เรื่องราวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรหาประชาชนยังมีเห็นทุกวี่ทุกวัน บางคนหลงกลถูกหลอกสูญเงินทั้งหลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน บางคนคิดสั้นแทบฆ่าตัวตายยังระบาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตร.ไซเบอร์ ปฏิบัติการบุกค้น 6 จุดเมืองอุดรฯ ทลายแหล่งฟอกเงินและตามยึดทรัพย์ทั้งบ้าน รถยนต์หรู โฉนดที่ดิน และทรัพย์สินอื่นรวมมูลค่าเกือบร้อยล้านบาท ฝากเตือนคนเปิดบัญชีม้ามีโทษหนักความผิดรุนแรง
วันนี้ (20 ก.ค.66) ที่สถานีตำรวจทางหลวงอุดรธานี บ้านข้าวสาร ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.ตร.สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รองผบช.สอท.,พล.ต.ต. ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 ,พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี,และนายสมชาย พลายด้วง ผอ.กองคดี 5 ปปง. นำกำลังเจ้าหน้าที่ บช.สอท.และปปง. แถลงข่าวหลังจากปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ จ.อุดรธานี 6 จุด และกรุงเทพ 1 จุด เพื่อตรวจค้นยึดทรัพย์เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งทั้งไปรษณีย์ไทย บริษัทขนส่งเอกชนต่างๆ
จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พื้นที่เป้าหมายของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่ฯ สามารถตรวจยึดรถยนต์ ยี่ห้อ porsphe cayenne 1 คัน มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท,รถเบนซ์ 1 คันรถจักรยานยนต์ LAMBRETTA รุ่น X300 สีเขียว มูลค่า 150,000 บาท เงินสดเกือบ 500,000 บาท ,เงินสดสกุลลาว 530,000 กีบ ,นาฬิกา ยี่ห้อ ROLEX รุ่น SUBMARINER สีเขียว มูลค่า 320,0000แนบาท , นาฬิกา ยี่ห้อ FRANCK MULLER รุ่น YACHTING สีน้ำเงิน มูลค่า 3 แสนบาท ,กระเป๋าแบรนด์เนมอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจยึดกระเป๋าแบรนด์เนม,โฉนดที่ดิน,อสังหาริมทรัพย์ ในจุดอื่นๆได้ รวมมูลค่า 90 ล้านบาท
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช. ตร. บช.สอท. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้มีประชาชนกลุ่มผู้เสียหายยื่นร้องเรียนและขอความช่วยเหลือไปยัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งได้รับความเสียหายจากกลุ่มขบวนการ "แก็งคอลเซ็นเตอร์"แอบอ้างเป็นบริษัทขนส่งเอกชน และไปรษณีย์ไทย มีจำนวนผู้เสียหายลงชื่อเข้าร้องเรียนกว่า 166 ราย ความเสียหายประมาณ 90 ล้านบาท โดยเกิดเหตุต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องหลายท้องที่ทั่วประเทศ จึงสั่งการให้ บช.สอท.สืบสวนขยายผลเพื่อสืบทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการดังกล่าว อีกทั้งกลุ่มบุคคลที่เชื่อว่ามีการกระทำการอันเป็นการสนับสนุนการฟอกเงิน
จากการสืบสวนพบว่า มีกลุ่มบุคคลที่ความเกี่ยวข้องทางการเงินจากบุคคลที่ได้รับจ้างเปิดบัญชีให้กลุ่มขบวนการมิจฉาชีพนำไปใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับบุคคลที่รับจ้างเปิดบัญชีให้กับกลุ่มแก็งดังกล่าวในฐานความผิด "สนับสนุนการกระทำความผิดในความผิดฐานฟอกเงิน" ไปก่อนแล้ว และจากการขยายผลเส้นทางทางการเงินพบความเชื่อมโยงไปยังบุคคลต่างๆอีกหลายราย ทั้งในส่วนของบุคคลผู้ทำหน้าที่ตระเวนกดเงิน รับผลประโยชน์จากบัญชีผู้ต้องหา
อีกทั้งพบพยานหลักฐานและพฤติการณ์ของกลุ่มที่เป็นนายหน้าจ้างให้เปิดบัญชีเพื่อนำมาใช้ในการปกปิด อำพราง ธุรกรรมทางการเงินและทรัพย์สิน ซึ่งเมื่อได้ ตรวจสอบทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ยังพบว่ามีอยู่ในการครอบครองอีกหลายรายการ อันน่าเชื่อว่าเป็น "ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด" ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงฝากเตือนผู้หลงผิดเปิดบัญชีม้า จะมีความผิดโทษหนัก และฝากเตือนประชาชนให้ตั้งสติอย่าได้หลงเชื่อจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยเด็ดขาด เพราะตอนนี้ก็ยังระบาดอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี