วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ทลายแก๊งใหญ่ Royal Gold! ปอท.รวบสมุน-หัวหน้าแก๊งคอล เงินหมุนเวียน 3 พันล้าน

ทลายแก๊งใหญ่ Royal Gold! ปอท.รวบสมุน-หัวหน้าแก๊งคอล เงินหมุนเวียน 3 พันล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 11.34 น.
Tag : เงินหมุนเวียน หัวหน้าแก๊งคอล ปอท. แก๊งRoyal Gold แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สมุน บัญชีม้า
  •  

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหัวหน้าแก๊งหลอกลงทุน-คอลเซ็นเตอร์ชาวจีน พร้อมเครือข่ายในประเทศไทย พบฐานปฏิบัติการที่สามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ปูพรมตรวจค้น-ยึดทรัพย์ในพื้นที่ 4 จังหวัด เงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

22 มิถุนายน 2566 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ, พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.2 บก.ปอท., พ.ต.ท.สัตตเมธ ใจแก้ว, พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ, พ.ต.ท.ธนะ ว่องทรง รอง ผกก.2 บก.ปอท. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ชัยเวง พาด้วง, พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์, พ.ต.ต.จักรพงษ์ รุ่งจำกัด, ว่าที่ พ.ต.ต.วชิรเชษฐ์  อัครธีระพงศ์, ว่าที่ พ.ต.ต.กมลภพ หาญเวช สว.กก.2 บก.ปอท., พ.ต.ต.ธนนชัยย์ ศรีบุญจันทร์, ว่าที่ พ.ต.ต.ศุภเดช ธนชัยศิริ สว.(สอบวน) กก.2 บก.ปอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก กก.4 บก.ปคบ. และ กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา เครือข่ายหลอกลงทุน-คอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่ายที่มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของบ่อนคาสิโน “คิงส์โรมัน” ใน สปป.ลาว ลงไปจนถึงคนรวบรวมบัญชีม้าและคนรับจ้างเปิดบัญชีม้า ซึ่งในคดีนี้ได้ร้องขออนุมัติศาลอาญาเพื่อออกหมายจับ รวม 15 หมายจับ และสามารถจับกุมผู้ต้องได้หาทั้งหมด 11 ราย โดยมีรายละเอียด ดังนี้


1. นายเถิง จวิ้น สัญชาติจีน เป็นหัวหน้าเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจับกุมที่ บ้านพัก ในพื้นที่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.66

2. น.ส.หงษ์ อายุ 25 ปี บุคคลไร้สัญชาติ เป็นคนที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน โดยการขายเหรียญคริปโตและนำเงินสดไปส่งมอบให้หัวหน้าเครือข่าย จับกุมที่บ้านพักในพื้นที่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.66

3. นายนพดล อายุ 32 ปี เป็นคนที่ทำหน้าที่รวบรวมบัญชีม้าจากฝั่งไทย ไปส่งมอบให้กับชาวจีนที่ควบคุมดูแลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ สปป.ลาว

4. นายปิยะพงษ์ อายุ 36 ปี เป็นคนที่ทำหน้าที่รวบรวมบัญชีม้าจากฝั่งไทย ไปส่งมอบให้กับชาวจีนที่ควบคุมดูแลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ สปป.ลาว จับกุมได้ที่ ม.4 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อ 13 มิ.ย.66

5. นายณัฐวุฒิ อายุ 33 ปี บัญชีม้า, กระเป๋าวอลเล็ตม้า จับกุมได้ที่ ม.6 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เมื่อ 13 มิ.ย.66

6. นายนัทธพงศ์ อายุ 30 ปี บัญชีม้า, กระเป๋าวอลเล็ตม้า จับกุมได้ที่ ใกล้ปากซอยบ้านดู่ ม.3 ซ.4 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อ 13 มิ.ย.66

7. น.ส.กาญจนา อายุ 35 ปี บัญชีม้า, กระเป๋าวอลเล็ตม้า จับกุมได้ที่ ม.1 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เมื่อ 13 มิ.ย.66

8. นายนพพร อายุ 37 ปี บัญชีม้า, กระเป๋าวอลเล็ตม้า จับกุมได้ที่ ม.4 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อ 13 มิ.ย.66

9. นางอังศุมาลินฯ อายุ 30 ปี บัญชีม้า, กระเป๋าวอลเล็ตม้า จับกุมได้ที่ ม.11 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อ 13 มิ.ย.66

10. นายเอฯ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี พ่อค้าเหรียญคริปโต จับกุมได้ที่ ม.1 บ้านกลางเวียง ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย เมื่อ 13 มิ.ย.66

11. นายบีฯ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี พ่อค้าเหรียญคริปโต จับกุมได้ที่ หมู่ 10 ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี เมื่อ 13 มิ.ย.66

อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมตามหมายจับเพิ่มเติม อีก 5 ราย

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน  “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”

สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงประมาณต้นปี พ.ศ.2566 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนจากทางสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพได้นำชื่อสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไปแอบอ้างด้วยการเปิดเว็บไซต์หลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาลงทุนในหุ้นทองคำ โดยใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า Royal Gold (https://sh.capital868.com/main/home) ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินไปร่วมลงทุนกับกลุ่มมิจฉาชีพเป็นจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบ ตั้งแต่ มกราคม ถึง พฤษภาคม 2566 พบมีผู้เสียหายหลงเชื่อกว่า 2,000 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงมอบหมายให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รับผิดชอบสืบสวนและติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เป็นผู้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

จากการสืบสวนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกลวงโดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหาย ตีสนิทด้วยการพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว ก่อนจะชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในหุ้นทองคำผ่านเว็บไซต์ Royal Gold (เว็บไซต์ปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมา มีลักษณะคล้ายเว็บไซต์เทรดหุ้น มีกราฟแสดงมูลค่าของหุ้นตลอดเวลา) นอกจากนี้มีการแอบอ้างว่าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ลงทุนในหุ้นทองคำที่เกี่ยวข้องกับสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

ในช่วงแรก มิจฉาชีพจะชักชวนให้ผู้เสียหายนำเงินมาทดลองลงทุน โดยจะให้ผู้เสียหายโอนเงินลงทุนไปยังบัญชีม้าที่เปิดเตรียมไว้ หลังจากลงทุนไปสักระยะเวลาหนึ่ง มิจฉาชีพจะคืนเงินต้น และให้ผลตอบแทนในการลงทุน (คิดเป็น 10% ของเงินลงทุน) จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวได้รับผลตอบแทนจริง

อีกทั้งในเว็บไซต์ดังกล่าวมีการแสดงยอดเงินลงทุนและผลตอบแทนให้เห็นตรงตามกับจำนวนเงินที่ผู้เสียหายลงทุนไป จึงยิ่งทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่ภายหลังเมื่อผู้เสียหายต้องการจะถอนเงินออกจากเว็บไซต์ มิจฉาชีพจะหลอกให้ผู้เสียหายเสียค่าดำเนินการและเสียภาษีก่อน โดยเมื่อผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มตามจำนวนที่มิจฉาชีพแจ้งแล้ว มิจฉาชีพจะบล็อกช่องทางการติดต่อ ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกับมิจฉาชีพได้อีก

จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปยังบัญชีม้าตามที่มิจฉาชีพกล่าวอ้างแล้ว เงินทั้งหมดจะถูกนำไปซื้อเหรียญดิจิทัล (Cryptocurrency) ในสกุล USDT จากพ่อค้าคนกลาง หลังจากนั้นจะมีการโอนเหรียญดิจิทัลดังกล่าวเข้าไปยังกระเป๋าวอลเล็ตม้า (กระเป๋าดิจิทัลที่ถูกว่าจ้างให้เปิด) ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฟอกเงินในรูปแบบเหรียญดิจิทัล โดยเป็นการยักย้ายถ่ายเทเหรียญคริปโตในเครือข่ายกระเป๋าเหรียญดิจิทัลที่มีมากกว่าร้อยกระเป๋า แต่ท้ายที่สุดก็พบว่าคนร้ายมีการโอนเหรียญดิจิทัลทั้งหมดไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของกลุ่มผู้บริหารเครือข่ายชาวจีนที่รับหน้าที่ฟอกเงิน โดยการนำเหรียญดิจิทัลที่ได้มาจากการฉ้อโกงไปขายแลกกลับมาเป็นเงินบาทไทย ก่อนจะนำเงินที่ได้มาไปส่งมอบให้กับหัวหน้าเครือข่าย

รูปแบบการกระทำความผิดของกลุ่มมิจฉาชีพ พบว่าเป็นการกระทำความผิดในลักษณะขบวนการ มีแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจะแบ่งเป็น (1) หัวหน้า ทำหน้าที่ สั่งการ, (2) กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่ ติดต่อพูดคุยและหลอกลวงเหยื่อ, (3) กลุ่มจัดหาบัญชีม้าและกระเป๋าม้า รวบรวมบัญชีต่างๆ นำไปมอบให้กับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ (4) กลุ่มบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า ทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีและกระเป๋าเงินดิจิทัล (5) กลุ่มที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน แลกเปลี่ยนเงิน รวมถึงทำหน้าที่รับโอนเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงเพื่อนำไปซื้อเหรียญดิจิทัล และขายเหรียญดิจิทัลเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทย

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า กลุ่มคนที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน ประมาณ 3,000 – 4,000 บาท โดยกลุ่มผู้จัดหาและว่าจ้างจะเตรียมโทรศัพท์พร้อมซิมการ์ดมาให้กลุ่มผู้รับจ้างทำการยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อเปิดบัญชีธนาคารพร้อมกับกระเป๋าแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล (Wallet) หลังจากนั้นจะรวบรวมบัญชีม้าพร้อมโทรศัพท์มือถือที่ผูกกับกระเป๋าม้านำไปส่งให้กับนายทุนที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ที่ สปป.ลาว

จากข้อมูลในการสืบสวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการรวบรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ โดยในวันที่ 13 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุม     ผู้ร่วมขบวนการใน กลุ่มของผู้จัดหาและรวบรวมบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า, กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 8 ราย และหลังจากนั้น วันที่ 20 มิถุนายน 2566 มีการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 3 ราย เป็น หัวหน้าเครือข่าย, ผู้บริหารดูแลเรื่องฟอกเงิน และผู้รวบรวมบัญชี รวมผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้งสิ้น 11 ราย จากนั้นได้มีการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น หนึ่งในผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่จัดหาและรวบรวมบัญชีม้า ให้การรับว่าตนเองได้รับการว่าจ้างมาจากนายทุนชาวจีน ว่าจ้างให้รวบรวมบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้าของคนไทย และให้นำไปส่งมอบให้กับชาวจีนที่อยู่ในพื้นที่ของบ่อนคาสิโนคิงส์โรมัน ฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการ โดยตนจะได้รับค่าจ้างประมาณ 10,000 บาท ต่อบัญชี ซึ่งสาเหตุที่ตนรับจ้างทำงานในลักษณะนี้ เนื่องจากตนเองมีหนี้สินที่เกิดจากการเล่นพนันในบ่อนคาสิโนคิงส์โรมัน และนายทุนชาวจีนดังกล่าวเป็นคนภายในบ่อนคาสิโน ตนจึงถูกบังคับให้จัดหาและรวบรวมบัญชีม้ามาให้เพื่อใช้หนี้การพนัน 

อีกทั้งจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถตรวจยึดทรัพย์สิน จำนวนหลายรายการ อาทิเช่น รถยนต์หรู จำนวน 3 คัน, เงินสด รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท, สร้อยคอทองคำ แหวน กว่า 30 รายการ, นาฬิกาหรู และกระเป๋าแบรนเนมด์, คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ก, โทรศัพท์มือถือ, ซิมการ์ด, สมุดบัญชีธนาคาร และใบรับประกันทอง จำนวนหลายรายการ

จากการตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่ได้ตรวจยึดมา พบว่า มีกลุ่ม Telegram ซึ่งเป็นกลุ่ม Scammer จะมีการส่งภาพถ่าย หญิงสาวหน้าตาดี, ภาพอาหารราคาแพง, ภาพวาบหวิวของหญิงสาว และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพื่อใช้ในการหลอกลวงเหยื่อให้ตกหลุมรัก อีกทั้งยังมีบทสนทนาที่เตรียมไว้พูดคุยกับเหยื่อ และตารางสรุปยอดที่เหยื่อหลงเชื่อและสนใจเข้ามาลงทุน ไปจนถึงจำนวนเหยื่อที่เข้ามาลงทุนในเว็ปไซต์ และยังมีหนึ่งในผู้ต้องหา รับว่าใบรับประกันทองที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดมา เป็นการซื้อทองคำ เพื่อนำไปมอบเป็นรางวัลโบนัสให้กับพนักงานที่สามารถหลอกลวงเหยื่อให้เข้ามาลงทุนในเว็บไซต์ได้

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ภาค 1’ลุยยึดซิมบ็อกซ์ โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยจนท.ไฟฟ้า ตุ๋นคืนค่ามิเตอร์ ‘ภาค 1’ลุยยึดซิมบ็อกซ์ โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยจนท.ไฟฟ้า ตุ๋นคืนค่ามิเตอร์
  • เชิญชวนผู้สนใจ! ร่วมเสวนา\'เตือนภัยออนไลน์\'เพื่อประชาชนและสังคม เชิญชวนผู้สนใจ! ร่วมเสวนา'เตือนภัยออนไลน์'เพื่อประชาชนและสังคม
  • เชือด‘ไทยเทา’! ฟันข้อหาหนัก 119 คนขายชาติ ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เชือด‘ไทยเทา’! ฟันข้อหาหนัก 119 คนขายชาติ ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์
  • บุกคอนโดฯจีนเทา ยึด‘ซิมบ็อกซ์’เอี่ยวแก๊งคอลฯ หลอกเหยื่อข้ามจังหวัด บุกคอนโดฯจีนเทา ยึด‘ซิมบ็อกซ์’เอี่ยวแก๊งคอลฯ หลอกเหยื่อข้ามจังหวัด
  • เปิดหน้า‘กองร้อยปอยเปต’ DSIแฉพฤติการณ์‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ’ เปิดหน้า‘กองร้อยปอยเปต’ DSIแฉพฤติการณ์‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ’
  • ‘ดีอี’ระงับกว่า 1.6 ล้าน‘บัญชีม้า’ จับ 2,495 ราย ย้ำโทษหนักคุก 3 ปี ‘ดีอี’ระงับกว่า 1.6 ล้าน‘บัญชีม้า’ จับ 2,495 ราย ย้ำโทษหนักคุก 3 ปี
  •  

Breaking News

เช็คผลโพลคนไทย‘จำวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาได้ไหม’!?

สกู๊ปพิเศษ : ถอดบทเรียนแก้ปัญหาการพนันในสถานประกอบการไทย

‘สมชัย’แนะ‘สว.’ไปตามหมายเรียก ดึงสติ‘ศักดิ์’กินไม่ได้ ‘โทษอาญา-ตัดสิทธิ’นั่นของจริง

ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved