เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามรายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทย โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 7 มิถุนายน พบผู้ป่วย 19,503 ราย เสียชีวิต 17 ราย ซึ่งกรมควบคุมโรคคาดการณ์ว่าโรคไข้เลือดออกจะกลับมาระบาดอีกครั้งปี 2566 ตามวงรอบของปีที่จะระบาด และสถานการณ์โรคไข้เลือดออกระยะนี้มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก เพราะระยะนี้มีฝนตกลงมาหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำขังค้างในภาชนะต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย
ทั้งนี้ นายกฯห่วงใยผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กวัยเรียน กำชับกรมควบคุมโรค และกระทรวงศึกษาธิการ ขอความร่วมมือสถานศึกษาทั่วประเทศ อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) และหน่วยงานส่วนท้องถิ่น ร่วมมือกันสำรวจและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงทุกสัปดาห์ เน้นพื้นที่บ้าน วัด โรงเรียน สถานที่พบลูกน้ำยุงลายสูงสุด รวมทั้งฝากเตือนประชาชนให้ระวังป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด
โฆษกรัฐบาลกล่าวต่อว่า จากรายงานล่าสุดของกรมควบคุมโรค ระบุจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกปี 2566 มากกว่าปี 2565 ในช่วงเวลาเดียวกันถึง 3.8 เท่า กลุ่มอายุที่พบป่วยสูงสุด ได้แก่ อายุ 5-14 ปี รองลงมา 15-24 ปี จังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุดใน 4 สัปดาห์ล่าสุดคือ จ.ตราด อ.เกาะช้าง บ่อไร่ แหลมงอบ คลองใหญ่ จ.น่าน อ.สองแคว ทุ่งช้าง เชียงกลาง จ.จันทบุรี อ.เมือง ท่าใหม่ มะขาม จ.แม่ฮ่องสอน อ.ขุนยาวม แม่ลาน้อย และจ.สตูล อ.เมือง รวมระบาดใน 348 อำเภอ 71 จังหวัด ซึ่งประเมินความเสี่ยงพบมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกภาค ส่วนปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยที่เสียชีวิตคือ ไปรักษาที่โรงพยาบาลช้าเกินไป มีภาวะอ้วน ได้รับยากลุ่ม NSAIDs มาก่อน และมีโรคประจำตัว
นายอนุชากล่าวด้วยว่า รัฐบาลโดยกรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ตามมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ได้แก่ เก็บบ้านให้สะอาดไม่ให้ยุงลายเข้ามาเกาะพัก เก็บภาชนะกักเก็บน้ำให้มิดชิดเพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ เก็บขยะ ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย นอกจากนี้ ต้องช่วยกันพัฒนาสิ่งแวดล้อม ป้องกันควบคุมโรคติดต่อนำโดยยุงลาย 7 สถานที่หรือ 7 ร. ได้แก่ โรงเรือน (บ้าน) โรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม/รีสอร์ท โรงงาน/อุตสาหกรรม โรงธรรม (วัด/มัสยิด/ศาสนสถาน) และสถานที่ราชการ ซึ่งสถานที่ดังกล่าวมีประชาชนรวมตัวกันจำนวนมาก ถือเป็นสถานที่เสี่ยงมีการระบาดของโรคไข้เลือดออก และจากผลการสำรวจ พบแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายสูงสุดในกลุ่มโรงเรียนและโรงธรรม
“กรมควบคุมโรค มีข้อแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัว ภาวะอ้วน ผู้สูงอายุ และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัด ถ้ามีไข้สูงลอย ร่วมปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา หรือมีจุดเลือดออกที่ลำตัว และแขน ขา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาลดไข้ในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโครฟีแนก แอสไพริน รวมถึงยาชุด มีผลทำให้เลือดออกในช่องทางเดินอาหารและยากต่อการรักษา เสี่ยงเสียชีวิต หากมีไข้ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรคให้ชัดเจน จะช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้” นายอนุชากล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี