‘หนุ่ม อส.’ไปซื้อเครื่องเช่นไหว้หวังแก้บน หลังบรรจุได้ 7 วัน ถูก 2 มือปืนโหดบุกยิงต่อหน้าลูกเมีย ก่อนไปสิ้นใจที่ รพ. ตำรวจเร่งสางปม

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กาญจนบุรี ว่า เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 23 ก.ย.66 ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ลาดหญ้า ว่าเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสเป็นชาย 1 ราย หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เหตุเกิดบริเวณริมถนนหน้าร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง ท้องที่บ้านท่าโป่ง หมู่ 3 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า , พ.ต.ต.ศุภัทรวุฒิ กิ้มแสง สว.สส.สภ.ลาดหญ้า พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลาดหญ้า , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลังลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็ว

ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงใช้เชือกมาขึ้นกันเอาไว้เพื่อป้องกันการเหยียบย่ำทำลายหลักฐาน จากการตรวจสอบพบกองเลือดของผู้บาดเจ็บกองอยู่ริมถนนหน้าร้านมินิมาร์ท โดยมีปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. ตกอยู่กับพื้น 8 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สำหรับผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ไปก่อนหน้านี้ แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เนื่องจากถูกยิงเข้าที่หน้าอกถึง 5 นัด และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ทราบชื่อคือนายนพเดช บุญสุวรรณ์ หรือ “อส.เดช” อายุ 34 ปี อยู่หมู่ 1 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนั้นนายนพเดช ซึ่งเพิ่งบรรจุได้เพียง 7 วัน ได้ขับรถยนต์กระบะมาที่ร้านมินิมาร์ท พร้อมกับภรรยาและลูกชายวัย 6 ขวบ เพื่อมาซื้อเครื่องเซ่นไหว้หวังนำไปแก้บนที่วัดแห่งหนึ่ง หลังจากซื้อเครื่องเซ่นไหว้แล้วเสร็จนายนพเดช ได้ซื้อน้ำมันเพื่อตุนเอาไว้

ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นชาย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์มาประกบ จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายมาได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงใส่นายนพเดช กระสุนเข้าที่หน้าอกถึง 5 นัด เป็นเหตุทำให้นายนพเดช ล้มลงกับพื้น หลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้กับภรรยาของนายนพเดชเป็นอย่างมาก หลังจากที่คนร้ายหลบหนีไป ชาวบ้านรวมทั้งภรรยาของนายนพเดช จึงรีบช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ สาเหตุเกิดจากปัญหาอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป และคาดว่าจะรู้ตัวคนร้ายในเร็วๆนี้

-005