‘ศาลจังหวัดมุกดาหาร’นัดชี้ชะตาใหม่‘ลุงพล-ป้าแต๋น’คดีการตาย‘น้องชมพู่’ 20 ธ.ค.นี้ เหตุศาลยังไม่ได้รับสำนวนคำพิพากษาคืนจากสำนักงานอธิบดีศาลภาค 4 ด้านโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยันเลื่อนอ่านไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษา เพราะสืบพยานเสร็จหมดแล้ว ฝ่ายใดไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษายื่นอุทธรณ์ได้ใน 30 วัน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ หมายเลขดำ อ.1013/2564 ที่พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ภรรยา ร่วมกันเป็นจำเลยที่1-2 กรณีการเสียชีวิตของน้องชมพู่
วันนี้มีโจทก์ โจทก์ร่วมทั้งสอง ทนายโจทก์ร่วมทั้งสอง จำเลยทั้งสอง และทนายจำเลย ทั้งสอง มาศาล ตามที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาเดิมในวันนี้ เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างสำนักงานอธิบดี ผู้พิพากษาภาค 4 ตรวจสำนวนและร่างคำพิพากษา ตามระเบียบฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการรายงานคดีในศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ต่อประธานศาลฎีกา ซึ่งศาลส่งสำนวนและร่างคำพิพากษาไปตรวจตามระเบียบดังกล่าว ซึ่งการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาคว่าด้วยการรายงานคดีและ พ.ศ. 2562 ข้อ 2ก. (3) ประเภทคดีมีที่อัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี ขึ้นไป
แต่ร่างคำพิพากษาและสำนวนยังไม่ กลับมาจากสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ศาลจึงไม่อาจอ่านคำพิพากษาในวันนี้ได้ เห็นควร ให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 ธันวาคม นี้ เวลา10.00 น.ตามที่ทุกฝ่ายมีวันว่างตรงกัน
ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีศาลจังหวัดมุกดาหารเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา ว่า ทราบจากทางสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร ว่า สาเหตุที่ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาจากวันที่ 31 ตุลาคม ออกไปก่อนนั้น เนื่องจากเป็นคดีสำคัญและในทางปฏิบัติของศาลยุติธรรม ศาลก็จะส่งสำนวนคดีพร้อมคำพิพากษาไปที่สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจตามระเบียบ ก่อนที่จะส่งกลับมาให้กับศาลจังหวัดมุกดาหารอ่านคำพิพากษาต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสำนวนและตรวจคำพิพากษา ของอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 จึงมีเหตุต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป
“ยืนยันว่าไม่ส่งผลต่อรูปคดี เพราะกระบวนการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจังหวัดมุกดาหารก็ได้ทำคำพิพากษาตามพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงและกฎหมายส่งให้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ตามระเบียบขั้นตอนของราชการศาล” นายประยุทธ กล่าว
ต่อข้อถามว่า ลุงพล จำเลยในคดีจะมีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่ นายประยุทธ ระบุว่า ไม่มี เพราะคดีนี้สืบพยานเสร็จสิ้นแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายโจทก์หรือฝ่ายจำเลยก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาพยานหลักฐานไปเพิ่มเติมแล้ว ทุกอย่างอยู่ระหว่างต้องรอศาลนัดอ่านคำพิพากษาเท่านั้น
นายประยุทธ ระบุว่า ส่วนเหตุที่ต้องส่งสำนวนและคำพิพากษาให้กับอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 พิจารณาตรวจสอบ ก็เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งเป็นปกติที่ศาลยุติธรรมจะรักษามาตรฐาน เพราะเป็นคดีสำคัญ เช่น การเสียชีวิตของน้องชมพู่ ผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก สื่อมวลชนและสังคมเฝ้าติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง คดีนี้สำนักงานอัยการสูงสุดก็ให้ความสำคัญ โดยมีการตั้งคณะทำงาน ส่งอัยการจากสำนักงานอัยการภาค 4 ร่วมกับสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร ในการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ตรวจสำนวน ร่างคำฟ้อง และสืบพยานจนเสร็จสิ้น
“ขอให้รอฟังคำพิพากษาของศาล ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไร หากคู่ความในคดีไม่เห็นพ้อง ย่อมที่จะสามารถอุทธรณ์คำพิพากษานั้นได้ภายใน 1 เดือน หากอุทธรณ์ตัดสินแล้วยังไม่เห็นพ้องอีก ก็สามารถยื่นฎีกาต่ออีกได้” นายประยุทธ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี