วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
นายกฯห่วงใยประชาชน แนะฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ครบทุกเข็ม

นายกฯห่วงใยประชาชน แนะฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ครบทุกเข็ม

วันอังคาร ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 08.59 น.
Tag : นายก วัคซีน โรคพิษสุนัขบ้า
  •  

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ห่วงใยประชาชน หลังพบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า แนะหากถูกสุนัขกัด ให้รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ครบทุกเข็ม-ชวนประชาชนร่วมขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย “ประเทศไทยปลอดโรคพิษสุนัขบ้าภายในปี 2568”

13 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า ปี 2566 ซึ่งข้อมูลกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุ ในปี 2566 มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว 3 ราย (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 23 พฤษภาคม 2566) เหตุจากการไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหลังสัมผัสโรค และในบางรายเคยมีประวัติได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อน แต่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนซ้ำหลังถูกสุนัขกัด


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าที่เกิดขึ้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชน จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังดูแลป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า และควรปฏิบัติตามข้อแนะนำของกรมควบคุมโรค โดยการนำสัตว์เลี้ยงไปรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และหากประชาชนที่ถูกสัตว์กัด/ข่วน หรือสัมผัสน้ำลายของสัตว์เข้าทางบาดแผล หรือเยื่อเมือกอ่อน โดยเฉพาะสัตว์ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหรือได้รับครั้งล่าสุดเกิน 1 ปี หรือไม่ทราบประวัติวัคซีน ลูกสัตว์ที่เกิดจากแม่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่ทราบประวัติวัคซีน ได้รับวัคซีนยังไม่ครบตามกำหนด หรือสัตว์ที่เคยได้รับวัคซีนแต่มีอาการป่วย หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่ โดยให้น้ำไหลอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 15 นาที ก่อนรักษาบาดแผลโดยการใส่ยาฆ่าเชื้อและรีบไปพบแพทย์

นอกจากนี้ให้กักขังสัตว์ที่กัด/เลีย เพื่อสังเกตอาการอย่างน้อย 10 วัน หากสุนัขหรือแมวเสียชีวิต ให้รีบแจ้งผู้นำชุมชนที่อยู่ใกล้ที่สุด และแจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่ เพื่อส่งซากสัตว์สงสัยที่เพิ่งตายตรวจหาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าทางห้องปฏิบัติการ และไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับวัคซีนที่สถานพยาบาลหลังถูกกัด ข่วน หรือสัมผัสน้ำลายสัตว์ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันจะฉีดวัคซีนเพียง 4-5 ครั้งเท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

“รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย ‘ประเทศไทยปลอดโรคพิษสุนัขบ้าภายในปี 2568’ ตามโครงการสัตว์ปลอดโรคคนปลอดภัยจากพิษสุนัขบ้า โดยมีแนวทางแก้ปัญหาโรคนี้ โดยมุ่งเน้นการควบคุมประชากรสุนัขและแมว และสัตว์ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนสุนัขและแมวเป็นประจำทุกปี อีกทั้ง ส่งเสริมความตระหนักรู้เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าให้ประชาชนและเจ้าของสัตว์เลี้ยง รวมถึงการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ และไม่ปล่อยทิ้งสัตว์ในพื้นที่สาธารณะ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

สำหรับโรคพิษสุนัขบ้า ข้อมูลกรมควบคุมโรคระบุว่าสามารถพบได้ตลอดทั้งปีหากในพื้นที่นั้น ๆ มีสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเชื้อแล้วไปกัดคน หรือสัตว์ตัวอื่นต่อไป โรคนี้ติดต่อจากสัตว์สู่คนที่เกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ (Rabies virus) พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะสุนัขและแมว และพบบ้างในโค กระบือ เชื้อจะเข้าทางบาดแผลที่ถูกกัด ข่วน หรือสัมผัสกับน้ำลายของสัตว์ที่มีเชื้อเข้าทางแผล หรือเยื่อเมือกอ่อน ผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าจะพบอาการทางระบบประสาทแบบเฉียบพลัน อาการระยะแรกจะมีไข้ อาจพบอาการคันบริเวณบาดแผลที่ถูกกัด แสบ ร้อน แล้วลามไปส่วนอื่น เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ต่อมาอาจมีอาการกระสับกระส่าย กระวนกระวาย นอนไม่หลับ ประสาทหลอน ไวต่อสิ่งกระตุ้น เสียการทรงตัว พูดจาเพ้อเจ้อ กลืนลำบาก น้ำลายไหล กล้ามเนื้อกระตุก แน่นหน้าอก ชักเกร็ง อาจพบอาการกลัวแสง กลัวลม กลัวน้ำ ซึ่งเรียกว่า Furious form พบประมาณร้อยละ 80 ส่วนอาการที่พบในอีกรูปแบบหนึ่ง ประมาณร้อยละ 20 ของผู้ป่วย คือ อาการอัมพาต (Paralytic form) โดยอาการอัมพาตกล้ามเนื้อจะเริ่มจากข้างที่ถูกกัด ก่อนที่จะลุกลามไปยังแขนขาทั้ง 4 และผู้ป่วยจะเสียชีวิตในที่สุด

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รัฐบาลเชิญฉีดวัคซีนป้องกัน‘โรคมะเร็งปากมดลูก’ฟรี เปิดบริการทั่วประเทศถึง เม.ย.นี้ รัฐบาลเชิญฉีดวัคซีนป้องกัน‘โรคมะเร็งปากมดลูก’ฟรี เปิดบริการทั่วประเทศถึง เม.ย.นี้
  • \'พิษสุนัขบ้า\' คร่าแล้ว 2 ราย ถูกสุนัขกัดแล้ว ไม่ไปพบแพทย์ เพื่อรับการฉีดวัคซีน 'พิษสุนัขบ้า' คร่าแล้ว 2 ราย ถูกสุนัขกัดแล้ว ไม่ไปพบแพทย์ เพื่อรับการฉีดวัคซีน
  • ‘หมอยง’เลคเชอร์‘ไข้หวัดใหญ่’ระบาดในไทย-ญี่ปุ่น ‘สายพันธุ์’ที่อยู่ในวัคซีน ‘หมอยง’เลคเชอร์‘ไข้หวัดใหญ่’ระบาดในไทย-ญี่ปุ่น ‘สายพันธุ์’ที่อยู่ในวัคซีน
  • \'สมศักดิ์\'ผลักดันพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า\'สุโขทัย\' หวังให้หมดจากประเทศไทย 'สมศักดิ์'ผลักดันพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า'สุโขทัย' หวังให้หมดจากประเทศไทย
  • ‘หมอยง’เลคเชอร์‘สายพันธุ์โควิด’ในไทย พบเปลี่ยนแปลงชัดเจน-ผลต่อ‘วัคซีน’? ‘หมอยง’เลคเชอร์‘สายพันธุ์โควิด’ในไทย พบเปลี่ยนแปลงชัดเจน-ผลต่อ‘วัคซีน’?
  • สธ.เผยภาวะลิ่มเลือดจากฉีดวัคซีนโควิดแอสตร้าฯ จะเกิดขึ้นหลังฉีด 5-42 วันเท่านั้น สธ.เผยภาวะลิ่มเลือดจากฉีดวัคซีนโควิดแอสตร้าฯ จะเกิดขึ้นหลังฉีด 5-42 วันเท่านั้น
  •  

Breaking News

ใหญ่คับพื้นที่!! สจ.กร่างสั่งลูกน้องรุมตื้บ ตร.หน่วยเลือกตั้ง หลังถูกเตือนถ่ายภาพด้านใน

มีแค่ 2 เส้นทาง! 'อดีตบิ๊ก ศรภ.'วิเคราะห์'ฮั้วสว.' สีน้ำเงิน...กับการพลิกล็อค

(คลิป) 'เจ๊ปอง'เผยพิกัด'เมียน้อย'อยู่เกาะฮ่องกง ให้'เมียหลวง'สิงคโปร์ภรรยานายทุน'กาสิโน'

จี้จุด'ทักษิณ' 'ดิเรกฤทธิ์'ชี้คนไทยให้อภัยได้ ถ้ารับผิด-ติดคุกจริง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved