ตำรวจชุดร่วมงานเลี้ยง “กำนันนก”14 นาย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาผิด ม.157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนอีก1 นาย ติดภารกิจขอรับทราบในวันถัดไป ด้านพนักงานสอบสวนเร่งสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด
เมื่อวันที่ 28กันยายน 2566 ที่กองบังคับการปราบปรามพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้เรียก ตำรวจ 15 นาย ที่ถูกแจ้งข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในคดีพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูก นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ลูกน้องคนสนิทของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ผู้มีอิทธิพลในจ.นครปฐม กลางงานเลี้ยงจนเสียชีวิต ภายในบริเวณบ้านกำนันนกมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยตั้งแต่ช่วงเวลา 08.00น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มดังกล่าวได้ขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ของกองบังคับการปราบปราบซึ่งเป็นห้องรับทราบข้อกล่าวหา ในขณะที่สื่อมวลชนถูกกันไว้บริเวณโถงด้านล่างเพื่อไม่ให้ขึ้นไปสังเกตุการณ์
ด้าน นายบดีศร เผ่าสุทอ ทนายความจากสภาทนายความ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ประสานขอทนายอาสามาช่วยเหลือดำเนินการด้านคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 15 คน ซึ่งเป็นสิทธิตามกฏหมาย ทางสภาทนายความจึงจัดเตรียมทนายความ 5 คน มาให้ตามคำร้องขอ โดยจะต้องไปพูดคุยสอบถามกับทางพนักงานสอบสวนและผู้ต้องหาว่าจะให้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างไรต่อไป เนื่องจากอาจมีผู้ต้องหาบางคนที่เตรียมทนายส่วนตัวมาว่าความแล้ว
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปรามเปิดเผยถึง การที่พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับตำรวจบางนายที่ไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านนายประวีณ จันทร์คล้ายหรือ กำนันนก แล้วเกิดเหตุยิงตำรวจเสียชีวิต ซึ่งมีภาพปรากฏว่าไปอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากนำผู้บาดเจ็บส่งรักษา แต่กลับถูกพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ว่าการดำเนินความผิดตามมาตรา 157 นั้น จะดูจากพฤติการณ์เป็นหลัก ซึ่งก็คือตำรวจที่ไปอยู่ร่วมงานเลี้ยง แต่ไม่ระงับเหตุ ไม่จับกุมคนร้าย หรือไม่ทำสิ่งที่ควรทำ
ในส่วนตำรวจชุดแรกซึ่งเป็นนำผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลทันที จึงถือว่าไม่เข้าข่ายความผิด เพราะเร่งให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก่อน แต่ในส่วนตำรวจที่ตามไปโรงพยาบาลภายหลังนั้น ไม่ถือว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยทันที แถมยังไม่ได้เข้าระงับเหตุ หรือปฏิบัติหน้าที่ตามวิสัยที่ตำรวจควรจะต้องทำ จึงถือว่ามีความผิดตามมาตรา 157 วันนี้จึงได้เรียกตำรวจที่เข้าข่ายความผิดดังกล่าวมารับทราบข้อหา
ทางด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3บก.ป. ในฐานะโฆษกชุดสืบสวนคลี่คลายคดีกำนันนก เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้ต้องหาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด 14 นาย ในจำนวนนี้มี พ.ต.อ.กฤษฎาพร ผกก.สน.พญาไท รวมอยู่ด้วย ส่วนตำรวจอีกนายที่ไม่ได้เดินทางมาเนื่องจากติดภารกิจและจะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 29 ก.ย.นี้
พ.ต.อ.วิวัฒน์ ระบุว่า สำหรับรายละเอียดคำให้การของตำรวจทั้ง 14 นาย นั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรณีกล้องวงจรปิดที่เสียนั้นได้ส่งให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบ อย่างไรก็ตามหลังจากการสอบปากคำและแจ้งข้อหากับตำรวจทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้วนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะปล่อยตัวทั้งหมดกลับไป เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี สามารถปล่อยตัวได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ประกันหลักทรัพย์ ก่อนที่หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีส่ง ป.ป.ช. เพื่อให้ชี้มูลความผิดต่อไป
พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า กรณีจำนวนตำรวจที่ถูกดำเนินคดีดังกล่าวของบก.ป.ไม่ตรงกับ สำนวนของพนักงานสอบสวน ภาค 7 ที่ดำเนินคดีกับตำรวจ 13 นาย รวมทั้ง ผกก.เบิ้ม นั้น เนื่องจากการพิจารณาต้องดูที่พฤติกรรมของตำรวจภายในงาน สำหรับกรณี ผกก.เบิ้ม ที่มีภาพวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ที่รถ ความจริงได้เข้าให้การช่วยเหลือสารวัตรแบงค์แล้ว แต่ลืมโทรศัพท์ไว้ที่รถจึงวิ่งกลับไปหยิบ ประกอบกับไปเจอคนเจ็บอีกคนจึงเร่งให้การช่วยเหลือพาไปส่งโรงพยาบาลจึงทำให้บ่งชี้ว่าพฤติกรรมผกก.เบิ้มไม่ขาดเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี