‘ศาลอาญามีนบุรี’สั่งปรับ‘จิน ธรรมวัฒนะ’ 5 พันโพสต์ดูหมิ่น‘แซน-กระติก’ ยกฟ้องข้อหาหมิ่นพร้อมสั่งชดใช้ให้คนละ 5 หมื่น ‘ทนายตั้ม’เตรียมยื่นอุทธรณ์

29 กันยายน 2566 ที่ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ฟ้อง นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือจิน อดีตสามี หนิง ปณิตา ผู้จัดละครชื่อดัง เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา

จากกรณีที่นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก แจ้งความดำเนินคดีกับนายจรินทร์ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาที่ สน.ท่าข้าม ส่วน น.ส.อิจศรินทร์ แจ้งความดำเนินคดีที่ สน.มีนบุรี เมื่อเดือน เม.ย.2565 หลังจากทั้งสองได้แจ้งความแล้ว ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุด พิจารณาแล้วเห็นว่าให้รวมพิจารณาเป็นคดียื่นฟ้องต่อศาลอาญามีนบุรี

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของนายจรินทน์ กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษา ว่า วันนี้ศาลพิพากษายกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งคดีนี้ แซน และกระติก มีการไปแจ้งความไว้คนละพื้นที่ในความผิดกรรมเดียวกัน จึงขอให้รวมคดี อัยการเห็นว่าเป็นคดีเดียวกันก็สั่งให้รวมสำนวนมาฟ้องที่ศาลอาญามีนบุรี โดยฟ้องทั้งข้อหาดูหมิ่นและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่ตนเองเคยให้สัมภาษณ์ตั้งแต่วันแรกแล้วว่ากรณีของนายจรินทร์ ที่โพสต์เรื่องของตัวเงินตัวทอง เป็นการดูหมิ่นไม่ใช่หมิ่นประมาท ซึ่งนายจรินทร์ รับสารภาพตั้งแต่ต้น แต่ต่อสู้ในเรื่องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาเพราะยังไม่เข้าข่ายความผิด  ก็สู้ตามแนวฎีกา

นายษิทรา ระบุว่า วันนี้ศาลก็ตัดสินมาแล้ว มีคำพิพากษายกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา แต่สั่งปรับในข้อหาดูหมิ่น 10,000 บาท จำเลยรับสารภาพ ลดค่าปรับ เหลือ ปรับ 5,000 บาท ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์เรียกมาเป็นคนละ 5 ล้านบาทนั้น ศาลมองว่าข้ออ้างที่ระบุว่าการที่นายจรินทร์โพสต์ข้อความในทำนองนั้น ทำให้ไม่มีงาน ขาดรายได้ เกิดจากสิ่งที่โจทก์โดนคดี และโจทก์ไม่สามารถที่จะนำสืบได้ว่าการที่ไม่มีงานเกี่ยวกับที่นายจรินทร์โพสต์ต่อว่า ศาลจึงสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย ให้แซน และกระติก คนละ 50,000 บาท ซึ่งในส่วนของเรื่องค่าเสียหาย ก็ต้องอุทธรณ์ต่อไป เพราะคิดว่ามากเกินไป

“ส่วนจะพิจารณาฟ้องกลับหรือไม่ เพราะการที่ไปแจ้งข้อหาเกินจากความเป็นจริง ทั้งที่เป็นแค่เรื่องดูหมิ่น แต่แจ้งในเรื่องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้ จิน เสียอะไรหลายอย่างและคนอาจจะมองว่าไปใส่ความหรืออะไรแบบนี้อยู่ระหว่างพิจารณาถ้ามีความผิดก็ต้องดำเนินคดีกลับ”นายษิทรา กล่าว

ขณะที่นายจรินทร์ กล่าวสั้นๆ ว่า ไม่รู้สึกกังวลอะไร สบายๆ ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่นายษิทราบอก

-005