กองปราบรวบเพิ่มอีก 2 มืออุ้มเรียกค่าไถ่ ทวงหนี้ยาเสพติด
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 มิถุนายน 2566 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม (ผบก.ป.) สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. , พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ยะลา เข้าจับกุมนายอิบรอเฮง อายุ 31 ปี และนายอนุรักษ์ อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยทารุณโหดร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นรับอันตราย,ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทรมาน” โดยจับกุมนายนายอิบรอเฮง ได้ที่หน้าศาลจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา และจับกุมนายอนุรักษ์ ได้ที่หน้าโรงแรมใน ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้เปิดปฏิบัติการ “ขอนแก่นนราล่าปิดบัญชีแก๊งเรียกค่าไถ่โหด” กระจายกำลังตรวจค้นเป้าหมาย 8 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ จ.ยะลา 3 จุด จ.นราธิวาส 4 จุด และ จ.ขอนแก่น 1 จุด เพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการรับจ้างนายทุนยาเสพติดภาคอีสานอุ้มเรียกค่าไถ่ทวงหนี้ยาเสพติด (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘หนุมานกองปราบ’ลุยค้น 8 จุด ปิดบัญชีแก๊งอุ้มทวงเงินยา รีดค่าไถ่โหด) จนสามารถจับกุม ผู้จ้างวาน หัวหน้าแก๊งอุ้มรีด และ คนประสานงาน ได้รวมจำนวน 5 คน ก่อนจะขยายผลต่อเนื่องจนทราบว่านอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 5 รายที่ถูกจับไปแล้วนั้นยังมี นายอิบรอเฮง และนายอนุรักษ์ ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้เกี่ยวข้องด้วย โดยทำหน้าที่เป็นคนลงมืออุ้มตัวผู้เสียหายจากบ้านพักไปกักขังแล้วซ้อมทรมาน จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การออกหมายจับและตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวน นายอิบรอเฮง ให้การปฏิเสธ ส่วนนายอนุรักษ์ รับสารภาพ เบื้องต้น จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี