เศร้า!แรงงานไทย
ตายเพิ่มอีก2ยอดรวม34ศพ
โดนจับอีก1/รบ.วอนกลับบ้าน
เลขาธิการสหประชาชาติ โวยกองทัพอิสราเอล โจมตีขบวนรถพยาบาลในฉนวนกาซาในวันศุกร์ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ประกาศช่วยกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ด้านชาวไทยมุสลิมกว่า 3,000 คน ใน จ.ปัตตานี ร่วมละหมาดฮายัต เพื่อขอพรต่อองค์อัลเลาะห์ ประทานพรให้กับพี่น้องชาวปาเลสไตน์ปลอดภัยจากสงคราม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน อ้างคำแถลงของ นายอันโตนิโอ กูแตร์เรซ เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวในแถลงการณ์ว่า เขารู้สึกตกใจและหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่งจากกรณีที่กองกำลังของอิสราเอลโจมตขบวนรถพยาบาลในฉนวนกาซาในวันศุกร์ พร้อมกับระบุว่า ความขัดแย้งที่เกิดดขึ้นจะต้องหยุดลงได้แล้ว
สภาเสี้ยววงเดือนแดงของปาเลสไตน์กล่าวว่า รถพยาบาลคันหนึ่งถูกยิงโจมตีด้วยขีปนาวุธที่ยิงมาจากกองกำลังอิสราเอล ขณะที่อยู่ห่างเพียงนิดเดียวจากประตูทางเข้าของโรงพยาลาลในเมืองกาซาซิตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 60 คน นายกูแตร์เรซ กล่าวว่า เขาตกใจมากที่ได้รับรายงานเรื่องการโจมตีขบวนรถพยายาลในฉนวนกาซา ด้านนอกโรงพยาบาลอัล ชิฟา ภาพถ่ายของศพผู้เสียชีวิตบนถนนหน้าโรงพยายาลทำให้เกิดความรู้สึกตระหนกตกใจเป็นอย่างยิ่ง เลขาธิการยูเอ็นกล่าวยืนยันว่า เขาไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสเริ่มการโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่เวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือนแล้ว พลเรือนในกาซา ที่มีทั้งเด็กและสตรี ถูกปิดล้อม ปิดกั้นความช่วยเหลือ สังหาร และบ้านเรือนถูกทิ้งระเบิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องหยุดได้แล้ว เขายังเรียกร้องอีกครั้งให้มีการหยุดยิงและปล่อยตัวตัวประกันที่กลุ่มฮามาสจับตัวเอาไว้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ฮามาสบุกเข้าไปในดินแดนอิสราเอลและโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่
“ฮิซบอลเลาะห์”ช่วยฮามาส
ด้านผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน เตือนการสู้รบอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส จะลุกลามสู่ระดับภูมิภาคในตะวันออกกลาง ขอบคุณกบฏฮูธี และกองกำลังชีอะต์ ที่ร่วมต่อสู้
ไซอิด ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน แถลงผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรก ตั้งแต่การสู้รบอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ปะทุขึ้น โดยเตือนถึงความเป็นไปได้ที่เหตุขัดแย้งจะลุกลามสู่ระดับภูมิภาคในตะวันออกกลาง และกล่าวโทษสหรัฐ มีส่วนทำให้เกิดการสู้รบในฉนวนกาซ่า
ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ยังกล่าวขอบคุณกลุ่มกองกำลังพันธมิตรของฮิซบอลเลาะห์ คือ กบฏฮูธี ในเยเมน และกองกำลังชีอะต์ในอิรัก ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมต่อสู้กับสหรัฐฯ และอิสราเอล และว่าการรุกโจมตีของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทำให้อิสราเอลต้องตรึงกำลังทหาร และอาวุธไว้ใกล้พรมแดนเลบานอน แทนที่จะเป็นเขตฉนวนกาซ่า และเวสต์แบงค์.-
อิสราเอลบีบปล่อยตัวประกัน
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยืนยันจะไม่มีการทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา จนกว่าตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงจะไม่มีการทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา จนกว่าตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลแถลงไม่หยุดยิงกับกลุ่มฮามาส ขณะการสู้รบของอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 และหลังพบหารือกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่กรุงเทลอาวีฟ โดยสหรัฐเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในฉนวนกาซา เพื่อเปิดทางให้มีการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าพื้นที่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่นายเนทันยาฮูปฏิเสธ
สหรัฐบินโดรนเหนือกาซา
ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐ แถลงยืนยันสหรัฐบินโดรนในพื้นที่เขตฉนวนกาซา ตั้งแต่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล เพื่อเก็บข้อมูลและสนับสนุนภารกิจค้นหา-ช่วยเหลือตัวประกัน
กระทรวงกลาโหม หรือ เพนตากอน ของสหรัฐ แถลงยืนยันเป็นครั้งแรกแล้วว่าสหรัฐได้บินอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในพื้นที่เขตฉนวนกาซา ตั้งแต่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นการบินโดรนช่วยเก็บข้อมูลและสนับสนุนภารกิจค้นหาช่วยเหลือตัวประกัน
ทั้งนี้ หลังจากมีการพบโดรนเอ็มคิว-9 เรียเพอร์ส บินอยู่เหนือเขตฉนวนกาซา อีกทั้งมีสื่อและแหล่งข่าวในสหรัฐเปิดเผยเรื่องดังกล่าวเมื่อ 1 วันก่อน โดรนเอ็มคิว-9 สามารถบินได้ครั้งละนานถึง 20 ชั่วโมง โดยหน่วยปฏิบัติการรบพิเศษของสหรัฐเคยใช้ในอัฟกานิสถาน
“อิเหนา”ช่วยปาเลสไตน์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย . ว่า ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย เป็นประธานในการส่งเครื่องบินลำเลียงซี-130 สองลำ และเที่ยวบินคาร์โกซึ่งใช้เครื่องบินของแอร์บัส เดินทางจากท่าอากาศยานกองทัพอากาศ ฮาลิม เปอร์ดานากุสุมา ในกรุงจาการ์ตา ไปยังอียิปต์ เพื่อส่งมอบสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจำนวน 51.5 ตัน ให้แก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งเดือดร้อนอย่างหนัก จากสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส
วิโดโดกล่าวว่า การส่งมอบความช่วยเหลือครั้งนี้ ซึ่งเป็นรอบแรก คือรูปแบบการแสดงออกซึ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่มีต่อชาวปาเลสไตน์ และความวิตกกังวลของชาวอินโดนีเซีย ที่มีต่อสถานการณ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับมนุษยชาติ และเรียกร้อง “โศกนาฏกรรมทางมนุษยธรรม” ที่ยังคงเกิดขึ้นในฉนวนกาซา “ต้องยุติให้เร็วที่สุด”
ทั้งนี้ อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศมุสลิมขนาดใหญ่ที่สุดของโลก มีนโยบายสนับสนุนปาเลสไตน์ และไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล จุดยืนดังกล่าวของอินโดนีเซีย เป็นแบบเดียวกับมาเลเซีย และบรูไน ซึ่งอยู่ร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.
ขอให้ปาเลสไตน์ปลอดภัย
ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ชาวไทยมุสลิมกว่า 3,000 คน เดินทางมาละหมาดฮายัต เพื่อขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้า เอกองค์อัลเลาะห์ ประทานพรให้กับพี่น้องชาวปาเลสไตน์เกิดความสงบสุข ปลอดภัยจากสงคราม หลังจากประชาชนต้องเผชิญภัยสงคราม การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งเข้าสู่วันที่ 27 แต่สถานการณ์ยังลุกลามและทวีความรุนแรงขึ้น มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สำหรับการละหมาดฮายัตครั้งนี้ มีนายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เป็นอิหม่ามในการละหมาด และมีชาวไทยมุสลิมมาร่วมละหมาดจำนวนมากจนล้นออกมานอกมัสยิด
85แรงงานกลับถึงบ้าน
วันเดียวกัน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ต้อนรับและดูแลอำนวยความสะดวกแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลและแจ้งความประสงค์เดินทางกลับถึงประเทศไทย จำนวน 85 คน โดยเดินทางกลับมาด้วยสายการบิน Arkia Israeli Airlines ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เวลา 08.55 น. โดยมี นางสาวกาญจนา พลูแก้ว รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นายสุทธิพงษ์ โกศลวิริยะกิจ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายภัทรวุธ เภอแสละ ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางาน พร้อมด้วย ผู้บริหารข้าราชการกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานราชการต่างๆ ร่วมต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกและแนะนำสิทธิในการช่วยเหลือเยียวยา ณ บริเวณชั้น 2 ประตู 10 อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้ภายหลังที่ทางสถานทูตฯ ได้ปิดรับแจ้งความประสงค์ของแรงงานไทยในอิสราเอลผ่านระบบออนไลน์ไปแล้ว แต่ในส่วนของการให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น กระทรวงแรงงานยังมีเจ้าหน้าที่ไปตั้งโต๊ะบริการให้คำแนะนำการยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศอยู่เหมือนเดิม ซึ่งขณะนี้มีแรงงานเดินทางกลับถึงไทยแล้ว 54 เที่ยวบิน ยอดรวมทั้งสิ้นจำนวน 8,813 คน
เบิกเงินค่าเดินทางได้
ด้าน นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของแรงงานไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยในขณะนี้ ยังสามารถซื้อตั๋วเพื่อเดินทางกลับกับเที่ยวบินพาณิชย์ด้วยตนเองได้ ส่วนค่าใช้จ่ายการเดินทางที่เกิดขึ้นในอิสราเอลนั้น แรงงานไทยสามารถเก็บใบเสร็จค่าตั๋วเครื่องบินไว้เป็นหลักฐานการเดินทาง เพื่อนำไปยื่นคำร้องขอเบิกค่าเดินทางกลับจากอิสราเอลที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล บริเวณชั้น 1 อาคารกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพ และสำนักงานแรงงานจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศได้ โดยกระทรวงแรงงานจะรวบรวมคำร้องทุกสัปดาห์ เพื่อส่งให้กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้พิจารณา ซึ่งแรงงานจะได้รับเงินค่าเดินทางผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อแรงงานไทยที่ได้แจ้งไว้ ทั้งนี้ สามารถติดตามการยื่นคำขอได้ที่ Hot Line Call Center กรมการกงสุล โทร.02-5728442
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี