"ผู้กองธรรมนัส"บินด่วนลงพื้นที่เมืองคอน แก้ราคามังคุดตกต่ำ หลังชาวสวนเททิ้งกลางถนนประชด เผยมีข้อมูลเบื้องลึกโยงทุบราคา เตรียมตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ขณะที่ส.ส.ภูมิใจไทย เตรียมเสนอญัตติด่วนเข้าสภาฯ
จากกรณีเกษตรกรชาวสวนมังคุด อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราชสุดทนที่ราคามังคุดตกต่ำเหลือเพียงกก.ละ 5 บาท สร้างความเดือดร้อนไปทั่วจนต้องนำผลไม้มังคุดจำนวนกว่า2ตันไปเททิ้งบนถนนเพื่อประชดราคาตกต่ำสุดขีด บนถนนสายนครศรีธรรมราช-นบพิตำ หน้าที่ว่าการอำเภอพรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราชเมื่อเร็วๆนี้นั้น จนหลายฝ่ายตื่นตัวเข้ามาแก้ไขแต่สถานการณ์ราคามังคุดยังไม่ดีขึ้นนั้น
ล่าสุดเย็นวันนี้ ( 4 ก.ย.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช พบปะเยี่ยมเยียนรับทราบปัญหาราคามังคุดตกต่ำกับเกษตรกรชาวสวนมังคุด จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายอภินันท์ เผือกผ่อง ผวจ.นครศรีธรรมราช และรองอธิบดีกรมการค้าภายในและนายอำเภอพรหมคีรี,จนท.พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมพี่น้องเกษตรกรชาวสวนมังคุดในพื้นที่ อ.พรหมคีรี ให้การต้อนรับ โดยจุดแรกพบพี่น้องเกษตรกรชาวสวนมังคุดที่อาคารเอนกประสงค์เทศบาลตำบลพรหมโลก อ.พรหมคีรี ทั้งนี้เพื่อรับทราบปัญหาที่แท้จริงและเพื่อประเมินสถานการณ์ด้านปริมาณ ราคา และวางแผนหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมังคุดอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสวนมังคุดต่อไป
โดยพื้นที่ประสบปัญหาราคามังคุดตกต่ำ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพรหมคีรี อำเภอชะอวด อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอพระพรหม อำเภอลานสกา ซี่งมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหามังคุดราคาตกต่ำ สรุปความได้ 1.ส่งเสริมการขายตรงและขายผ่านระบบออนไลน์ช่วยชาวสวนรายย่อย 2.เร่งเปิดจุดปลายทางเพิ่มขึ้น ทั้งห้างท้องถิ่น และโมบายพาณิชย์ เพื่อช่วยระบายผลผลิต 3.ให้มีการจัดการผลผลิตต่อเนื่อง มีการแปรรูปมังคุดเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น มังคุดกวน น้ำมังคุด ทำเครื่องสำอาง เป็นต้น 4.ส่งเสริมให้ชาวสวนทำมังคุดคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของตลาด5.ส่งเสริมการรวมกลุ่มแปลงใหญ่มังคุด ให้มีการประมูลผลผลิตของสมาชิก เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองทางการตลาด
ขณะที่นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล สส.พรรคภูมิใจไทย เขต 8 นครศรีธรรมราช เผยว่า อยากให้มีตลาดกลางมังคุด ต่อไปมังคุดของเราจะต้องมารอให้ผู้ประกอบการ หรือ ผู้มาซื้อให้มาถามเราว่าจะขายราคาเท่าไหร่ ไม่ใช่ให้เรามาถามว่าคุณจะซื้อราคาเท่าไหร่ เราจะแก้ปัญหาจุดนี้ให้ได้ ภายในฤดูกาลหน้าเราจะเริ่มกันเลย แลตนได้ติดต่อกับเจ้าของสวนมังคุดมาตลอด จะให้การอุแลในเรื่องนี้ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการนำปัญหาเข้าสู่รัฐสภาเพื่อเสนอญัตติการแก้ปัญหาด้านผลผลิตของเกษตรกร พืชเกษตร ตกต่ำ เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบโดยการจัดตั้งกรรมาธิการวิสามัญในเรื่องนี้ขึ้น
ด้านร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ก่อนที่จะเดินทางมาที่นี้ ตนมีข้อมูลเชิงลึกอยู่แล้วในเรื่องของปัญหาของพี่น้องเกษตรกรซึ่งไม่ใช่เฉพาะมังคุด แต่พี่น้องเกษตรกรชาวสวน อ.พรหมคีรี เรื่องมังคุดเรื่องล้งเป็นเรื่องใหญ่ ถามว่าจะต้องแก้ยังไงผมขอเอาข้อมูลทั้งหมดไปปรึกษากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในวันศุกร์นี้ว่าเราจะมีมาตรการควบคุมและแก้ปัญหาอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีขบวนการทุบราคามังคุดให้ต่ำลงทางรัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า อันนี้เป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งถามว่าผมมีข้อมูลมั๊ย ผมขอตอบว่ามีข้อมูลครับ แต่การพูดในที่สาธารณะผมไม่ได้พูด แต่ว่าเรื่องก็จะมีการหารือกันและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เราจะมีการปรามเจ้าหน้ารัฐบางคนที่มีส่วนทำให้ราคาตกหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า เราขอตั้งกรรมการในการไต่สวนเรื่องนี้ก่อน และหาข้อเท็จจริงว่ามันเกี่ยวข้องอะไรยังไงต่อไป เราจะไปตัดสินใจโดยไม่มีการสืบสวนสอบสวนก่อนไม่ได้ ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นมีมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้แค่ไหน ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ตนฟังข่าวมาหลายๆทางแล้วแต่ขอเอาข้อมูลเหล่านี้ไปหาข้อเท็จจริงก่อนว่ามันเป็นยังไง
"เท่าที่ฟังปัญหาจากพี่น้องเกษตรกรหลายกลุ่ม พบว่าปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากพี่น้องเกษตรกรรายย่อยที่ไม่ได้เข้าอยู่ในกลุ่ม แต่อันนั้นก็ถือว่าเป็นปัญหาหลักเพราะรายย่อยนั้นเยอะมาก ฉะนั้นเมื่อมีการประมูลต่างๆพี่น้องเกษตรกรรายย่อยเหล่านี้ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมได้ประโยชน์จากตรงนี้ ถามว่าจะแก้ปัญหาให้เขายังไง ก็คงต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วนก่อนเราต้องช่วยระบายออกก่อนในตอนนี้ โดยบูรณาการโดยกระทรวงเกษตรฯ และกรมการค้าภายในช่วยระบายออกก่อน ส่วนในเรื่องพี่น้องกลุ่มเกษตรกรรายที่รวมกลุ่มกันไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนในเรื่องของราคาเราจะได้ไปหารือกับ รมว.พาณิชย์ก่อนว่าเราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ไม่ใช่ให้ราคามันตกฮวบฮาบ ทั้งๆที่ปลายทางราคาผู้บริโภคยังสูงอยู่ อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องช่วยกันแก้ปัญหากันอย่างเร่งด่วนต่อไป"ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับข้อมูลของเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราชพบว่า ฤดูกาลนี้ มีผลผลิตมังคุด จำนวน 40,561 ตัน ออกสู่ตลาดแล้วจำนวน 28,110 ตัน (ร้อยละ 70) ที่เหลือ 12,451 ตัน ยังคงทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณผลผลิตมากที่สุดอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 21-31 สิงหาคม 2566 มีปริมาณ 6,500 กว่าตัน ซึ่งกรมการค้าภายในร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รวบรวมมังคุดจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปเปิดจุดจำหน่ายในกรุงเทพมหานคร ผ่านรถโมบายพาณิชย์ จำนวนทั้งหมด 100 จุด และต่างจังหวัดอีก 120 จุด รวม 220 จุด ปริมาณ 1,100 ตัน เพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรในการจำหน่ายมังคุดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยได้มอบกล่องใส่ผลไม้ให้กับเกษตรกร จำนวน 35,000 กล่อง โดยสำนักงานฯ ได้จัดสรรให้กลุ่มเกษตรกรและเกษตรกรขายออนไลน์แล้ว โดยมังคุดรุ่นที่ 1 ออกหมดไปแล้ว
ตอนนี้เหลือรุ่นที่ 2 อีกประมาณ 20,000 ตันเศษ ซึ่งจากมาตรการที่กรมการค้าภายในเข้าไปดูดซับผลผลิต 12,950 ตัน จะช่วยเร่งระบายผลผลิตให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่องต่อไป ณ วันที่ 1 กันยายน 2566 ราคามังคุดคัดเกรดต่าง ๆ - เกรดมันใหญ่ ราคา 33 - 37 บาท/กิโลกรัม - เกรดมันเล็ก ราคา 23 - 27 บาท/กก. - เกรดผิวกาก/ผิวลาย ราคา 20 บาท/กก. - และเกรดตกไซต์/ผิวดำ ราคา 15 - 17 บาท/กก. และราคาซื้อขาย ณ จุดรับซื้อทั่วไป
ส่วนเกรดมันรวม ราคา 25-30 บาท เกรดคละ 13-20 บาท ส่วนเกรดดำ/ดอก 7-10 บาท ทั้งนี้ ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพผลผลิต ซึ่งการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันให้เข้มแข็งเพื่อทำมังคุดคุณภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และนำผลผลิตมารวมเพื่อใช้ระบบประมูลจะทำให้มีการแข่งขันด้านราคาและเพิ่มอำนาจการต่อรองทำให้สามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น ประกอบกับผลผลิตมังคุดจังหวัดนครศรีธรรมราชอยู่ในช่วงปลายฤดู ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กและมีผลกระทบจากฝนตกในพื้นที่จึงมีเนื้อแก้วและยางไหลร่วมด้วย ส่งผลให้คุณภาพและราคาลดลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี