วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดสุพรรณบุรี ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า วัดป่า ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตปางป่าเลไลยก์ หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ระดับวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่หน้าบันวิหารวัดป่าเลไลยก์ มีเครื่องหมายพระมหามงกุฎอยู่ระหว่างฉัตรคู่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จธุดงค์มาพบสมัยยังผนวชอยู่ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วจึงทรงมาปฏิสังขรณ์ และกล่าวกันเสมอมาว่า ถ้ามาเมืองสุพรรณ แล้วไม่ได้แวะมากราบไหว้หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ ก็เหมือนมาไม่ถึงเมืองสุพรรณ ด้วยที่วัดป่าเลไลยก์เป็นวัดสำคัญ คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นสถานที่หนึ่งในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ในช่วงวันหยุดจะมีผู้คนมากมายมากราบไหว้ขอพร และยิ่งเป็นวันหยุดยาว นักท่องเที่ยวนิยมมากเป็นอันดับต้นๆของจังหวัดสุพรรณบุรี
พระครูโสภณวีรานุวัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร กล่าวว่า วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระอารามหลวง ที่สร้างมา 1,187 ปี ตามฉบับพระอารามหลวงฉบับกรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มีโบราณสถานซึ่งเป็นประธานของวัดคือพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ สูง 23.47 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 7 ชั้น ตามสัณนิฐานของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่าพระพุทธรูปป่าเลไลยก์เป็นของเก่าก่อนวัตถุอื่น ลักษณะทันสมัยอู่ทอง ตามประวัติการบูรณะวัดป่าเลไลยก์ มีการบูรณะครั้งสำคัญ 4 ครั้ง คือครั้งแรกในปีพุทธศักราช 1706 พระเจ้ากาแตเชื้อสายนเรศวรหงษาวดีพาไพร่พลมาครองราชย์ที่เมืองพันธุมบุรี ได้โปรดให้พระเจ้ามอญน้อย เป็นเชื้อพระวงศ์ของพระองค์ไปสร้างวัดสนามชัย แล้วมาบูรณะพระป่าเลไลยก์ในวัดลานมะขวิด เมื่อข้าราชบริพารบูรณะวัดแล้วพากันออกบวช 2,000 คน จึงขนานนามเมืองใหม่ว่า สองพันบุรี ครั้งที่ 2 ในสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา โปรดให้พระยาสีหราชเตโชไชย ไปสร้างวิหารวัดป่าเลไลยก์ ครั้งที่ 3 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 4 โปรดให้พระยานิการบดินทร์มาบูรณะปฎิสังขรณ์ และครั้งที่ 4 ในปีรัชมังคลาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติ มากกว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ กรมศิลปากรได้ทำการบูรณะพระอารามหลวงสำคัญ รวมทั้งวิหารหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ ซึ่งในขณะนั้น ฯพณฯบรรหาร ศิลปอาชา ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 เมื่อบูรณะพระวิหารแล้วนายบรรหาร ได้ร่วมกับประชาชนชาวสุพรรณบุรี และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปิดทองหลวงพ่อโตใหม่และสร้างวิหารคต ซึ่งแล้วเสร็จในปีพุทธศักราช 2542
ระยะเวลาล่วงผ่านไปจวบจนถึงปัจจุบัน ได้มีบางส่วนเริ่มชำรุด พระเดชพระคุณพระเทพสุวรรรณโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ และเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ได้บูรณะปฎิสังขรณ์และพัฒนาพระอาราม ซื้อที่ดินขยายเขตพระอาราม สร้างพระอุโบสถ์ ส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม แผนกบาลีและการศึกษาในระดับชั้นอุดมศึกษาของพระสังฆาธิการและพระสงฆ์ภายใน เขตปกครองทั้งจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาใช้เงินในการดำเนินการดังกล่าวเป็นเงิน 74 ล้านบาท เพื่อให้กิจกรรมดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทางวัดป่าเลไลยก์จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคล หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ รุ่น 1187 ปี ขนาด 9 นิ้ว 5 นิ้ว พระกริ่งชัยวัฒน์ เพื่อให้พุทธศสาสนิกชนได้สักการะบูชา ซึ่งหลวงพ่อโตรุ่นนี้ได้มงคลนามว่า รุ่น 1187 ร่วมกันรวย ช่วยกันดี ร่วมกันรวย คือยกเอาเลข 1187 ซึ่งคนจีนถือว่าเป็นเลขเด็ดคือรวยด้วยกัน และช่วยกันดีคือทั้งหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ เป็นพระปางเลไลยก์ ถือได้ว่าเป็นพระปางปรองดอง ซึ่งได้ประกอบพิธีเททองปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 โดยมีพระเทพสุวรรณโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ ฯพณฯสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยได้ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิต โดยพระเกจิชื่อดังจารแผ่นทอง เงิน นาค มาหล่อหลอม พร้อมกันในพิธีนี้ และถือว่าเป็นครั้งแรกที่ปลุกเสกภายในวิหารหลวงพ่อโตครบ 3 เดือน
ใครก็ตามที่มีเคราะห์มีภัย เมื่อไหว้องค์หลวงพ่อโตพระปางป่าเลไลยก์ ที่อยู่ในวิหารศักดิ์สิทธิ์นี้ ถือว่าเป็นปางดับทุกข์ดับภัยมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ซึ่งบูรณะปฎิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 4 ที่หน้าพระวิหารมีตราประจำรัชกาลขององค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และองค์หลวงพ่อโตปางป่าเลไลยก์ที่อยู่ในวิหารศักดิ์สิทธิ์นี้ เป็นปางที่พระพุทธเจ้าหนีออกจากความวุ่นวายในเมืองไปอยู่ในป่า ไม่ให้ทุกข์และภัยอันเกิดจากสงฆ์เพศคือการแตกกันของสงฆ์กลับมามีสามัคคีธรรมเหมือนเดิม ดังนั้นใครที่ครอบครัวมีปัญหา มีทุกข์มีภัย เดือดร้อนวุ่นวายในชีวิตเมื่อมาไหว้หลวงพ่อโต ก็จะเป็นมหามงคลแก่ชีวิต จะทำให้เจริญรุ่งเรืองทั้งหน้าที่การงาน และครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
และในระหว่างวันที่ 1-11 พ.ย. 56 จะมีงานประเพณี แห่ผ้าห่มหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ที่ได้ถูกลืมเลือนไปกับกาลเวลาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี ตั้งแต่มีถนนหนทางดีขึ้นมา ด้วยสมัยก่อนชาวบ้านเดินทางทางเรือมากกว่าถนนซึ่งมีชาวบ้านร่วมขบวนแห่จำนวนมากสมัยนั้น สำหรับประเพณีแห่ผ้าห่มหลวงพ่อโต จะมีขึ้นใน งานปิดทองไหว้พระหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง ในเดือนมีนาคมและเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังบริเวณวิหารคตบอกเรื่องราววรรณคดีขุนช้างขุนแผนตั้งแต่ต้นจนจบ พิพิธภัณฑ์พระขุนแผนที่เก็บรวบรวมพระเครื่องพระกรุขุนแผนบ้านกร่างและพระขุนแผนจากทุกวัดมากที่สุดในประเทศ ชมความงามเรือนขุนช้างของเก่าของโบราณ พระเสี่ยงทายวิหารหลวงดำศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังวิหารหลวงพ่อโต ร้านค้าของฝากปลาสลิดปลาช่อนแดดเดียว ปลาร้า น้ำพริกของดีประจำจังหวัดและขอพรหลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์พระคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรีมาแต่โบราณ
มัจฉา ท่าจีน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี