วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สปสช.เผยทิศทางการใช้ข้อมูลสุขภาพในอนาคต เน้นพัฒนาให้ทุกกระบวนการเป็นอัตโนมัติ

สปสช.เผยทิศทางการใช้ข้อมูลสุขภาพในอนาคต เน้นพัฒนาให้ทุกกระบวนการเป็นอัตโนมัติ

วันพุธ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566, 13.20 น.
Tag : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช. สุขภาพ
  •  

เลขาธิการ สปสช.เผยทิศทางการใช้ข้อมูลสุขภาพในอนาคต เน้นพัฒนาให้ทุกกระบวนการเป็นอัตโนมัติทั้งการใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับบริการ การขึ้นทะเบียน ไปจนถึงการเบิกจ่ายเงินแก่หน่วยบริการ พร้อมประกาศยินดีเชื่อมต่อข้อมูลกับทุกหน่วยงานเพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบสุขภาพในอนาคต

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานประชุมวิชาการประกันสังคม ปี 2566 เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ การประยุกต์ใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อการพัฒนางานบริการภาครัฐที่เป็นเลิศ โดยระบุว่า ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานอย่างมาก การขับเคลื่อนนโยบายต้องใช้ข้อมูล ในระหว่างการดำเนินงานก็ต้องใช้ข้อมูล การจะทำให้องค์กรยั่งยืนก็ควรใช้ข้อมูลในการทำงานด้วย สปสช. ได้ปรับโครงสร้างภายในให้มีหน่วยสำหรับใช้งานข้อมูล เรียกว่าหน่วย Monitor and Evaluation หรือการกำกับติดตามและประเมินผลตั้งแต่ระดับส่วนกลางไปถึงระดับเขต เพราะในยุคต่อไปถ้าไม่มีการใช้ข้อมูล ความสามารถในการแข่งขันจะลดลงอย่างมากมาก


นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ในการนำข้อมูลมาใช้ ช่วงโควิด-19 สปสช. มีบทเรียนอย่างหนึ่งว่านอกจากข้อมูลเชิงปริมาณแล้ว ข้อมูลเชิงคุณภาพจะช่วยทำให้เข้าใจความคิดของกลุ่มเป้าหมายที่กำลังดูแลอยู่ เช่น คิดว่าจะแจก ATK ให้ประชาชนมารับ แต่ความคิดเห็นของประชาชนคือไม่มารับแน่เพราะเสียเวลาทำงานหาเงิน ดังนั้น ก่อนจะใช้ข้อมูลต้องศึกษาพฤติกรรมของประชาชนกลุ่มเป้าหมายก่อน

อีกประการคือเวลาใช้ข้อมูลในการทำงาน อย่าดูแค่ข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาเพราะไม่บอกถึงข้อมูลในอนาคต แต่ให้ดูทฤษฎีต่างๆ ว่าข้อมูลกำลังบ่งบอกถึงอะไร เช่น มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ประโยชน์จากการใช้สิทธิบัตรทองในการรักษาพยาบาล เช่น ไม่อยากมาโรงพยาบาลเพราะรู้สึกยุ่งยากวุ่นวาย และทฤษฎีบอกว่าต้องดูแลให้คนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น สปสช. จึงหาวิธีให้จัดบริการให้คนกลุ่มนี้ได้ใช้ประโยชน์บ้าง เช่น ให้ไปที่ร้านยาหรือคลินิกใกล้บ้าน ทำเทเลเมดิซีน หรือการตรวจแล็บใกล้บ้าน เป็นต้น

ในส่วนของข้อมูลเชิงปริมาณ นพ.จเด็จ กล่าวว่า ทั้ง สปสช. และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีข้อมูลมหาศาล ความท้าทายอยู่ที่จะใช้ข้อมูลในการทำงานอย่างไร อย่างเช่น สปสช. มีผู้ไปรับบริการปีละ 162 ล้านครั้ง มีการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการปีละ 190 ล้านครั้ง มีการรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคปีละ 243 ล้านครั้ง ผู้ป่วยใน 7 ล้านครั้ง มีการโทรเข้า Call center อีกปีละ 2 ล้านสาย/ปี ข้อมูลเหล่านี้จะเอามาช่วยวางแผนหรือประเมินว่านโยบายที่กำหนดออกไปดีหรือไม่ดีอย่างไร เช่น เอามาจัดทำงบประมาณ ซึ่งต้องเอาข้อมูลมาคำนวนว่าในปีต่อไปจะมีผู้ได้รับบริการเท่าใดและต้องใช้งบประมาณเท่าใด

นอกจากนี้ ยังนำมาวิเคราะห์ข้อมูลการเจ็บป่วยของประชาชน ถ้ามีผู้มารับบริการมากสะท้อนว่าเจ็บป่วยมากเกินไป แต่ถ้ามาใช้บริการน้อยก็อาจสะท้อนว่าประชาชนยังเข้าไม่ถึงบริการ อย่างในพื้นที่ กทม. อัตราการใช้บริการต่ำกว่าต่างจังหวัด 50% เพราะลำบากในการเข้ารับบริการ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน สปสช. ยังใช้ข้อมูลในการติดตามโรคสำคัญๆที่เป็นปัญหาสาธารณสุข เช่น โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โรคไต ผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ฯลฯ ซึ่งข้อมูลจะบอกว่าควรกำหนดนโยบายไปในทิศทางไหน ต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติม จะเพิ่มการใช้งานเครื่องล้างไตอัตโนมัติในกลุ่มที่ต้องทำงานในเวลากลางวันหรือไม่ การติดตามดูแลผู้ป่วยจิตเวชในชุมชนจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หรือจะต้องเพิ่มทักษะใหม่ (Up skill/Re-skill) ในกลุ่ม Care giver หรือผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยอย่างไรเพื่อรองรับจำนวนผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียง เป็นต้น ขณะเดียวกัน นอกจากการใช้ข้อมูลเพื่อการดำเนินงานแล้ว การติดตามข้อมูลความพึงพอใจอย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญในการรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและนำไปปรับปรุงนโยบายหรือบริการต่อไปในอนาคต

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน สปสช. มีนโยบายคืนข้อมูลแก่ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ โดยทุกภาคส่วนสามารถเข้าไปดูใน Dashboard เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ และทิศทางการออกแบบระบบข้อมูลกำลังเปลี่ยนไป ต่อไป สปสช. จะพยายามไม่สร้างข้อมูลเองหรือขอข้อมูลจำนวนมากจากหน่วยบริการ แต่จะเชื่อมต่อข้อมูลกับทุกคนและใช้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเพื่อการเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการ เช่น การขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบบัตรทอง ปัจจุบันเป็น One stop service ไม่จำเป็นต้องหอบเอกสารมา สปสช. ได้เชื่อมข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสามารถดึงข้อมูลมาใช้ประกอบการพิจารณาขึ้นทะเบียนได้เลยทันที หรือ การเบิกจ่ายเงิน ก็พยายามลดจำนวนวันจากเดิม 1 เดือน เป็น 15 วันในปัจจุบัน และในอนาคตจะพยายามลดให้เหลือ 3 วัน/ครั้ง และที่ดีที่สุดคือวันต่อวัน

“ในอนาคต สปสช. จะพยายามทำทุกอย่างให้เป็นอัตโนมัติ เช่น เลิกให้โรงพยาบาลส่งข้อมูลมาเบิกจ่าย แต่จะไปดึงข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขที่มีการบูรณาการไว้แล้วมาใช้เบิกจ่าย ประชาชนแค่ใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการรับบริการได้ทุกที่ โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบหลังบ้าน ขณะเดียวกันก็ยินดีเชื่อมต่อข้อมูลกับทุกๆหน่วยงานในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพในอนาคต” นพ.จเด็จ กล่าว

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'สสส.-สกร.\'ดึงบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน\'เฉลิมราชกุมารี\'30 แห่ง ร่วมสร้างพื้นที่เติมสุข 'สสส.-สกร.'ดึงบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน'เฉลิมราชกุมารี'30 แห่ง ร่วมสร้างพื้นที่เติมสุข
  • บึงกาฬออกบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดเคลื่อนที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข แก่ประชาชน บึงกาฬออกบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดเคลื่อนที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข แก่ประชาชน
  • \'สมศักดิ์\'เผย\'ประกันสังคม-ข้าราชการ\' ตอบมาแล้วไม่พร้อมร่วม\'บัตรทอง 30 บาท 'สมศักดิ์'เผย'ประกันสังคม-ข้าราชการ' ตอบมาแล้วไม่พร้อมร่วม'บัตรทอง 30 บาท
  • ชงแยก‘ประกันสังคม’พ้นระบบราชการ หนุน‘สปสช.’ดูแลรักษาพยาบาลผู้ประกันตน ชงแยก‘ประกันสังคม’พ้นระบบราชการ หนุน‘สปสช.’ดูแลรักษาพยาบาลผู้ประกันตน
  • ฝุ่นPM2.5กระทบสุขภาพชัดเจน! วงเสวนาย้ำต้องแก้จริงจัง แต่การปรับเปลี่ยนต้องเข้าใจวิถีชีวิตคน ฝุ่นPM2.5กระทบสุขภาพชัดเจน! วงเสวนาย้ำต้องแก้จริงจัง แต่การปรับเปลี่ยนต้องเข้าใจวิถีชีวิตคน
  • ศธ.ห่วงใย! แม้ฝุ่น PM 2.5 เริ่มเบาบางแต่อย่าเพิ่งวางใจ ศธ.ห่วงใย! แม้ฝุ่น PM 2.5 เริ่มเบาบางแต่อย่าเพิ่งวางใจ
  •  

Breaking News

ปิดหีบเลือกตั้งเทศบาล!! 'กกต.'เผยพบฉีกบัตร 6 ราย ‘นนทบุรี’งามหน้า จับหัวคะแนนพร้อมโพย

(คลิป) เจ๊ปอง เผย! 'ตั๋วกาสิโน 10 ใบ' ลอเรนซ์โอ-กอร์ดอน ถัง คนสนิทตระกูลชินวัตร

คาดปมหึงหวง! หนุ่มยิงเมีย-ลูก 5 ขวบดับก่อนจบชีวิตตัวเอง

ใหญ่คับพื้นที่!! สจ.กร่างสั่งลูกน้อง 7 คนรุมตื้บ ตร.หน่วยเลือกตั้ง หลังถูกเตือนถ่ายภาพในคูหา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved