“พลายศักดิ์สุรินทร์” ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่และควาญช้างไทยได้อย่างรวดเร็ว โดยชูงวงและงา รับคำสั่ง “สวัสดี”พบชอบเล่นทราย ปรับพฤติกรรมเข้ากับสภาพแวดล้อมขณะที่“ศรีลังกา” ขู่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย หากมารับ “พลายประตูผา-พลายศรีณรงค์” กลับไทย

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 6กรกฏาคม2566 ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ไลฟ์สดพลายศักดิ์สุรินทร์ ผ่านเพจเฟซบุ๊กโดยพบว่า พลายศักดิ์สุรินทร์ชอบเล่นทรายมาก ซึ่งแม้จะเพิ่งอาบน้ำเสร็จก็ยังไปคลุกทรายและนั่ง นอน และยืน พร้อมใช้งวงดูดทรายสะพัดใส่ตัว ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าอารมณ์ดี ผ่อนคลาย และไล่แมลงด้วย ถือเป็นกิริยาตามปกติโดยควาญช้างได้เพิ่มหญ้าขนให้ช้างกิน เพราะเป็นหญ้าที่ให้คุณค่าสารอาหารทางร่างกายสูง และให้ช้างกินวันละ 12 มัด ผลที่ออกมาช้างขับถ่ายวันละ 50 กิโลกรัม ซึ่งเป็นปกติ หลังที่ผ่านมาให้กินหญ้าบาน่าและหญ้าเนเปียร์ ภาพรวมพลายศักดิ์สุรินทร์ ปรับตัวเร็วกับสภาพแวดล้อมใหม่และควาญช้างไทย โดยเฉพาะการฟังคำสั่งของควาญช้างด้วยภาษาไทย เช่น ให้ยกงวงและยกงา ด้วยคำสั่ง “สวัสดี” ซึ่งช้างรับฟังคำสั่งพร้อมยกงวงและยกงาขึ้นทันที

ทีมสัตวแพทย์ เข้ามาตรวจสุขภาพประจำวัน เพื่อประเมินอาการยังไม่พบว่า มีอาการน่าเป็นห่วงมากนักและมีการปรับพฤติกรรมได้อย่างดีและอารมณ์ดี แต่ต้องเฝ้าระวังพิเศษช่วงปลายฤดูฝนเข้าสู่ต้นฤดูหนาว จะเป็นช่วงของช้างตกมัน ซึ่งช้างงาหากตกมันจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวและดุร้าย ทำให้จำเป็นต้องล่ามโซ่ไว้ก่อน

ขณะที่ในโลกออนไลน์ กลุ่มนักอนุรักษ์และนักวิชาการ ตั้งคำถามเรื่องการติดตามช้างไทย 20 เชือกที่เคยมีรายงานว่าถูกส่งไปในนามทูตสันถวไมตรีว่ายังอยู่ดีมีสุขหรือไม่ โดยเฉพาะช้างไทยในศรีลังกาอีก 2 เชือกคือ พลายประตูผา และพลายศรีณรงค์ รวมทั้งช้างในประเทศเดนมาร์ก ญี่ปุ่น สวีเดน ออสเตรเลีย

วันเดียวกัน UpulJayarathnaDenelpitiyageหรือลุงปุ้ย หัวหน้าชุดควาญศรีศรีลังกาจากสวนสัตว์ Dehiwalaที่เดินทางมากับพลายศักดิ์สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม ที่ผ่านมา จะเดินทางกลับศรีลังกา โดยควาญชาวศรีลังกา บอกว่า รู้สึกผูกพัน รักพลายศักดิ์สุรินทร์ ถ้ากลับไปแล้วคงคิดถึง และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่นี้ดูแลพลายศักดิ์สุรินทร์ให้แข็งแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กWorld Forum ข่าวสารต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาสำนักข่าวท้องถิ่นศรีลังกา เปิดเผยว่า นายเนรัญชรา ไวเยรัตเน นักการเมือง ผู้นำฝ่ายค้าน อดีตผู้นำผู้ปกครองสำนักงานของหัวหน้าฝ่ายอุปัฏฐาก Sri DaladaMaligawaวัดพระเขี้ยวแก้ว หัวหน้าฝ่ายฆราวาส มีอำนาจจัดการส่งเสริม เกี่ยวกับวัดในเมืองแคนดี้

นายเนรัญชรา ให้ข้อมูลผ่านสื่อศรีลังกาว่าช้างไทยราชา ได้รับมอบเป็นของขวัญแก่ วัดศรีดาลดา มาลิกาวา (วัดพระเขี้ยวแก้ว) จากพระมหากษัตริย์ไทยเมื่อ 37 ปีที่แล้ว มีสุขภาพแข็งแรงดี NGO องค์กรเกี่ยวกับสัตว์ บางรายในศรีลังกากำลังส่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปยังรัฐบาลไทยเกี่ยวกับช้าง หากมีการพยายามนำช้างที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทยกลับไปยังประเทศไทยนั้น จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยสำหรับค่าใช้จ่ายในการบำรุง ดูแล รักษาช้างจนถึงปัจจุบัน

ช้างได้รับการดูแลอย่างดีจากรุ่นพี่ที่จบทางด้านสัตวแพทย์ศาสตร์ ตั้งแต่รับช้างมาเมื่อ 37 ปีก่อนใช้เงินจำนวนมหาศาลในการดูแล นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นว่าการขอของขวัญที่มอบให้คืนนั้นผิดจรรยาบรรณการแห่พระบรมสารีริกธาตุศักสิทธิ์ แห่พระเขี้ยวแก้ว เปรียบเสมือนการถวายของแก่พระพุทธเจ้า มีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่อาจละเลยไม่ได้

NGO องค์กรเกี่ยวกับสัตว์ ที่พึ่งพาเงินจากต่างประเทศกำลังทำงานเพื่อส่งช้าง 2 เชือกกลับประเทศไทย ตามคำกล่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของไทย กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า หากคนไทยเรียกร้อง พวกเขาพร้อมที่จะนำช้างที่เหลืออีก 2 เชือกกลับไทย

เนรัญชรา กล่าวต่อว่า ข้าพเจ้าทูลขอต่อพระเจ้าภูมิพลมหาราชาแห่งประเทศไทย ขอให้ถวายลูกช้างแก่ วังดาลดา (วัดพระเขี้ยวแก้ว) คำขอนั้นได้รับมอบช้างในปี 2529 ลูกช้างตัวนี้ถูกนำมาโดยเครื่องบินรบเครื่องบินขนส่งของอเมริกา และได้รับอนุมัติพิเศษจาก เจอาร์ เจวาร์ดีน ผู้นำศรีลังกาในสมัยนั้น ช้างตัวแรก มุทุราชา (พลายศักดิ์สุรินทร์) นั้นส่งกลับถึงประเทศไทยแล้ว องค์กรเกี่ยวกับสัตว์กำลังพยายามจะนำช้างอีก 2 เชือกกลับในปัจจุบัน ศรีลังกา มีการแห่พระเขี้ยวแก้ว พระบรมสารีริกธาตุ แห่อื่นๆ จำนวนมาก หลายวัด ใช้ช้างมากถึง 150 เชือกในการแห่ มีหลายแบบ ช้างทรงเครื่องตกแต่ง แห่ 20.00-02.00 น.บางกรณีช้างเดินหลายกิโลเมตร ช้างเอเชียในศรีลังกานั้นตัวใหญ่แต่ไม่เข้าตำรา เนื่องจากงาสั้น งายาวสุด 20ซม.ช้างพม่า อินเดีย ไทย เข้าเกณฑ์ งายาว สวยงามตามตำรา จึงถูกขอจากศรีลังกาในโอกาสต่างๆ และถูกส่งมอบให้ ไทย อินเดีย พม่า ศรีลังกา มีความเชื่อมโยงทางศาสนา ประเพณี การแห่พระเขี้ยวแก้ว มีมามากกว่า 270ปี หลายวัดของศรีลังกา เลี้ยงดูช้าง ที่เข้าตำราสง่า ไว้ร่วมกิจกรรมแห่ต่างๆ การแห่ขบวนด้วยช้างจำนวนมาก ได้รับความสนใจจากคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว