เปิดเส้นทางทูตมรณะ!เด็ก14กราดยิงใน‘พารากอน’ กู้เงินแอปสั่งซื้อปืน เผยตามรวบได้ครบแล้วเครือข่ายขายออนไลน์

5 ตุลาคม 2566 ความคืบหน้ากรณีเด็กวัย 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 โดยพบว่าอาวุธปืนที่เด็กชายใช้ในการก่อเหตุ เป็นอาวุธปืน “แบลงค์กัน” (Blank Guns) ที่มีการสั่งซื้อทางออนไลน์ ราคากระบอกละ 16,000 บาท และต่อมามีการจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวโยงกับการขายปืน 2 ราย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รวบแล้ว 2 รายขายปืนให้เด็ก14 ปีกราดยิงในพารากอน)

จากแนวทางสืบสวน พบว่า ผู้ก่อเหตุวัย 14 ปี สนใจจะสั่งซื้ออาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต และได้ทักไปหาผู้ขาย และคุยกันผ่านแชท แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ไว้วางใจว่าถ้าสั่งซื้อและจะได้ปืนจริงหรือไม่ เพราะเป็นสินค้าที่มีราคาสูง จึงทดลองสั่งกระสุนปืนก่อน ขนาด 9 มม. หลายนัด ราคาประมาณ 1,000 บาท ซึ่งผู้ก่อเหตุได้โอนเงินไปให้ผู้ขาย หลังจากนั้น 2-3 วัน ผู้ขายได้ส่งพัสดุมาให้ผู้ก่อเหตุที่คอนโดมิเนียมย่านสาทร และเมื่อผู้ก่อเหตุรู้ว่าของที่ได้เป็นกระสุนจริง จึงสั่งซื้ออาวุธปืนแบลงค์กันที่ทำการดัดแปลงแล้ว ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ซึ่งเป็นปืนกระบอกก่อเหตุ

แนวทางสืบสวน พบว่า ผู้ก่อเหตุมีเงินไม่พอ และได้มีการไปกู้เงินผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่ง หลังจากได้เงินมา ก็โอนให้กับผู้ขายอาวุธปืน จำนวน 16,000 บาท หลังจากนั้นผู้ขายก็ส่งพัสดุอาวุธปืนมาที่คอนโดมิเนียมย่านสาทรเหมือนเดิม

ต่อมาหลังศาลออกหมายจับ ชุดสืบสวนนครบาลได้ประสานไปยังกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา สนธิกำลังชุดปฏิบัติการเข้าจับกุมตัว นายสุวรรณหงษ์ และนายอัครวิชญ์ 2 พ่อลูกในบ้านพัก  เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบสวน ทั้งสองคนยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนพบพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ว่า นายสุวรรณหงษ์ และนายอัครวิชญ์  2 พ่อลูก เป็นผู้ที่ขายปืนที่ดัดแปลงแล้ว และส่งปืนแบลงค์กันมาให้ผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุได้โอนเงินเข้าบัญชีนายสุวรรณหงษ์ ซึ่งนายสุวรรณหงษ์ เป็นคนกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มด้วยตนเองที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ยะลา ส่วนนายอัครวิชญ์ ลูกชาย เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กช่องทางในการขายอาวุธปืนแบลงค์กัน โดยเพจดังกล่าวเปิดมานานประมาณ 5 เดือน และเพิ่งปิดตัวไปหลังเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.30 น.

ส่วนอีก 1 คนที่ถูกออกหมายจับทราบชื่อ คือ นายปิยะบุตร เป็นผู้ที่ขายและคนส่งกระสุนปืนขนาด 9 มม. ให้กับผู้ก่อเหตุ ตอนที่สั่งซื้อครั้งแรก ซึ่งนายปิยะบุตร มีความเชื่อมโยงกันกับนายสุวรรณหงษ์ และนายอัครวิชญ์ ในลักษณะเครือข่ายเดียว คนหนึ่งขายปืน อีกคนขายกระสุนปืน

สำหรับนายปิยบุตร ล่าสุดได้รับการยืนยันจากตำรวจระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนนครบาล ว่า สามารถควบคุมตัวนายปิยะบุตรได้แล้วซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจค้นบ้านพัก ย่านดอนเมือง

ทั้งนี้ ทั้ง 3 คน ถูกศาลอาญากรุงเทพฯใต้ออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

-005