วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘คารม’เผย‘ครม.’รับทราบมาตรการด้านความปลอดภัย‘รถรับ-ส่งนักเรียน’

‘คารม’เผย‘ครม.’รับทราบมาตรการด้านความปลอดภัย‘รถรับ-ส่งนักเรียน’

วันอังคาร ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566, 15.33 น.
Tag : คารม ครม. ความปลอดภัย รถรับส่งนักเรียน
  •  

‘ครม.’รับทราบมาตรการด้านความปลอดภัยของ‘รถรับ-ส่งนักเรียน’ มีคณะทำงานทุกจังหวัดจัดทำฐานข้อมูล

7 พฤศจิกายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบรายงานกรณีที่หน่วยงานของรัฐ ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วน ตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เรื่อง มาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียน


นายคารมกล่าวว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนนและเครือข่ายองค์กรของผู้บริโภคพบว่า ในปี 2565 มีอุบัติเหตุทางถนนและความไม่ปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียนมากถึง 30 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 274 ราย เสียชีวิต 2 ราย และมีปัญหาการลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถรับ-ส่งนักเรียน

สาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่มาจากสภาพตัวรถที่ชำรุดทรุดโทรม ขาดการตรวจสภาพรถอย่างต่อเนื่อง และรถรับ-ส่งนักเรียนจำนวนมากไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นรถรับ-ส่งนักเรียนกับกรมการขนส่งทางบกเนื่องจากรถรับ-ส่งนักเรียนจะต้องได้รับการรับรองจากโรงเรียนหรือสถานศึกษาทุกภาคการศึกษา ซึ่งเป็นเงื่อนไขการจดทะเบียนของกรมการขนส่งทางบก

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกพบว่า มีรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์สาธารณะที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นรถรับ-ส่งนักเรียนทั่วประเทศเพียง 3,342 คัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566) ทำให้ไม่สามารถจัดทำฐานข้อมูลที่แท้จริงได้ และไม่มีระบบการบริหารจัดการและขาดการติดตามกำกับที่มีประสิทธิภาพ

นายคารม กล่าวว่า เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดแนวทาง เรื่อง มาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียน สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

+ กระทรวงมหาดไทย กำหนดให้มีมาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียน เป็นอีกประเด็นหนึ่งของนโยบายระดับชาติ และจัดตั้งคณะทำงานภายใต้กลไกคณะอนุกรรมการศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนของแต่ละจังหวัดเพื่อพิจารณาแนวทางการจัดทำแผนความปลอดภัยและแก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับการพัฒนาระบบจัดการรถรับ-ส่งนักเรียน ให้มีความปลอดภัยอย่างยั่งยืน กำหนดให้มีแผนยุทธศาสตร์หรือคณะทำงานด้านความปลอดภัยรถรับ-ส่งนักเรียนในทุกจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ควบคุม ตรวจสอบ กำกับดูแล และให้คำแนะนำการจัดทำมาตรการความปลอดภัยทางถนนในกลุ่มเด็กและเยาวชน และความปลอดภัยในการเดินทางด้วยรถรับ-ส่งนักเรียน

เฝ้าระวังความเสี่ยง เก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุ สนับสนุนการออกมาตรการนโยบายระดับจังหวัด เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนงานของเครือข่าย โดยกำหนดให้มีโครงสร้างการทำงานแบบมีส่วนร่วมเพื่อบูรณาการการจัดทำแผนความปลอดภัยรถรับ-ส่งนักเรียนในทุกจังหวัด สนับสนุนการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยรถรับ-ส่งนักเรียน รวมถึงด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ให้การสนับสนุนในการดำเนินโครงการให้คำปรึกษาเชิงวิชาการ

กำหนดให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) จังหวัดมีคณะทำงานด้านความปลอดภัยรถรับ-ส่งนักเรียนในทุกจังหวัดและมีการกำหนดวาระการรายงานต่อเนื่อง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของหน่วยงานท้องถิ่น นักวิชาการ และผู้ประกอบการ

+ กระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้โรงเรียนมีการจัดทำระบบฐานข้อมูลรถรับ-ส่งนักเรียน กำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานเรื่องความปลอดภัยการเดินทางของนักเรียนโดยเฉพาะรถรับ-ส่งนักเรียน และจัดทำทะเบียนข้อมูลรถรับ-ส่งนักเรียนแต่ละคัน เช่น ประวัติผู้ขับรถรับ-ส่งนักเรียนเลขทะเบียนรถ เส้นทางการเดินรถ รายชื่อนักเรียนประจำรถ และชื่อผู้ควบคุมรถเพื่อเป็นระบบฐานข้อมูลรถรับ-ส่งนักเรียนที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างขนส่งจังหวัด โรงเรียน และผู้ประกอบการรถรับ-ส่งนักเรียน การกำหนด รูปแบบรถรับ-ส่งนักเรียนที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่

กำหนดตัวชี้วัดและการประเมินโรงเรียนเกี่ยวกับการเดินทางไปกลับโรงเรียนที่ปลอดภัยและจัดทำคู่มือหรือแผนการดำเนินงานด้านการจัดการรถรับ-ส่งนักเรียนพร้อมทั้งทบทวนและแก้ไขระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการควบคุมดูแลการใช้รถโรงเรียน พ.ศ. 2562 เพื่อกำหนดให้โรงเรียน มีหน้าที่ดูแลและกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการระบบรถรับ-ส่งนักเรียนที่ปลอดภัย และบรรจุแผนงานจัดการรถรับ-ส่งนักเรียนเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของโรงเรียนหรือสถานศึกษา การประเมินและติดตามผลเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ด้านนโยบายเพิ่มมาตรการกำกับกรณีโรงเรียนหรือสถานศึกษาละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง

กำหนดมาตรการให้โรงเรียนและสถานศึกษาทุกแห่ง มีบทบาทและอำนาจหน้าที่ในการควบคุม ตรวจสอบ และกำกับดูแลมาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียน การออกหนังสือรับรองการเป็นรถรับ-ส่งนักเรียน และการจัดทำแผนงานด้านความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียนตลอดภาคการศึกษา และกำหนดให้โรงเรียนสร้างเครือข่ายรถรับ-ส่งนักเรียนหรือด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม 3 ภาคีระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง และชมรมผู้ประกอบการรถรับ-ส่งนักเรียนในพื้นที่  พัฒนาหลักสูตรชุดความรู้เกี่ยวกับแนวทางการจัดการระบบรถรับ-ส่งนักเรียนปลอดภัยให้กับบุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษาครู อาจารย์ นักเรียน ผู้ขับรถรับ-ส่งนักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครองและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีองค์ความรู้และหลักวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการรับผิดชอบดูแลการจัดการความปลอดภัยในการเดินทางของนักเรียนด้วยรถรับ-ส่งนักเรียน

ขอรับการสนับสนุนจากสำนักงบประมาณในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นค่าเดินทาง (รถรับ-ส่งนักเรียน) ให้กับนักเรียนยากไร้ ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาให้กับนักเรียนทุกคนให้มีมาตรฐานและคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ในระหว่างการพิจารณาดำเนินการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวเห็นควรให้โรงเรียนในสังกัด ศธ. อปท. กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานการส่งเสริมการศึกษาเอกชนและกรุงเทพมหานครสามารถขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาโรงเรียนสำหรับเด็กยากไร้ได้จากสำนักงานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เพื่อเป็นมาตรการป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษา

กำหนดให้ความปลอดภัยของนักเรียนในการเดินทางด้วยรถรับ-ส่งนักเรียนเป็นวาระของ ศธ. และของทุกโรงเรียน โดยให้ผู้บริหารโรงเรียนเป็นจุดจัดการเครือข่ายรถรับ-ส่งนักเรียนและแต่งตั้งครูงานกิจการนักเรียนทำหน้าที่เป็นครูที่ดูแลรถรับ-ส่งนักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่า 1 คน และกำหนดให้รูปแบบเครือข่ายรถรับ-ส่งนักเรียนเป็นภารกิจหนึ่งของงานกิจการนักเรียน

+ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมมือกับ ศธ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันในการเดินทางโดยรถรับ-ส่งนักเรียนและสนับสนุนให้เกิดระบบบริหารจัดการรถรับ-ส่งนักเรียนอัจฉริยะต้นแบบ ที่เหมาะสมตามบริบท์ของโรงเรียน ผู้ปกครอง พร้อมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลในการเชื่อมต่อการบูรณาการของการรับ-ส่งนักเรียนในพื้นที่ที่สำคัญตามโครงการ "รถโรงเรียนรุ่นใหม่เด็กปลอดภัย (Smart School Bus)" b

ทั้งนี้ หากระบบ Smart School Bus มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนจะทำให้เกิดระบบ Big Data Platfom และ Smart School Bus Intelligent Operation Center ในแต่ละพื้นที่ โดยให้กำกับ, ติดตาม ประเมินผลการดำเนินโครงการ Smart School Bus และขับเคลื่อนโครงการให้สัมฤทธิ์ผสเพื่อให้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้รับการพัฒนาสามารถนำมาใช้เป็นมาตรการด้านความปลอดภัยของรถรับ-ส่งนักเรียนได้มีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขปัญหาการลืมเด็กไว้ในรถได้

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'พิพัฒน์\'จัดให้! มอบทุนการศึกษาให้ลูกหลานแรงงานทั่วประเทศกว่า 10,000 คน 'พิพัฒน์'จัดให้! มอบทุนการศึกษาให้ลูกหลานแรงงานทั่วประเทศกว่า 10,000 คน
  • รมว.แรงงาน’ กำชับจนท.ความปลอดภัย ร่วมสร้างเกราะป้องกันสถานประกอบการ ดูแลคนทำงาน รมว.แรงงาน’ กำชับจนท.ความปลอดภัย ร่วมสร้างเกราะป้องกันสถานประกอบการ ดูแลคนทำงาน
  • \'แพทย์ชนบท\'ขอ‘ครม.’ชุดใหม่ให้ความสำคัญพัฒนาโรงพยาบาลชุมชน 'แพทย์ชนบท'ขอ‘ครม.’ชุดใหม่ให้ความสำคัญพัฒนาโรงพยาบาลชุมชน
  • ครม.อนุมัติงบยกระดับรพ.ในนครปฐม-สระแก้ว นายกฯสั่ง สธ.เพิ่มจำนวนครูสอนพยาบาล ครม.อนุมัติงบยกระดับรพ.ในนครปฐม-สระแก้ว นายกฯสั่ง สธ.เพิ่มจำนวนครูสอนพยาบาล
  • \'ครม.\'ไฟเขียว 2.9 พันล้านหนุนอาหารกลางวันเด็กม.1-3 รร.ขยายโอกาส 'ครม.'ไฟเขียว 2.9 พันล้านหนุนอาหารกลางวันเด็กม.1-3 รร.ขยายโอกาส
  • ‘พม.’ขอปชช.‘ภาคเหนือ’งดทำกิจกรรมกลางแจ้งเลี่ยงฝุ่นควัน ชงร่างแก้โครงสร้างประชากรเข้าครม. ‘พม.’ขอปชช.‘ภาคเหนือ’งดทำกิจกรรมกลางแจ้งเลี่ยงฝุ่นควัน ชงร่างแก้โครงสร้างประชากรเข้าครม.
  •  

Breaking News

'ไพบูลย์'เชื่อมติแพทยสภา เป็นหลักฐานสําคัญ ชี้ชะตา'ทักษิณ' 13 มิ.ย.วันศาลไต่สวน

ลอตแรกครบแล้ว! 'กกต.-DSI'ติดหมายเรียก'สว.พิศูจน์-สว.พิบูลย์อัฑฒ์'

มัลดีฟส์ลุกเป็นไฟ! 'มุก วรนิษฐ์'อวดหุ่นเซ็กซี่ในชุดบิกินี่สดใส

สางไฟใต้!!! 'นายกฯ'ถก'รมว.กลาโหม-ผบ.ตร.-ปลัดมท.'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved