ต้อนรับอย่างอบอุ่น สมกับชื่อโครงการ “โรงเรียนพี่น้อง” ที่แลกเปลี่ยนกันด้วยมิตรภาพอันเหนียวแน่น ระหว่างฝั่ง “โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม” กับฝั่ง“เทศกาลเมืองโคเงะ ประเทศญี่ปุ่น”กับการสานสัมพันธ์ประวัติการณ์ ด้วยจำนวน “นักเรียนแลกเปลี่ยน” ที่มากที่สุดในรอบ 9 ปี “หากมองย้อนกลับไปในเส้นทางการแลกเปลี่ยนตลอดช่วง 9 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าเกิดบททดสอบขึ้นหลายครา หนึ่งในนั้นคือสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 อันเป็นบททดสอบซึ่งไม่มีใครพานพบมาก่อน และราวกับว่าจะเป็นศัตรูที่มองไม่เห็นได้ด้วยตา
ท่ามกลางการต่อสู้อันยากลําบากเหล่านั้น กําลังใจตลอดจนสายสัมพันธ์ข้ามพรมแดนระหว่างเรายังคงดําเนินอย่างต่อเนื่องไม่มีขาดสาย คงเป็นเพราะด้วยสายใยมิตรภาพจากทุกท่าน ในวันนี้ กระผมรู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่งที่เราทั้งสองเอาชนะบททดสอบ และได้กลับมาพบปะแลกเปลี่ยนโดยพร้อมหน้ากันอีกวาระ” ชูสุเกะ สึโบเนะ (Shusuke Tsubone) นายกเทศมนตรีเมืองโคเงะ(Koge) จ.ฟุกุโอกะ (Fukuoka)ประเทศญี่ปุ่น แบ่งปันความในใจฝากเอาไว้ ผ่านพิธีเปิดโครงการ “โรงเรียนพี่น้อง (Sister Schools)”โครงการความร่วมมือระหว่าง สาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม กับเมืองโคเงะ (Koge Town) ที่ดำเนินมาถึงรุ่นที่ 6 (ระยะที่ 2) แล้ว โดยครั้งนี้นักเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม รับบทบาทเป็น “เจ้าบ้าน” ต้อนรับพี่น้องนักเรียนจากเมืองโคเงะ ใช้เวลาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ตั้งแต่พักในโฮมสเตย์ร่วมกัน มาจนถึงร่วมสนุกผ่านชีวิตทั้งในรั้วโรงเรียน และนอกรั้วเพื่อทัศนศึกษา ตั้งแต่วันที่ 19-22 ส.ค.2566
“ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ และสิ่งที่จะลืมไม่ได้เป็นอันขาด คือทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการผลักดันโครงการแลกเปลี่ยนนี้ให้ประสบผลสําเร็จ อาทิ ท่านอาจารย์สุรินทร์ (ศ.กิตติคุณ ดร.สุรินทร์ พงศ์ศุภสมิทธิ์ ประธานชมรม ไทย-ฟุกุโอกะ อดีตนักเรียนทุนจากมหาวิทยาลัยคีวชู จ.ฟุกุโอกะ และอดีตอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ)
อาจารย์ศรียา เนตรน้อย (ผู้อํานวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม), อาจารย์พรพรหม ชัยฉัตรพรสุข(ผู้อํานวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม) ตลอดจนคณาจารย์ผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอกราบขอบพระคุณทุกท่าน สําหรับความเข้าใจและความร่วมมือด้วยดีเสมอมา
ปีนี้นับเป็นปีที่ 9 แล้วที่เราทั้งสองได้ดําเนินโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน บัดนี้นักเรียนรุ่นที่ 1 ของโครงการเติบโตและกําลังเข้าเรียนในระดับชั้นอุดมศึกษา หากการศึกษา คือช่วงเวลาตั้งแต่วัยเด็กจนถึง วัยที่จะเข้าสู่การทํางานแล้ว กระผมอยากจะเฝ้ามองดูว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ นักเรียนรุ่นที่ 1 ของพวกเราจะเติบโตเป็นสมาชิกที่สง่างามของสังคมมากเพียงใด”
จุดที่น่าสนใจคือ ปีนี้เป็นปีที่มีนักเรียนจากประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาแลกเปลี่ยนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 44 คน เพราะรวมเอาเหล่านักเรียนรุ่นที่ต้องอดเดินทางมาเยือนเมืองไทย ในปีที่มีปัญหาโควิด-19 ระบาดรุนแรงด้วย การต้อนรับครั้งใหญ่ในครั้งนี้จากฝั่งไทย จึงทำให้นายกเทศมนตรีโคเงะถึงกับต้องใช้คำว่า “หัวใจพองโตกว่าทุกครั้ง”
“จังหวัดฟุกุโอกะอันเป็นที่ตั้งของเมืองโคเงะนั้น นับเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์การแลกเปลี่ยนกับกรุงเทพมหานครมาอย่างยาวนาน และยังเป็นจังหวัดที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับกรุงเทพมหานครมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแลกเปลี่ยน ณ ต่างประเทศของโรงเรียนประถมนั้น แทบไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน การแลกเปลี่ยนในครั้งนี้จึงเป็นที่จับตามอง และเป็นการแลกเปลี่ยนที่หลายโรงเรียนทั่วประเทศญี่ปุ่นใฝ่ฝัน ดังนั้น นอกจากการแลกเปลี่ยนระหว่างเด็กเพียงประการเดียว กระผมเองก็ตั้งใจที่จะแลกเปลี่ยนและมีมิตรสัมพันธ์อันดีกับผู้ใหญ่ทุกท่าน ไม่แพ้เด็กๆ เช่นกัน เฉกเช่นสมาชิกของครอบครัว และขอให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี