เปิดคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ยืนสั่งเพิกใบอนุญาตโครงการก่อสร้างคอนโดหรู แอชตัน อโศก ชี้ ผู้ว่า กทม. และ ผอ.สำนักการโยธา กทม. ออกใบอนุญาตก่อสร้างโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้ง รฟม.ไม่มีสิทธิเอาที่ดินเวนคืนจากชาวบ้านเพื่อกิจการ รฟม.ให้ เอกชนใช้ประโยชน์เพื่อกิจการก่อสร้างคอนโดขนาดใหญ่
วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ศาลปกครองสูงสุด โดยมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด มีคำพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2564 สั่งเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร โดยไม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต ที่ออกให้แก่บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกหนังสือทุกฉบับในกรณีดังกล่าว ตามที่ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ถนนสุขุมวิท ซอย 19 แยก 2 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร (กทม.) รวม 16ราย ยื่นฟ้อง ผอ.สำนักงานเขตวัฒนา ผอ.สำนักการโยธา กทม. ผู้ว่าการ กทม. ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ คณะกรรมการผู้ชาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน ภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยมีบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด และบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด เป็นผู้ร้องสอด
ทั้งนี้ ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด เสียงข้างมากมาก ให้เหตุผลว่า ที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของอาคารโครงการแอชตัน อโศก ไม่มีเขตที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคารด้านหนึ่งด้านใดกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตรติดถนนสาธารณะที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตรยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตรและยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนถึงบริเวณที่ตั้งของอาคารเพื่อสามารถใช้เป็นทางเข้าออกของรถดับเพลิงได้โดยสะดวก ตามที่กฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ข้อ 2 วรรคสอง และวรรคสาม กำหนด
นอกจากนี้ ตามพ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รฟม.ไม่อาจกระทำการอนุญาตให้ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด นำที่ดินที่ได้มาจากการเวนคืน ไปในการใช้ที่ดินเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษในโครงการแอชตัน อโศกอันเป็นประโยชน์แก่กิจการของบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด และบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด ซึ่งขัดต่อวัตถุประสงค์แห่งการเวนคืนที่ดินได้ การที่ผู้ว่าการ กทม. โดย ผอ.สำนักการโยธา กทม. อนุญาตให้ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชียอโศก จำกัด ดำเนินการก่อสร้างโครงการอาคารชุดที่พักอาศัยแอชตัน อโศก ซึ่งเป็นอาคารสูงขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดความสูง 51ชั้น พื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นมากกว่า 30,000 ตารางเมตร
รวมชั้นใต้ดิน มีจำนวนห้องพัก 783 ห้อง ตั้งบนในพื้นที่ขนาด 2.3ไร่ ในซอยสุขุมวิท 19 แยก2 จึงเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการดังกล่าวทุกฉบับ ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในครั้งนี้มีทั้งสิ้น 176 หน้า โดยเป็นรายละเอียดคำพิพากษา134 หน้า และมีความเห็นแย้งของตุลาการเสียงข้างน้อยที่เห็นว่า ศาลปกครองสูงสุดควรสั่งให้มีการเพิกถอนใบอนุญาตต่างๆโดยให้มีผลเมื่อพ้นกำหนด 270 วันนับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาโดยให้ผู้ว่ารฟม.เสนอเรื่องการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในที่ดินของรฟม.เป็นทางผ่านฉบับลงวันที่ 5 ก.พ.57 ของบริษัทอนันดาฯต่อครม. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในกำหนดเวลา 270 วันนับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา หากไม่ดำเนินการภายในเวลาดังกล่าวหรือดำเนินการแล้วแต่ครม.ไม่พิจารณาให้แล้วเสร็จในระยะเวลาดังกล่าว หรือพิจารณาแล้วแต่ไม่ให้ความเห็นชอบแล้วแต่กรณีจึงให้เพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างดัดแปลงรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคารหรือเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารทั้ง4ฉบับ มีผลตามคำพิพากษา แต่ถ้าครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบให้รฟม.ดำเนินกิจการดังกล่าวภายในระยะเวลาที่กำหนดก็ให้การเพิกถอนคำพิพากษานี้เป็นอันสิ้นผลไป
ขณะที่อีก 1 ตุลาการเสียงข้างน้อยเห็นว่ารฟม.เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวซึ่งปัจจุบันใช้เป็นทางเข้าออกสถานีสุขุมวิทและลานจอดรถโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล รฟม.จึงเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาจัดการทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองตามความจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งรฟมดังนั้นรฟม.จึงมีอำนาจอนุญาตให้บริษัทอนันดาฯใช้ทางเข้าออกบริเวณลานจอดรถสถานีสุขุมวิทเป็นทางเข้าออกร่วมกันระหว่างประชาชนผู้มาใช้บริการลานจอดรถสถานีสุขุมวิท กับผู้พักอาศัยในอาคารชุดโครงการแอชตัน อโศก ประกอบกับรฟม. มีหนังสือแจ้งยืนยันต่อบริษัทอนันดาฯและเป็นข้อเท็จจริงที่เพียงพอยืนยันได้ว่าอาคารของบริษัทอนันดาฯ มีทางเข้าออกสู่ถนนสาธารณะที่มีสภาพใช้เป็นทางเข้าออกได้ตลอดตราบเท่าที่อาคารขนาดใหญ่พิเศษดำรงอยู่และรถดับเพลิงสามารถเข้าออกได้โดยสะดวกตามข้อ 2 วรรคสอง และวรรคสามของกฎกระทรวงฉบับที่ 33จึงเห็นว่าการออกใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลงรื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารทั้ง 4 ฉบับ ของผู้ว่ากทม.และผู้อำนวยการสำนักการโยธา ให้แก่บริษัทอนันดาเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายแล้วจึงเห็นควรที่ศาลปกครองสูงสุดจะพิพากษาเป็นยกฟ้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี