"ธรรมนัส"เดือด! สั่งการด่วน เร่งล้างบางห้องเย็นลักลอบเก็บ จำหน่ายเนื้อสัตว์เถื่อนทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ถูกยิงเสียชีวิตขณะนำกำลังเข้าตรวจพบห้องเย็นเถื่อน ในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลั่นสาวถึงกลุ่มทุนผู้อยู่เบื้องหลังไม่ไว้หน้าใคร พร้อมประสาน รมว.กลาโหม และ ผบ.ตร.ขอกำลังทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ร่วมกับกรมปศุสัตว์ จัดชุดเอกซเรย์ห้องเย็นทั่วประเทศโดยด่วน
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ถูกกระหน่ำยิงเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ขณะนำกำลังเข้าไปตรวจสอบห้องเย็นต้องสงสัยลักลอบจำหน่ายเนื้อสัตว์เถื่อนแห่งหนึ่งที่จังหวัดเพชรบูรณ์ นั้น ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรง อุกอาจที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่ขณะปฎิบัติหน้าที่โดยไม่มีทางสู้ ซึ่งตนเองจะไม่ยอมให้ผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆ และต้องให้ผู้กระทำผิดถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
โดยขั้นตอนจากนี้ ตนได้ประสานไปยัง ท่านสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม และพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอให้สนธิกำลังทหารและสั่งการผู้การจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งกำลังชุดเฉพาะกิจปฎิบัติการพิเศษลงพื้นที่ พร้อมกับหน่วยงานของกรมปศุสัตว์เพื่อติดตามตรวจสอบห้องเย็นทั่วประเทศที่ฝ่าฝืนกระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายทันที
“ผมขอแสดงความเสียใจต่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทราบว่าเป็นถึงหัวหน้าด่านตรวจ ซึ่งได้กำชับให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ดูแลเยียวยา ครอบครัวและบุตรอย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นมอบเงินช่วยเหลือ 100,000 บาท ส่วนผู้ที่บาดเจ็บก็ต้องรักษาและเยียวยาขวัญกำลังใจเช่นกัน เนื่องจากถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานอย่างบุริสุทธ์ใจ แต่เรื่องนี้ไม่ทำให้ผมหวั่นไหวหรือล้มเลิกที่จะล้างบางผู้กระทำผิดกฎหมายแน่ นอนจากนี้ ต้องตรวจเอ็กซเรย์ทั่วประเทศเข้มข้นมากขึ้น ไม่มีละเว้นว่าใครเป็นนายทุน หรืออยู่เบื้องหลังห้องเย็นเถื่อนแม้แต่รายเดียว” ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายอธิบดีกรมปศุสัตว์ ออกคำสั่งให้ปศุสัตว์ทุกจังหวัดตรวจห้องเย็นทั่วประเทศโดยขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่ผู้การตำรวจแต่ละจังหวัดให้ร่วมมือดำเนินการเต็มที่ ซึ่งเบื้องต้น ตนได้ประสานไปยัง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอให้สั่งกำชับผู้การจังหวัดทั่วประเทศแล้ว เพราะได้รับทราบข่าวและมีเบาะแสว่ามีเจ้าหน้าที่ตามด่านกักกันตามแนวชายแดนหลายแห่งถูกข่มขู่เอาชีวิต โดยเฉพาะด่านทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ยิงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จนเสียชีวิตและบาดเจ็บครั้งนี้ น่าจะเป็นผลจากการที่ตนเองได้สั่งกวาดล้างและทำลายขบวนการนำเข้าสินค้าเกษตรเถื่อนอย่างจริงจัง โดยล็อตแรกมีการเผาทำลายหมูเถื่อนเมื่อวันที่ 29 ก.ย.2566 ซึ่งเป็นซากสุกรของตกค้างและของกลางในคดี พิเศษที่ 59/2566 จํานวน 161 ตู้ ณสำนักงานชลประทานที่ 9 จังหวัดชลบุรี ซึ่งถือเป็นการทำลายของกลางครั้งประวัติศาสตร์ ที่มีการทำลายสินค้าเถื่อนมากถึง 4.5 ล้านกิโลกรัม หรือ 4 พันตัน มูลค่ารวมกว่า 450 ล้านบาท และจนถึงขณะนี้ยังมีการตรวจสอบห้องเย็นเพื่อปราบปรามการลักลอบขนส่งและซุกซ่อนหมูเถื่อน หรือสินค้าเกษตรอื่นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผู้กระทำผิดหวาดเกรงและพยายามตัดเส้นทางที่จะสาวถึงนายทุนใหญ่ดังกล่าว
มีรายงานว่า เหตุยิงเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เสียชีวิและบาดเจ็บครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ (11 ตุลาคม) ที่ผ่านมา ขณะหัวหน้าด่านกักสัตว์เพชรบูรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่สัตวบาล รวม 9 นาย เข้าตรวจสอบห้องเย็นแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลช้างตะลูด อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบนำเข้าและซุกซ่อนเนื้องวัวเถื่อนผิดกฎหมายเพื่อนำออกจำหน่าย เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและอยู่ระหว่างจดบันทึกการตรวจสอบนั้น ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงที่ที่ศรีษะของหัวหน้าด่านตรวจจนเสียชีวิต และกระสุนยังเฉี่ยวไปโดนเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์บาดเจ็บอีก 1 ราย หลังเกิดเหตุคนร้ายถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดที่ สภ.นครสวรรค์
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี