วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
แม่เศร้า! ร้อง'มูลนิธิปวีณาฯ'หลังโรงพยาบาลดังชุ่ย แจ้งผลตรวจผิดคน ทำเสียลูกในครรภ์

แม่เศร้า! ร้อง'มูลนิธิปวีณาฯ'หลังโรงพยาบาลดังชุ่ย แจ้งผลตรวจผิดคน ทำเสียลูกในครรภ์

วันอังคาร ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2566, 16.12 น.
Tag : มูลนิธิปวีณาฯ โรงพยาบาล ผู้ว่าฯชัชชาติ แนวหน้าออนไลน์
  •  

แม่เศร้า! ร้อง'มูลนิธิปวีณาฯ'หลังโรงพยาบาลดังชุ่ย แจ้งผลตรวจวินิจฉัยดาวน์ซินโดรมผิดคน โดนเจาะน้ำคร่ำทำเสียลูกในครรภ์ จ่อประสาน'ชัชชาติ'ตั้งคกก.สอบข้อเท็จจริง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ต.ค. 2566 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี น.ส.มล อายุ 32 ปี (นามสมมุติ) ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอความเป็นธรรมกรณีที่ น.ส.มล ตั้งครรภ์และไปฝากท้องที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ รพ. ส่งเอกสารผลการตรวจเลือดของคนไข้ให้แพทย์สลับคน แพทย์จึงเจาะน้ำคร่ำตรวจวินิจฉัยดาวน์ซินโดรมทารกในครรภ์แม่ผิดคน หลังเอกสารผลเลือดที่มีความเสี่ยงเป็นชื่อผู้หญิงอีกคน ซึ่งหลังจากเจาะน้ำคร่ำ น.ส.มล เกิดภาวะถุงน้ำคร่ำรั่วต่อมาเด็กเสียชีวิต ต้องยุติการตั้งครรภ์ ทั้งๆ ที่ผลตรวจเลือดน.ส.มล เป็นปกติ แต่เกิดจากการที่โรงพยาบาลทำงานผิดพลาด เป็นเหตุให้ต้องเสียลูก ครอบครัวต้องการให้โรงพยาบาลรับผิดชอบ ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ตรวจสอบอย่าให้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก


 

น.ส.มล กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานบัญชีอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง ขณะที่สามีก็เป็นพนักงานด้านไอทีบริษัทเดียวกัน แต่งงานอยู่กินกันมาหลายปีมีลูกสาวคนโตวัย 1 ขวบ 5 เดือน ตนกับสามีตั้งใจจะมีลูกน้อยกัน 2 คนเป็นครอบครัวที่อบอุ่น กระทั่งช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนได้ตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 สมใจ และวันที่ 16 ส.ค. ได้ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านพุทธมณฑล พบว่าลูกในครรภ์มีอายุประมาณ 10 สัปดาห์ จากนั้นวันที่ 21 ก.ย. แพทย์นัดไปพบเพื่อเจาะเลือด วันที่ 28 ก.ย. ทราบผลเลือดว่าเด็กในครรภ์มีความเสี่ยงที่จะเป็นดาวน์ซินโดรม แพทย์จึงได้นัดวันที่ 3 ต.ค. เพื่อเจาะน้ำคร่ำตรวจโครโมโซมวินิจฉัยดาวน์ซินโดรมทารกในครรภ์ ตอนนั้นตนเองก็สงสัยว่าตนอายุเพียง 32 ปี และท้องคลอดลูกคนแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร อีกทั้งเกรงว่าการเจาะน้ำคร่ำอาจจะมีความเสี่ยงต่อลูกในครรภ์ วันที่ 29 ก.ย. จึงได้เลือกที่จะไปตรวจ NIPS (Non Invasive Prenatal Screening) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมของลูกในครรภ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อแม่และลูก

 

น.ส.มล กล่าวอีกว่า โดยแพทย์จะเจาะเลือดของแม่ไปตรวจในห้องแลป และพ่อแม่ยอมเสียค่าใช้จ่ายเอง โดยจะทราบผลในวันที่ 6 ต.ค. ระหว่างที่รอผลตรวจ NIPS วันที่ 3 ต.ค. ตนก็ได้ไปที่โรงพยาบาลตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้มาพบแพทย์เจาะน้ำคร่ำ เจ้าหน้าที่ก็ได้ให้บัตรคิวแนบกับสมุดบันทึกแม่และเด็กรอพบแพทย์ เมื่อถึงคิวเจ้าหน้าที่ก็เรียกตามหมายเลขบัตรคิวที่ถือ แต่ไม่ได้เรียกชื่อ นามสกุลแต่อย่างใด เมื่อพบแพทย์ตนก็บอกว่าได้ไปตรวจ NIPS มาแล้วแต่ยังต้องรอผลในวันที่ 6 ต.ค. จะมาขอเลื่อนนัดเจาะน้ำคร่ำออกไปก่อน แต่แพทย์ได้อ่านผลตรวจเลือดบอกว่าทารกในครรภ์มีความเสี่ยงสูงควรจะรีบเจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจโครโมโซม หากช้ากว่านี้จะไม่เป็นผลดี ตนจึงต้องยอมให้แพทย์เจาะตรวจน้ำคร่ำในวันนั้น หลังตรวจเสร็จก็เดินทางกลับบ้าน วันที่ 4 ต.ค. ขณะที่นั่งดูสมุดบันทึกแม่และเด็กพบเอกสารผลเลือดคัดกรองดาวน์ซินโดรม แต่ไม่ใช่เป็นชื่อของตน กลับเป็นชื่อของ นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ตนจึงมั่นใจว่าแพทย์ได้เจาะน้ำคร่ำผิดคนแล้ว เพราะเอกสารผลเลือดที่ระบุเด็กมีความเสี่ยงเป็นดาวน์ซินโดรมที่แนบมากับสมุดบันทึกแม่และเด็กเป็นชื่อผู้หญิงคนอื่น

 

น.ส.มล กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 5 ต.ค. ตนจึงเอาเอกสารดังกล่าวไปสอบถามที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรแจ้งแค่ว่าเอกสารผิดก่อนจะนำไปขยำทิ้ง แล้วปริ๊นผลเลือดใบใหม่ที่เป็นชื่อของตนมาแนบกับสมุดบันทึกแม่และเด็ก ซึ่งเมื่อตนดูผลเลือดแล้วก็ไม่ได้ระบุว่าทารกมีความเสี่ยงดาวน์ซินโดรมแต่อย่างใด กระทั่งวันที่ 6 ต.ค. ผลการตรวจ NIPS ก็แจ้งมาว่า โครโมโซมของทารกในครรภ์ปกติทุกอย่าง เมื่อรู้ความจริงแทบช็อก เพราะตนได้ถูกเจาะน้ำคร่ำไปแล้วหากเกิดอะไรขึ้นกับลูกจะทำอย่างไร เพราะหลังจากเจาะตรวจน้ำคร่ำเมื่อวันที่ 3 ต.ค. จนถึงวันที่ 6 ต.ค. ตนก็ยังมีน้ำคร่ำไหลออกมาเรื่อยๆ จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลอีกแห่งอยู่แถวเจริญกรุง แพทย์ตรวจร่างกายพบว่า ถุงน้ำคร่ำรั่ว ซึ่งเกิดขึ้นได้กับคนที่เจาะน้ำคร่ำ 1 ใน 350 คน จึงให้นอนแอดมิทดูอาการ พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อ และอัลตร้าซาว์ดดูเด็กในครรภ์ ระหว่างนอนดูอาการ 3 วัน พบว่าเด็กในครรภ์อาการแย่ลงเรื่อยๆ

 

จากนั้นวันที่ 10 ต.ค. แพทย์จึงให้ตัดสินใจและทำการยุติการตั้งครรภ์ลง ในวันที่ 11 ต.ค. ตนจึงได้ออกจากโรงพยาบาลย่านเจริญกรุง กลับมาพักที่บ้าน แต่ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกไป เพราะความผิดพลาดจากเอกสารใบเดียว ถ้าหากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งแรกมีความละเอียดรอบคอบคงไม่เอาผลเลือดคัดกรองดาวน์ซินโดรมที่มีความเสี่ยงของคนอื่นมาใส่เป็นของตน และตนคงไม่ต้องเจาะถุงน้ำคร่ำจนเป็นเหตุให้ต้องสูญเสียลูกไป ต่อมาวันที่ 12 ต.ค. ตนได้แจ้งเรื่องร้องเรียนไปที่โรงพยาบาล วันที่ 17 ต.ค. ทางโรงพยาบาลให้ตนไปพบเจ้าหน้าที่และนิติกร แต่ก็เป็นเพียงการสอบถามรายละเอียดเท่านั้น จนถึงตอนนี้ทางโรงพยาบาลก็ยังไม่มีคำขอโทษ หรือแจ้งว่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ตนกับสามีจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย

 

ด้านนางปวีณา กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับโรงพยาบาลใหญ่ที่ได้ดำเนินการมาเป็นเวลานานแล้ว ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียลูกน้อยในครรภ์ของครอบครัวน.ส.มลด้วย ตามที่น.ส.มลเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อผิดพลาดของโรงพยาบาลน่าจะเกิดมาจากการที่โรงพยาบาลมีนโยบายไม่เรียกชื่อคนไข้ เรียกแต่หมายเลข และทางโรงพยาบาลได้สลับหมายเลขคนไข้ ทำให้ใบตรวจเลือดคนไข้สลับกัน จึงเป็นสาเหตุทำให้น.ส.มล สูญเสียลูกน้อยในครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เศร้าอย่างยิ่ง และต้องไม่ให้เกิดเหตุขึ้นกับครอบครัวใครอีกต่อไป เนื่องจาก รพ.แห่งนี้สังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งตนจะประสานไปยังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบกับครอบครัวคนไข้รายนี้ และปรับปรุงแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกต่อไป และตนจะติดตามผลการดำเนินการร่วมกับกรุงเทพมหานครต่อไป ---017

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'หมอธีระ\'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย 'หมอธีระ'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย
  • ‘สธ.’ปลื้ม!!! ปชช.พึงพอใจนโยบาย\'30 บาทรักษาทุกที่\'อันดับหนึ่ง ‘สธ.’ปลื้ม!!! ปชช.พึงพอใจนโยบาย'30 บาทรักษาทุกที่'อันดับหนึ่ง
  • 8 พฤษภาคม วันกาชาดโลก ยืนหยัดเคียงข้างมนุษยชาติ บริจาคโลหิต ช่วยชีวิตผู้ป่วย 8 พฤษภาคม วันกาชาดโลก ยืนหยัดเคียงข้างมนุษยชาติ บริจาคโลหิต ช่วยชีวิตผู้ป่วย
  • สสส.ลุยแก้ปัญหาสุขภาพฟัน-ช่องปากวัยทำงาน สสส.ลุยแก้ปัญหาสุขภาพฟัน-ช่องปากวัยทำงาน
  • \'วราวุธ\' สั่ง พม. เร่งอัพเดต แผนที่ความเสี่ยงภัย-พิกัดคนกลุ่มเปราะบางพื้นที่ \'เชียงราย\' 'วราวุธ' สั่ง พม. เร่งอัพเดต แผนที่ความเสี่ยงภัย-พิกัดคนกลุ่มเปราะบางพื้นที่ 'เชียงราย'
  • \'กรมฝนหลวง\' เร่งปฏิบัติการฝนเทียม รับมือภัยแล้งทั่วประเทศ 'กรมฝนหลวง' เร่งปฏิบัติการฝนเทียม รับมือภัยแล้งทั่วประเทศ
  •  

Breaking News

เศร้า! ช้างป่ากุยบุรีขาเจ็บล้มแล้ว สะเทือนใจผลชันสูตร

ศรีสะเกษดัน 'ส้มโอบ้านตาด' เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน จัดงานใหญ่ 14-16 พ.ค.

ประเดิมคนแรก! 'กกต.-ดีเอสไอ'แปะหมายหน้าประตูห้อง'สว.อลงกต'

ชาวนาบุรีรัมย์ถือฤกษ์ดี ‘วันพืชมงคล’ เริ่มไถนาเพาะปลูกข้าว-เชื่อผลผลิตเจริญงอกงามดี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved