วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีการตรวจสอบข้อมูลผู้เสียชีวิตของเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง พบว่ามีเกษตรกรผู้ได้รับการจัดให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินเสียชีวิตทั้งสิ้น 205,930 ราย และ ส.ป.ก.ได้แจ้งให้ทายาทมาดำเนินการยื่นคำขอจัดที่ดินแทนที่ตามระเบียบฯ แล้ว 18,542 ราย คิดเป็นเนื้อที่ 349,561 ไร่ ในปี 2564 ได้แก้ไข/ปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอนหรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อ และการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน 2564 ขึ้น มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 กำหนดให้ทายาทของเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินเสียชีวิตยื่นคำขอรับมรดกสิทธิฯ ตามระเบียบข้อ 22 และ 23 หรือขอรับการจัดที่ดินแทนที่ผู้เสียชีวิตตามข้อ 30 และ 31 ภายในระยะเวลา1 ปี และเปิดโอกาสให้เกษตรกรที่ประสงค์จะทำเกษตรกรรมแต่ไม่มีที่ดินทำกินได้รับความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ตามระเบียบดังกล่าวที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ มีการกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลโดยอนุโลมว่า สำหรับเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินซึ่งเสียชีวิตก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ และทายาทยังไม่ได้มายื่นคำขอภายใน 1 ปี ตามที่ระเบียบกำหนด ให้เริ่มนับวันตั้งแต่วันที่ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้และขยายวันไปอีกไม่เกิน 2 ปี จะต้องมายื่นคำขอรับการตกทอดทางมรดกสิทธิ/ขอรับการจัดที่ดินแทนที่ พร้อมทั้งต้องแสดงเหตุผลอันสมควรได้รับการจัดที่ดิน ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2566 หากพ้นระยะเวลาที่กำหนด ส.ป.ก.จะประกาศเป็นที่ดินแปลงว่าง และจัดให้เกษตรกรหรือผู้ประสงค์จะทำเกษตรกรรมรายอื่นตามระเบียบฯต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี