทุกคันดังกล่าวจะได้ไม่ถูกริบ พฤติกรรมการค้าสำนวนแบบนี้ ทำให้รถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกินไปเพียงเล็กน้อย 100-200 กิโลกรัม ซึ่งไม่มีเจตนาในการบรรทุกน้ำหนักเกินอยู่แล้ว ต้องถูกกฎหมายรังแก ในขณะที่รถบรรทุกที่จงใจบรรทุกน้ำหนักเกิน 30-40 ตัน กลับลอยนวลพ้นผิด หรือรับโทษเพียงแค่สถานเบา

นอกจากนี้ ยังพบเบาะแสเพิ่มเติมว่า ในบางท้องที่ พนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการค้าสำนวนโดยลำพัง แต่มีการเชื่อมโยงไปยังพนักงานอัยการบางท่านอีกด้วย ถือเป็นความเสื่อมเสียของกระบวนการยุติธรรมอย่างมาก

ซึ่งกรณีนี้ ทางจเรตำรวจ ได้รับข้อเสนอไปตรวจสอบสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกน้ำหนักเกินย้อนหลัง หากพบพฤติกรรมการค้าสำนวนของพนักงานสอบสวน ก็จะสืบสวนขยายผล และพิจารณาดำเนินการทั้งทางวินัย และทางอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน โดยไม่มีการละเว้น

3. ทาง พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ได้เสนอแนวทางในการแก้ไขเพิ่มเติมว่า เพื่อป้องกันไม่ให้ตำรวจที่ไม่ดีบางนาย ใช้อำนาจตามอำเภอใจ โบกให้รถบรรทุกจอด แล้ววนตรวจจุกจิกไปมา เพื่อกลั่นแกล้งให้รถบรรทุกที่ไม่ยอมจ่ายส่วย เสียเวลาทำมาหากิน

ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะออกคำสั่งเพื่อกำชับการใช้อำนาจของตำรวจทางหลวงทุกสถานี โดยจะโบกให้รถบรรทุกจอดเพื่อตรวจสอบ ในกรณีที่มีเหตุต้องสงสัยเท่านั้น เช่น พบลักษณะรถที่ต้องสงสัยตามการข่าวที่ได้รับ พบการดัดแปลงสภาพรถ หรือพบลักษณะทางกายภาพที่ต้องสงสัยว่าจะบรรทุกน้ำหนักเกิน เป็นต้น

ซึ่งท่านรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ย้ำว่า ด้วยประสบการณ์ของตำรวจทางหลวง แค่พิจารณาด้วยสายตา ก็รู้อยู่แล้วว่ารถบรรทุกสภาพแบบไหน ที่ต้องสงสัยว่าจะบรรทุกน้ำหนักเกิน ดังนั้นการโบกรถที่ไม่มีเหตุต้องสงสัยให้จอดตามอำเภอใจ เพื่อทำให้เสียเวลาทำมาหากิน จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป

สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน ทั้งท่าน พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ พล.ต.ท.ฎิษพจน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน ที่กรุณาให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาส่วนทางหลวงนี้อย่างจริงจัง

สำหรับพรรคก้าวไกล ผม และ อ.สุรเชษฐ์ ก็จะเร่งผลักดันการแก้ไขที่ควบคู่กันไปกับการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีก 5 ด้านด้วยกัน คือ

1. การทบทวนแก้ไขกฎหมายที่ไม่ทันสมัย ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติงานจริง บทกำหนดโทษที่ไม่ได้สัดส่วน การให้ดุลพินิจกับเจ้าหน้าที่ที่ล้นเกิน การขออนุญาต และงานทะเบียนที่มีขั้นตอนมากมายเกินจำเป็น

2. การออกกฎหมาย พ.ร.บ.ปกป้องผู้เปิดโปงการทุจริต (Whistleblower Protection Act) เพื่อทลายการทุจริตแบบยกรัง ทั้งขบวนการ สาวถึงต้นตอ

3. การวางระบบในการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐอย่างโปร่งใส มี AI ในการตรวจจับข้อพิรุธที่ส่อเค้าการทุจริต

4. การผลักดันให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ลง เช่น การชั่งน้ำหนักขณะรถวิ่ง (Weigh In Motion: WIM) และการใช้ระบบ GPS ในการสาวถึงผู้ประกอบการต้นทาง ที่มีเจตนาใส่น้ำหนักบรรทุกเกิน เป็นต้น

5. การยกเลิกระบบตั๋ว และการซื้อขายตำแหน่งในแวดวงตำรวจ และข้าราชการ ในกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ เพื่อให้ข้าราชการที่ตั้งใจทำงานโดยสุจริต มีความก้าวหน้าในอาชีพ ได้รับผิดชอบในระดับบังคับบัญชา ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้งานราชการ มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และปลอดจากการคอรัปชั่น

ผมเชื่อว่า ถ้าพวกเราช่วยกันทำตามหมุดหมายทั้งหมดเหล่านี้ ประเทศชาติบ้านเมือง จะดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘บิ๊กอรรถ’โต้‘ตำรวจไซเบอร์’รับส่วยเว็บพนัน 660 ล้าน ลั่นใครเอี่ยวเชือดแน่ ‘บิ๊กอรรถ’โต้‘ตำรวจไซเบอร์’รับส่วยเว็บพนัน 660 ล้าน ลั่นใครเอี่ยวเชือดแน่
  • สุดเศร้า!! พ่อส่งสติกเกอร์สวัสดีสุดท้ายให้ลูกชาย ก่อนถูกรถชนดับกลางถนน สุดเศร้า!! พ่อส่งสติกเกอร์สวัสดีสุดท้ายให้ลูกชาย ก่อนถูกรถชนดับกลางถนน
  • เด้ง 11 ตชด.! ถูกร้องรีด 5 แสนแลกปล่อยผู้ต้องหาคดียาเสพติด-เรียกเก็บรายเดือน เด้ง 11 ตชด.! ถูกร้องรีด 5 แสนแลกปล่อยผู้ต้องหาคดียาเสพติด-เรียกเก็บรายเดือน
  • ‘บิ๊กเต่า’นำทีมค้น11จุด จับ‘แก๊ง ฉก.กรมทางหลวง’รีดส่วยรถบรรทุกทั่วอีสาน-เหนือ ‘บิ๊กเต่า’นำทีมค้น11จุด จับ‘แก๊ง ฉก.กรมทางหลวง’รีดส่วยรถบรรทุกทั่วอีสาน-เหนือ
  • ผบก.จร.แจงคลิปตร.เรียกรับเงินหนุ่มญี่ปุ่น เหตุเกิดปี 62 สั่งตั้งกก.สอบ หากผิดจริงฟันวินัย ผบก.จร.แจงคลิปตร.เรียกรับเงินหนุ่มญี่ปุ่น เหตุเกิดปี 62 สั่งตั้งกก.สอบ หากผิดจริงฟันวินัย
  • ‘กัน จอมพลัง’กาง‘สมุดโดเรม่อน’ อ้างระดับบิ๊กนับ 100 รายชื่อ โยงส่วย‘ธุรกิจสีเทา’ ‘กัน จอมพลัง’กาง‘สมุดโดเรม่อน’ อ้างระดับบิ๊กนับ 100 รายชื่อ โยงส่วย‘ธุรกิจสีเทา’
  •  

Breaking News

'สพฐ.' แจ้งสถานศึกษาไม่ตื่นตระหนกข่าวลือ 'โควิด' ย้ำไม่ประมาท

(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต

'ดร.เสรี' ถาม 'รมว.สธ.'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้?

สำนักข่าวอิศราเปิดชื่อ 3 หมอโดนแพทยสภาสั่งลงโทษคดี 'ทักษิณ' ชั้น 14

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved