วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ทุเรียน'บาตามัส'ทองคำแห่งชายแดนใต้ จาก'ศาสตร์พระราชา' สู่คุณค่าแห่งเกษตรกรรมยั่งยืน

ทุเรียน'บาตามัส'ทองคำแห่งชายแดนใต้ จาก'ศาสตร์พระราชา' สู่คุณค่าแห่งเกษตรกรรมยั่งยืน

วันเสาร์ ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2566, 09.35 น.
Tag : ทุเรียนบาตามัส ทุเรียน ทองคำแห่งชายแดนใต้ ศาสตร์พระราชา
  •  

"บาตามัส"คือภาษามาลายู ที่ชาวเกษตรกรในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ใช้เรียกทุเรียนพันธุ์"หมอนทอง"หนึ่งในสายพันธุ์ยอดนิยมแห่งราชาผลไม้ ด้วยรสชาติ และราคาที่จับต้องได้หากซื้อกันตามฤดูกาล เป็นที่ทราบกันดีว่าในประเทศไทยมีหลายพื้น หลายจังหวัดที่เพาะปลูกทุเรียน ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดจันทรบุรี ระยอง และนนทบุรี ซึ่งเป็นตลาดหลักที่สร้างผลผลิตจากสวนท้องถิ่นกระจายไปสู่ปลายทางทั่วประเทศ และต่างแดน ซึ่งรสชาติ และเนื้อสัมผัสจากแต่ละแหล่ง ก็ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะส่วนตัว ตามลักษณะภูมิประเทศ ที่แตกต่าง

ขณะที่จังหวัดชายแดนใต้ ด้ามขวานอันอุดมสมบูรณ์ แหล่งเกษตรกรรมในวิถีชีวิตพหุวัฒนธรรม ภาพจำอาจมองเข้ามาว่ายางพาราคือพืชเศรษฐกิจหลักในพื้นที่ แต่โดยข้อเท็จจริง เกษตรกรชาวจังหวัดชายแดนใต้ ก็ปลูกทุเรียนกันมาหลายปีแล้วเช่นกัน 


ด้วยลักษณะภูมิประเทศภูเขา เกษตรกรจึงเลือกที่จะปลูกทุเรียนตามเชิงเขา ด้วยแร่ธาตุในดิน และภูมิอากาศแบบฝนสลับแดด ผลผลิตของทุเรียนในพื้นที่ รสชาด และเนื้อสัมผัส จึงมีความเฉพาะตัว นุ่มละมุน และกลิ่นไม่แรงนัก

แม้ผลผลิตที่ได้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกับทุเรียนในพื้นที่อื่น หากแต่หลายปีก่อนการปลูกทุเรียนในสามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นไปแบบปล่อยตามธรรมชาติ ไร้ทิศทาง และเป้าหมาย จึงทำให้"เกรด"และ"คุณภาพ" ของทุเรียน ไม่อยู่ในระดับที่ควรจะเป็น  ซึ่งส่งผลต่อราคาที่ถูกกดต่ำ "โอกาส"ที่มีกลับกลายเป็น"ปัญหา"ด้วยเหตุผลสำคัญคือการจัดการที่ขาด"องค์ความรู้"

จนเมื่อปี พ.ศ.2561 สถาบันปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ตามที่ได้รับคำร้องขอจากเกษตรกรชาวสวนทุเรียน ว่ามีผลผลิตทุเรียนจำนวนมาก แต่จำหน่ายได้ราคาต่ำเพราะถูกกดราคา เนื่องจากทุเรียนไม่มีคุณภาพ ผลทุเรียนออกมาแล้วมีหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน มีหนามแดงราคาต่ำ มีการขายแบบเหมาสวนโดยไม่ได้คัดเกรด เป็นต้น
เมื่อรับทราบปัญหาแล้วในปีถัดมา พ.ศ. 2562 สถาบันปิดทองหลังพระฯ จึงได้ทำหน้าที่ประสานงานเพื่อให้เกิดการบูรณาการทำงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่าง "รู้ รัก สามัคคี" เข้าไปเสริมงานราชการให้สามารถบริการประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด 

พร้อมทั้งน้อมนำแนวทางพระราชดำริ "สืบสาน รักษา ต่อยอด" ก่อเกิด"ทฤษฎีใหม่"แก้ไขปัญหาเกษตรกรแบบ "องค์รวม"อย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายคือเกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน 

"สถาบันปิดทองหลังพระฯ" ดำเนินงาน แบบ"ครบวงจร"ตั้งแต่ ต้นทาง กลางทาง และ ปลายทาง โดยยึดแนวทาง "ศาสตร์พระราชา"ที่มีแก่นแกนหลักคือ"เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" เป็นหัวใจสำคัญ

ต้นทาง - ส่งเสริมองค์ความรู้การปลูกทุเรียน ตั้งแต่การจัดการดิน น้ำในแปลง การดูแลตามระยะเจริญเติบโตตามมาตราฐาน  GAP

กลางทาง-การพัฒนารูปแบบการเก็บเกี่ยวผลผลิต "ไม่ตัดทุเรียนอ่อน" และตรวจสอบแป้งไม่ต่ำว่า 32 % ตามมาตราฐานที่ตลาดต้องการ

ปลายทาง - เชื่อมโยงล้งพันธมิตรสนับสนุนเกษตรกร ตลอดจนพัฒนารูปแบบที่ให้เกษตกรเป็นผู้กำหนดราคาเอง
ขณะเดียวกันเมื่อลงรายละเอียดคู่ขนาน ในหลัก"เข้าใจ"

- มีการพัฒนาความรู้เยาวชนและเกษตรกรให้เป็นอาสาสมัครในพื้นที่ 90 ราย โดยนำไปเรียนรู้วิธีใส่ปุ๋ย การฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช การผสมเกษรดอกทุเรียนเพื่อให้ลูกมีรูปทรงสวย การตัดทุเรียนไม่ให้อ่อน ที่จังหวัดระยองและเมื่ออาสาสมัครมีความรู้แล้วก็เป็นครูถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรต่อ ในลักษณะลงพื้นที่ติดตามการปฏิบัติของเกษตรกรในสวนทุเรียน แนะนำการแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดอย่างทันท่วงที มีการจัดทำคู่มือการผลิตทุเรียนคุณภาพผสมผสานความรู้ของส่วนราชการ ภาคเอกชน และภูมิปัญญาชาวบ้านเข้าด้วยกันอย่างเข้าใจง่ายทำเป็น 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและมาลายู
"เข้าถึง" 

- มีการใช้แอพพลิเคชั่นติดตามการผลิตทุเรียนของเกษตรกร 4 ระยะ ตั้งแต่ 1. การเตรียมต้นสะสมอาหาร 2.การดูแลดอกทุเรียน 3.การฉีดพ่นสารป้องกันและกำจัดหนอนเจาะทุเรียน และ 4. การเก็บเกี่ยวที่ไม่ให้มีผลผลิตอ่อน ซึ่งผลผลิตต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 120 วัน ขึ้นไป หลังดอกบาน พร้อมทั้งตรวจวัดเปอร์เซ็นต์แป้งที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 32 โดยทุเรียนรุ่นแรกจะออกตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน และมีผลผลิตมากในช่วงกรกฎาคม – กันยายน

นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งกองทุนปุ๋ย สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ให้เกษตรในโครงการยืมสำหรับเกษตรกรไม่มีเงินลงทุน และจะใช้คืนเป็นเงินหลังจากขายผลผลิตได้เพื่อหมุนเวียนไว้ซื้อปัจจัยการผลิตปีต่อๆ ไป
"พัฒนา"

-สถาบันปิดทองหลังพระฯ ได้เข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน แนะนำวิธีการเจรจาต่อรองราคาที่ให้เกิดประโยชน์ทั้งเกษตรกร และ ผู้รับซื้อแบบไม่มีการเอาเปรียบกัน มีรูปขายผลผลิตในปีนี้ 3 รูปแบบ ผู้ซื้อจะยินยอมพร้อมใจสนับสนุนเงินสมทบ "กองทุนพัฒนาเกษตรกร" เพื่อไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาทุเรียนให้มีคุณภาพปีต่อไป เป็นจำนวนเงินกิโลกรัม 2 บาท 
ดังนี้

(1) เจรจาล้งที่รับซื้อเดิมในพื้นที่และมั่นใจในคุณภาพทุเรียนของเกษตรกรในโครงการฯ (ล้งพันธมิตร) พร้อมทั้งเสนอราคารับซื้อสูงกว่าท้องตลาด โดยเกษตรกรจะเป็นผู้เลือกเองว่าจะไปขายให้กับล้งที่พอใจมากที่สุด

(2) การขายออนไลน์ : มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างชื่อแบรนด์ "ทุเรียนบาตามัส"ให้เป็นที่รู้จักภายในประเทศ เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง โดยปีนี้ เริ่มนำร่อง 320 กล่อง จากเกษตรกร 5 ราย เพื่อทดลองตลาด

(3) การขายประมูลสวน : โดยได้เชิญล้งที่สนใจจำนวน 6 ล้ง ดูผลผลิตในสวนเกษตรกร 3 ราย ว่าทุเรียนมีรูปทรงสวยเกรดส่งออกเป็นส่วนมาก มีหนามสีเขียว และให้ล้งยื่นซองเสนอราคาเพื่อเข้าตัดผลผลิตเกษตรกรทุกเกรดในราคาเดียวกันยกเว้นของเสีย ซึ่งปีนี้ล้งที่ชนะการประมูลให้ราคาสูงถึง 146 บาทต่อกิโลกรัม

"ความสำเร็จ"จากการดำเนินงานของโครงการฯ นี้ คือ การให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ ต่อยอดยกระดับเกษตรกรชาวสวนทุเรียนแบบดั้งเดิมกลายเป็นเกษตรกรสมัยใหม่ รู้จักการดูแลสวนทุเรียนอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอน ตามหลักทฤษฎีใหม่ และปัจจุบันเริ่มต้นเข้าไปสู่เกษตรผู้ประกอบการ คือ รู้วิธีการพัฒนาแบบตลาดนำการผลิตทำทุเรียนให้เป็นที่ต้องการของผู้รับซื้อ รู้จักรวมกันซื้อปัจจัยการผลิต รวมกลุ่มกันขายผลผลิต เพื่อสร้างอำนาจในการต่อรองราคาและที่สำคัญได้รู้จักในการบริหารงานกลุ่มที่สามารถเชื่อมโยงกับแหล่งตลาดและเงินลงทุนได้ด้วยตนเอง ถือได้ว่าเป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอด แนวพระราชดำริ ที่ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีภูมิคุ้มกัน เป็นการสอนให้ชาวบ้าน"รู้วิธีตกปลา มากกว่าเอาปลาไปให้" เป็นการพัฒนาที่มุ่งสู่ความยั่งยืนของประชาชนอย่างแท้จริง



ทั้งหมดทั้งมวลคือการขับเคลื่อนดำเนินการเป็นขั้นตอน โดย"ตั้งมั่น ยึดมั่น"ในแนวทางพระราชดำริ "รู้ รัก สามัคคี" และนำไปสู่การปฏิบัติอย่าง"เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา"สถาบันปิดทองหลังพระฯ ใช้เวลาขับเคลื่อนร่วมกับเกษตกร เพียงระยะเวลา 1 ปี "ความสำเร็จ"ที่เป็นรูปธรรม คือผลผลิตทุเรียนคุณภาพจาก 800 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 1,571 กิโลกรัมต่อไร่ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รวม 402.02ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยจากรายละ 60,000 บาทต่อปี เป็น 262,731 บาทต่อปี 

ปัจจุบันสามจังหวัดชายแดนใตัมีพื้นที่ปลูกทุเรียนกว่า 1.35 แสนไร่ แบ่งเป็น จังหวัดยะลา ประมาณ 9.6 หมื่น ไร่  นราธิวาส 3 หมื่นไร่ และปัตตานี 8,000 ไร่  และมีการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน 20 แห่ง  เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างวิสาหกิจในการผลิตทุเรียน และรวมปริมาณผลผลิตที่มีปริมาณมากพอสำหรับการเจรจากับผู้รับซื้อ

ทุเรียนหมอนทองบาตามัส จึงเป็นดั่ง"ทองคำแห่งชายแดนใต้" ด้วยผลผลิตที่สร้างทั้งรายได้ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิต และพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน แต่"คุณค่า"ที่มหาศาลยิ่งกว่า คือ"วิถีพหุวัฒนธรรม"ของเกษตรกรไทย-พุทธ และไทย-มุสลิม ที่หล่อหลอมแน่นแฟ้นกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวในเป้าหมายเพื่อร่วมพัฒนา"ทุเรียนท้องถิ่น"ให้เป็นสินค้าคุณภาพสูง เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทัดเทียมเช่นเดียวกันกับทุเรียนจากภูมิภาคอื่น
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ข่าวดี!จีนรับรอง10ห้องแล็บ  ตรวจBY2รับส่งออกทุเรียน ข่าวดี!จีนรับรอง10ห้องแล็บ ตรวจBY2รับส่งออกทุเรียน
  • รองปลัดฯลงพื้นที่  ติดตามโครงการฯ  ชูสินค้ามูลค่าสูง  แปลงใหญ่ทุเรียน รองปลัดฯลงพื้นที่ ติดตามโครงการฯ ชูสินค้ามูลค่าสูง แปลงใหญ่ทุเรียน
  • รมช.เกษตรลงพื้นที่ติดตามงานขับเคลื่อนนโยบายยกระดับสินค้าการเกษตร-ทุเรียนลับแล รมช.เกษตรลงพื้นที่ติดตามงานขับเคลื่อนนโยบายยกระดับสินค้าการเกษตร-ทุเรียนลับแล
  • ‘นฤมล’สั่งตั้งกรรมการสอบ ปมร้องเรียนส่อเอื้อแล็บตรวจ BY2‘ทุเรียน’ส่งออก ‘นฤมล’สั่งตั้งกรรมการสอบ ปมร้องเรียนส่อเอื้อแล็บตรวจ BY2‘ทุเรียน’ส่งออก
  • \'นฤมล\'สั่งคุมเข้มมาตรการส่งออกผลไม้ให้ได้มาตรฐาน 'นฤมล'สั่งคุมเข้มมาตรการส่งออกผลไม้ให้ได้มาตรฐาน
  • ‘อิทธิ’ติดตามแก้ไขปัญหา  สารปนเปื้อนทุเรียนส่งจีน ‘อิทธิ’ติดตามแก้ไขปัญหา สารปนเปื้อนทุเรียนส่งจีน
  •  

Breaking News

'สพฐ.' แจ้งสถานศึกษาไม่ตื่นตระหนกข่าวลือ 'โควิด' ย้ำไม่ประมาท

(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต

'ดร.เสรี' ถาม 'รมว.สธ.'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้?

สำนักข่าวอิศราเปิดชื่อ 3 หมอโดนแพทยสภาสั่งลงโทษคดี 'ทักษิณ' ชั้น 14

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved