บช.ก.บุกค้น30จุด
จับแก๊งจีนเทา9คน
นางแบบดังมีเอี่ยว
ยึดทรัพย์พันล้านบ.
ตำรวจ บช.ก.จับมือปปง.-อัยการ ระดมกำลังกว่า 200 นายบุกค้นเป้าหมาย 30 จุด ในกทม.สมุทรปราการ-อุดรฯ ขยายผลจับเครือข่ายแก๊งทุนจีนสีเทา 9 ราย หลอกเหยื่อลงทุนสกุลเงินดิจิทัล-แก๊งโรแมนสแกม พบนางแบบดังมีเอี่ยว ยึดทรัพย์สินทั้งบ้านพัก-รถหรู เฉียดพันล้านบาท พร้อมเอาผิดข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.สั่งการให้ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ ผกก.1 บก.ปอท.นำกำลัง ร่วมกับตำรวจ บก.ป. บก.ปอศ.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.และอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด กว่า 200 นาย นำหมายศาลอาญา เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 30 จุด ในพื้นที่ กทม. จ.สมุทรปราการ และ จ.อุดรธานี เพื่อติดตามจับกุมและยึดทรัพย์แก๊งคนร้ายชาวจีน ที่ร่วมกับคนไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแก๊งหลอกลงทุนเงินดิจิทัล มีพฤติการณ์เป็นแก๊งโรแมนสแกม และฟอกเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญเป็นหมู่บ้านหรู ย่านถนนกรุงเทพกรีฑา กทม.โดยเจ้าหน้าที่ได้อายัดบ้านพักหรู รวม 12 หลัง ซึ่งมีมูลค่าต่อหลังประมาณ 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเข้าตรวจค้นหมู่บ้านหรูอีก 4 แห่ง ในย่านเดียวกัน โดยเชื่อว่าทั้งหมดถูกซื้อด้วยเงินที่ได้จากการกระทำความผิดผ่านบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่ง ที่คนจีนเป็นเจ้าของ แต่มีนอมินีเป็นคนไทย ที่เปิดบริษัทให้ ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบริษัทกฎหมายดังกล่าว เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าเป็นบริษัทที่รับฟอกเงินให้กับชาวจีนแก๊งนี้ โดยมีคนไทยเป็นตัวเชื่อมและให้ความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ สำหรับการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่มีเป้าหมายในการติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งหมด 14 หมายจับ แต่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ 9 ราย มีทั้งชาวจีน ชาวเมียนมา และคนไทย หนึ่งในนั้นคือ น.ส.จักรีณา ชูขาวศรี หรือกีกี้ แม็กซิม นางแบบชื่อดัง พร้อมกับยึดทรัพย์สินเป็นบ้านและรถหรูจำนวนมาก รวมมูลค่าเกือบหนึ่งพันล้านบาท โดยดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ข้อหาฟอกเงิน และข้อหาเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
อย่างไรก็ดี การตรวจค้นเป้าหมายดังกล่าวนั้น เนื่องจากชุดสืบสวน บก.ปอท.ได้ติดตามแกะรอยคนร้ายที่มีพฤติกรรมเป็นแก๊งโรแมสแกม หลอกลวงเหยื่อที่เป็นผู้หญิงไทย แล้วให้ร่วมลงทุนสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโทเคอร์เรนซี่ ภายหลังผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ต่อมาเมื่อได้มีการติดตามแกะรอยบัญชีคริปโทฯ พบว่ากลุ่มคนร้ายได้ยักย้ายถ่ายเทเงินไปในหลายขั้นตอน ก่อนจะเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินบาท จากนั้นได้นำไปซื้อทรัพย์สินหลายรายการทั้งบ้านพัก คอนโดมิเนียมหรูใน กทม.และปริมณฑล โดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนอยู่นับพันล้านบาท
พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า แก๊งนี้มีพฤติการณ์ในการหลอกลวงแบบที่เรียกกันว่า ไฮบริดสแกม นำเงินที่หลอกลวงคนไทยมาฟอกในระบบบริษัทที่มีคนไทยเป็นนอมินี นำไปซื้อบ้านและครอบครองที่ดิน ซึ่งแก๊งนี้จะไม่สามารถเติบโตในประเทศไทยได้ หากไม่มีคนไทยเข้าไปร่วมในการกระทำผิด รวมทั้งการเปิดบัญชีธนาคาร ใช้เป็นบัญชีม้า นอกจากนี้ยังพบข้อมูลความเชื่อมโยงไปถึงผู้กระทำผิดที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ดี อยากจะขอฝากเตือนคนไทยที่ไปร่วมกระทำผิด อย่าเห็นแก่เงินเพียงเล็กน้อย เพราะไม่คุ้มเมื่อต้องถูกจับกุมดำเนินคดีเนื่องจากมีความผิดเทียบเท่ากับตัวการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี