มิติใหม่ ติดปีกอัยการ! อัยการสูงสุด คนที่ 18 แถลงนโยบายหลักการบริหารงานสร้างความเชื่อมั่น เพิ่มกลไกบริหารตั้งหน่วยสืบสวน เร่งรัดเวลาตร.ส่งสำนวน ส่งพยานให้อัยการซักถาม สร้างหลักประกันโยกย้าย ชงร่างระเบียบ ก.อ.ใหม่ สร้างมาตรฐานรักษาระบบคุณธรรม สั่งช่วยเหลือเหยื่อแรงงานไทยทุกด้านเต็มที่
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 19 ตุลาคม ที่ห้องรับรอง ชั้น 9 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (อสส.) คนที่ 18 ได้แถลงนโยบายการบริหารงานหลัก สำนักงานอัยการสูงสุด ในวาระการดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดเพื่อให้ข้าราชการฝ่ายอัยการนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการ โดยมีรองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการอธิบดีอัยการสำนักงานในส่วนกลาง เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ เลขานุการอัยการสูงสุด เลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดและคณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมรับฟัง
สำหรับนโยบายการบริหารงานของนายอำนาจ อัยการสูงสุด จะขับเคลื่อนภารกิจของสำนักงานอัยการสูงสุดภายใต้แนวคิด “PUBLIC TRUST” โดยมี 3 นโยบายหลัก ดังนี้
1.สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนด้วยการพัฒนาคุณภาพงานสอบสวนคดีอาญาของพนักงานอัยการ ผลักดันให้กระบวนการบังคับคดีและการประนีประนอมยอมความระหว่างคู่พิพาทในชั้นพนักงานอัยการมีประสิทธิภาพ โดยยึดมั่นและยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม โปร่งใส และไม่เลือกปฏิบัติเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของสังคมและประชาชน ดังนี้
1.เสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเกี่ยวกับการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนในการส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการพิจารณา เพื่อให้พนักงานอัยการมีระยะเวลาพิจารณาสำนวนการสอบสวนด้วยความรอบคอบ และเกิดความเป็นธรรมแก่คู่กรณีทุกฝ่าย
2.เร่งรัดสำนวนที่พนักงานอัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม โดยให้ส่งพยานมาให้พนักงานอัยการซักถาม เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมไม่ล่าช้า
3.เสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับการใช้อำนาจของพนักงานอัยการและเจ้าพนักงานบังคับคดีในการบังคับคดีตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ผลักดันให้สัญญาประนีประนอมยอมความที่พนักงานอัยการจัดทำขึ้นในการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทมีผลเช่นเดียวกับคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ
5.ศึกษาและวิเคราะห์ถึงการจัดให้มีหน่วยงานสืบสวนในสังกัดสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อสนับสนุนและพัฒนางานสอบสวนให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
2.นโยบายการบริหารทันสมัย เพิ่มกลไกการบริหารงานของสำนักงานอัยการสูงสุดให้มีความทันสมัย สร้างทัศนคติการทำงานเชิงรุกเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ ปรับปรุงรูปแบบการทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุดให้มีความสะดวก รวดเร็ว ทันต่อการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งพัฒนาทักษะความรู้ ศักยภาพของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ เป็นมืออาชีพ มีความพร้อมทำงาน ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของสังคมได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ดังนี้
1.ผลักดันให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนางานอัยการในสำนักงานอัยการสูงสุด สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน การบังคับคดีภาครัฐ การสอบสวนคดีอาญา การส่งผู้ร้ายข้ามแดนและดำเนินคดีระหว่างประเทศ และการปฏิบัติงานตามอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการและสำนักงานอัยการสูงสุด
2.พัฒนาระบบงบประมาณของสำนักงานอัยการสูงสุดให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3.พัฒนาบุคลากรข้าราชการธุรการให้มีตำแหน่งเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อรองรับการกระจายงานไปสู่สำนักงานอัยการภาค ลดภาระงานในกรุงเทพมหานคร อันจะเป็นเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยการจัดทำกรอบโครงสร้างอัตรากำลังผู้เชี่ยวชาญภาค และพัฒนาศักยภาพในการทำงานของพนักงานอัยการให้มีความเป็นมืออาชีพและทำงานเชิงรุกได้อย่างสร้างสรรค์
4.ผลักดันให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้มีความเหมาะสมทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม ด้วยการทบทวนกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ (Regulatory Guillotine) ที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทำงาน (Digital Transformation) เพื่อเป็นการ ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น ลดเอกสาร (Paperless) เพิ่มความรวดเร็ว ประหยัดงบประมาณ และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทันท่วงที
3.นโยบายด้านบุคลากรและมีคุณธรรม พัฒนาและส่งเสริมให้ข้าราชการฝ่ายอัยการ และบุคลากรเป็นคนดีและคนเก่ง โดยยึดมั่นในหลักคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตสำนึกที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริต และไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งมีความมั่นคงและความก้าวหน้าในอาชีพ มีคุณภาพชีวิตและขวัญกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติงาน ดังนี้
1.ส่งเสริมให้บุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต เที่ยงธรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน
2.สร้างมาตรฐานการบริหารงานบุคคล เพิ่มหลักประกันความเป็นธรรมและความโปร่งใส โดยเสนอร่างระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยหลักเกณฑ์การโยกย้ายข้าราชการอัยการ
3.ส่งเสริมและสนับสนุนให้ข้าราชการอัยการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีวินัย ด้วยการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการอัยการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวนชั้นต้นกรณีข้าราชการอัยการ ถูกกล่าวหาหรือเป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย และการรายงานผลการสอบสวนชั้นต้นที่ปรากฏว่ามีมูลเป็นกรณีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง พ.ศ.2554
4.ศึกษาการจัดสวัสดิการในการส่งเสริมและฟื้นฟูด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตของข้าราชการฝ่ายอัยการเพื่อให้การปฏิบัติราชการของข้าราชการฝ่ายอัยการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5.สร้างแรงจูงใจในการทำงานและความผูกพันในองค์กรโดยการมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติให้กับบุคลากรในสำนักงานอัยการสูงสุด และประชาชนผู้ทำคุณประโยชน์ให้สำนักงานอัยการสูงสุด
ทั้งนี้ เพื่อให้ข้าราชการฝ่ายอัยการทั่วประเทศนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป
นายประยุทธ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการแถลงนโยบายวันนี้นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลที่ส่งผลให้แรงงานไทยเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว อัยการสูงสุดได้แสดงความห่วงใยครอบครัวของผู้ประสบภัย และได้สั่งการให้พนักงานอัยการของสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนที่ครอบคลุมอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศให้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ ดูแล และแนะนำข้อกฎหมาย รวมทั้งช่วยเหลือแนะนำประสานงานในเรื่องต่าง ๆ แก่ครอบครัวผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
โอกาสนี้ อัยการสูงสุดได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่ได้มอบหมายในวันนี้ ในการมุ่งเน้นให้การทำงานของพนักงานอัยการเชิงรุกเพื่อให้เป็นที่เชื่อมั่น ศรัทธา และยอมรับของประชาชนและสังคม
อัยการสูงสุด ยังกล่าวด้วยว่า ในการบริหารราชการในวาระที่ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดจะเร่งผลักดันให้มีระเบียบคณะกรรมการอัยการ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง การเลื่อนตำแหน่ง และการเลื่อนเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการอัยการเกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อสร้างมาตรฐานและรักษาระบบคุณธรรมในการบริหารงานบุคคล โดยช่วง 2 สัปดาห์ที่เข้ารับตำแหน่งได้มอบหมายให้ทีมงานและคณะทำงานจัดทำร่างระเบียบดังกล่าวจนเสร็จสิ้นแล้วและนโยบายสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะเร่งให้เกิดขึ้นก็คือ การผลักดันให้มีเครื่องหมายเชิดชูเกียรติในนามสำนักงานอัยการสูงสุดเช่นเดียวกับหน่วยงานอื่น เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจร่วมกันของข้าราชการฝ่ายอัยการ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี