ล็อตแรกของนครพนม กลับคืนมาตุภูมิอบอุ่นแล้ว เจ้าตัวเปิดใจเพราะความจนมันน่ากลัวกว่า จึงยอมเสี่ยงตายขายแรงงานที่อิสราเอล ตั้งใจสร้างบ้านให้พ่อแม่ แฉนาทีหนีตายสมรภูมิเลือดอิสราเอล นักรบฮามาสสุดโหดราดน้ำมันใส่ที่พักจุดไฟเผาทั้งเป็น แถมพูดภาษาไทยล่อให้ออกมาเพื่อฆ่าทิ้ง สุดท้ายตัดสินใจฝ่าเปลวเพลิงออกมารอดตายราวปาฎิหาริย์
วันที่ 14 ตุลาคม 2566 มีบรรยากาศการต้อนรับคืนสู่มาตุภูมิของนายคมสัน คำต้อง หรือ ท็อป อายุ 30 ปี ชาวบ้านดงต้อง ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม หนึ่งในแรงงานไทยที่ได้รับการช่วยเหลือมาจากประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นคนงานชุดแรกของ จ.นครพนม ที่รอดจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส โดยไปทำงานเป็นเวลานานกว่า 4 ปีเศษ เหลือเวลาตามสัญญาจ้างไม่ถึง 1 ปี แต่ต้องยอมกลับมาเพื่อความปลอดภัย
ส่วนสภาพความเป็นอยู่นายท็อป เป็นลูกชายคนโตของนายคำจันทร์-นางแสน คำต้อง อายุ 65 ปีเท่ากัน มีพี่น้องสองคน ครอบครัวฐานะยากจน มีอาชีพทำไร่ทำนา นอกจากนี้บ้านที่อยู่อาศัยยังเก่าแก่ สภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา เพราะมีอายุเกือบ 100 ปี หลังกลับมาเจ้าตัวตั้งใจ ส่วนหนึ่งจะนำเงินกลับมาสร้างบ้านหลังใหม่ เป็นของขวัญแก่ครอบครัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากมีพ่อแม่คือ นายคำจันทร์ คำต้อง อายุ 65 ปี พร้อม นางแสน คำต้อง อายุ 65 ปี ผูกแขวนรับขวัญตามประเพณี มี นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม พร้อม นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดฯ นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดฯ นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม นางสาว วรานิษฐ์ กีรติพงศ์เวคิน รักษาราชการแทน จัดหางานจังหวัดนครพนม นายนพพร มานะ แรงงานจังหวัดนครพนม นางสาว อาภา รัตนพิทักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม และหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ร่วมต้อนรับให้กำลังใจอบอุ่น
นายคมสัน หรือท๊อป ลำดับเหตุการณ์ว่า วันที่ 7 ตุลาคม คือวันที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากถล่มอิสราเอล ก็เห็นจรวดพุ่งข้ามหัวไปหลายลูก แต่ไม่มีใครตกอกตกใจ มาอกสั่นขวัญแขวนตอนที่กลุ่มฮามาสบุกภาคพื้นดิน เพราะไม่เคยมีเช่นนี้มาก่อน พร้อมกราดยิงใส่แคมป์คนงานอย่างบ้าคลั่ง หลายคนเหมือนนัดกันไว้ ต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด คนงานกระเจิงไปคนละทิศละทาง บางคนวิ่งไปที่โล่งแจ้งฮามาสก็สาดกระสุนใส่ เห็นเพื่อนคนงานไทยด้วยกันล้มลงต่อหน้าต่อตา ส่วนตนและเพื่อนอีกจำนวนหนึ่ง หลบอยู่ในห้องพักอัดกันอยู่หลายคน กลุ่มก่อการร้ายตีเนียนพูดเป็นภาษาไทย ว่า ไทยแลนด์ๆ หวังจะล่อหลอกให้คนไทยออกมาเพื่อฆ่าทิ้ง แต่สำเนียงมันต่างจากคนอิสราเอล จึงไม่มีใครหลงกล
นายคมสัน กล่าวว่า ขณะหลบอยู่ในห้องกลุ่มฮามาส ได้สาดน้ำมันใส่ผนังห้องแล้วจุดไฟ หวังจากเผาให้ตายทั้งเป็น ไฟเริ่มคุขึ้นโชนรวมทั้งควัน กระจายเข้ามาในห้อง เวลานั้นคิดว่าคงไม่รอดแน่ ก่อนจะยกมือท่วมหัวระลึกถึงคุณพ่อแม่แล้ว พร้อมขอบารมีจากองค์พระธาตุพนมคุ้มครอง ตัดสินเปิดประตูห้องวิ่งฝ่าเปลวไฟออกมา อย่างน้อยถ้าถูกยิงอาจไม่ตาย แต่ถ้าอยู่ในห้องถูกย่างสดแน่นอน ปรากฏว่าไม่มีกลุ่มฮามาสอยู่บริเวณนั้น จึงรอดตายราวปาฎิหาริย์ จากนั้นก็กระเซอะกระเซิงหาที่ปลอดภัยหลบซ่อน จนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานฑูตไทย เข้ามานำตัวออกจากสมรภูมิเลือดไปอยู่ยังศูนย์อพยพ พวกตนจึงยื่นความจำนงขอกลับประเทศไทย โดยได้รับการประสานระหว่างรัฐบาลไทยกับอิสราเอล ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมงทุกอย่างก็ลงตัว ต้องขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ตนจึงได้กลับสู่แผ่นดินแม่อย่างปลอดภัย
นอกจากนายคมสัน ยังได้ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือให้กำลังใจ สิ่งที่จะทำให้พ่อแม่ คือ จะสร้างบ้านให้เป็นของขวัญ เพราะสภาพบ้านปัจจุบันทรุดโทรมไปตามกาลเวลา มีอายุเกือบ 100 ปี จากนั้นค่อยคิดใหม่ว่า จะไปขายแรงงานที่ต่างประเทศต่ออีกหรือไม่ ถึงรู้ว่าฉนวนกาซาเป็นพื้นที่เสี่ยงก็ตาม แต่ความจนมันน่ากลัวกว่า.-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี