‘แรงงานไทย’เปิด 18 ชั่วโมงสุดระทึก ฝ่าเปลวเพลิง-ดงกระสุนหนีนอนกลางสวน แกล้งตาย ยุงกัดไม่กล้าตบ กลัว‘ฮามาส’ได้ยินตามมายิงทิ้ง มีผ้าปิดหน้าศพแม่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2566 นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (ผวจ.นครพนม) พร้อมด้วย นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดฯ , นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดนครพนม , นางสาววนิษฐ์ กีรติพงษ์เวคิน รักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดนครพนม , นายนพพร มานะ แรงงานจังหวัด , นางสาวอาภา รัตนพิทักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม ร่วมลงพื้นที่ให้กำลังใจผูกแขนรับขวัญแรงงานที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล ถึงบ้านเกิดสู่อ้อมกอดของครอบครัว ถือเป็นชุดแรกของ จ.นครพนม จำนวน 2 ราย
หลังจากได้พูดคุยกับนายคมสัน คำต้อง หรือท๊อป อายุ 30 ปี ชาวบ้านดงต้อง หมู่ 7 ต.ดงขวาง อ.เมืองนครพนม เรียบร้อยแล้ว คณะของ ผวจ.นครพนม ได้ไปพบกับแรงงานที่เดินทางกลับมาพร้อมกันอีกคน และอยู่หมู่บ้านเดียวกัน คือ นายวีรพล หลบจันทร์ หรือกอล์ฟ อายุ 34 ปี ชาวบ้านดงต้อง หมู่ 8 ต.ดงขวาง โดยได้สอบถามข้อมูลสถานการณ์ในพื้นที่สู้รบ เพื่อประเมินสถานการณ์ และถอดบทเรียนแนวทางการติดตามบุคคลที่ถูกควบคุมตัว หรือไม่สามารถติดต่อได้ นำมาเป็นข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ในการพิจารณามาตรการในการให้ความช่วยเหลือ เพื่อนำแรงงานให้เดินทางกลับสู่มาตุภูมิอย่างปลอดภัย
นายกอล์ฟ อดีตพนักงานโรงแรม ที่ประสบวิกฤตโควิดระบาด จึงตัดสินใจไปขายแรงงานยังประเทศอิสราเอล เปิดเผยว่า เพิ่งเดินทางไปทำงานอยู่ฟาร์มเกษตรได้เพียง 4 เดือน ผ่านกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ใช้เงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 130,000 บาท ใช้หนี้ไปได้เพียงครึ่งเดียว ก็เกิดสงครามสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์
นายกอล์ฟ เล่าเหตุการณ์คล้ายคลึงกับนายคมสัน คำต้อง หรือท๊อป เพื่อนคนงานที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันเพิ่มเติม คือ หลังจากหลบออกจากห้องพักที่กลุ่มฮามาสพูดภาษาไทยทักทายหวังหลอกให้คนไทยออกจากห้องแล้วยิงทิ้ง เมื่อไม่มีใครหลงกลก็ราดน้ำมันจุดไฟเผา เพื่อย่างสดให้ตายทั้งเป็น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มนครพนมเล่านาทีหนีตายสมรภูมิเลือด แฉ'ฮามาส'พูดภาษาไทยล่อออกมาฆ่าทิ้ง)
แรงงานวัย 34 ปี เล่าต่อว่า ตนรอดตายมาอย่างปาฏิหาริย์ โดยช่วงเกิดเหตุวันแรก ถูกทหารฮามาสเข้าโจมตีแคมป์คนงานในฟาร์มเกษตรแห่งหนึ่งติดชายแดนฉนวนกาซา ตอนใต้ของอิสราเอล ยอมรับว่าทหารฮามาสมีพฤติกรรมโหดมาก หวังเอาชีวิตแรงงานไทยทั้งหมดในแคมป์คนงานรวมกว่า 10 ชีวิต รวมถึงจู่โจมเข้าทำร้ายแรงงานไทยอีกหลายจุด
ในส่วนของแคมป์ตนเองโดนทั้งกราดยิง ปาระเบิดเข้าที่พัก รวมถึงราดน้ำมันเผาซ้ำ มีบาดเจ็บ เสียชีวิตหลายคน ส่วนตนกับเพื่อน 4-5 คน ตัดสินใจวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ฝ่ากระสุนลูกปืนหลบหนีเข้าป่าด้านหลังแคมป์ และยังพบทหารฮามาส ลาดตระเวนเคลียร์พื้นที่หวังทำร้ายแรงงานไทยที่รอดชีวิต จนกระทั่งหลับนอนในป่า ทำทีแกล้งตายนอนนิ่ง ตั้งแต่หกโมงเย็นวันเกิดเหตุ จนถึง 11 โมง หรือเกือบเที่ยงอีกวัน จนมีทหารอิสราเอล เข้ามาช่วยเหลือและรอดชีวิต โดยไม่สามารถนำทรัพย์สินมีค่าออกมาได้เหลือแค่เสื้อผ้าติดตัว โชคดียังมือโทรศัพท์มือถือติดตัว ที่บันทึกเอกสารสำคัญไว้
“ตอนนั้นต้องใช้สติให้มาก เมื่อออกจากเปลวเพลิงมาได้ ต้องคลานไปตามพื้นดิน เพื่อหลบกลุ่มฮามาสที่ยังวนเวียนอยู่บริเวณนั้น และต้องนอนคว่ำหน้านิ่งตั้งแต่หัวค่ำยันรุ่งเช้า โดยไม่ยอมกระตุกกระติกตัว แม้กระทั่งยุงกัดแค่เอามือลูบๆ ไม่กล้าตบเดี๋ยวมีเสียงดัง จะได้ยินถึงกลุ่มฮามาส โดยเฉพาะโทรศัพท์ต้องปิดเครื่องกันหมด ไม่เช่นนั้นถ้ามีสายเรียกเข้า จะมีแสงไฟสว่างขึ้น ท่ามกลางความมืดอาจเป็นสื่อนำให้กลุ่มก่อการร้ายตามมาเจอได้ จึงต้องปลอดภัยไว้ก่อน กระทั่งรุ่งเช้าสามารถติดต่อทางการอิสราเอล ให้เข้ามานำตัวออกจากบริเวณสวนนั้น ส่วนวัตถุมงคลที่ติดตัวไป มีเพียงผ้าปิดหน้าศพแม่ที่ญาติส่งไปให้ตามหลัง โดยตัวเองเก็บไว้ใต้หมอนตลอดเวลา” นายกอล์ฟ กล่าว
นายกอล์ฟ กล่าวด้วยว่า ตนไม่กังวลเรื่องภาระหนี้สิน หลังไปทำงานแค่ 4 -5 เดือน เหลือหนี้อีกกว่าครึ่งแสน ขอแค่เอาชีวิตกลับมาหาครอบครัวถือว่าดีใจ หากถามตอนนี้ว่าจะกลับไปทำงานอีกหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ไปขอทำงานใช้หนี้ที่ประเทศไทย ขอบคุณทุกฝ่ายรวมถึงรัฐบาลไทยให้การช่วยเหลือ
ด้าน ผวจ.นครพนม กล่าวว่า แรงงานที่เดินทางมาจากประเทศอิสราเอล ชุดแรกของจังหวัดมีจำนวน 3 ราย กลับถึงภูมิลำเนาเป็นที่เรียบร้อย 2 ราย คือ นายคมสัน คำต้อง และ นายวีรพล หลบจันทร์ โดยทั้ง 2 คนไม่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายแต่อย่างใด สภาวะจิตใจเข้มแข็ง ครอบครัวมีความรู้สึกโล่งใจที่บุตรหลานกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอย่างปลอดภัย
ส่วนอีก 1 รายคือนายชาตรี ชาศรี ที่ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขา ขณะนี้ไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ และดูแลช่วยเหลือแรงงานชาวนครพนม พร้อมครอบครัวอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี