ส.ค. 2567 เริ่มย้ายศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้า ไปดินแดง ปี’68 ย้ายทั้งหมด ปรับสู่พิพิธภัณฑ์เมือง ให้ สวท.-เทศกิจย้ายมา

นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการย้ายหน่วยงานจากศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) ไปที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการ กทม. (ดินแดง) ว่า จะเริ่มทยอยย้ายหน่วยงานที่ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567-มกราคม 2568 โดยมีหน่วยงานประกอบด้วย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) สำนักงบประมาณ สำนักงานตรวจสอบภายใน สำนักปลัดกรุงเทพมหานครสำนักการคลัง สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานครสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล รวมข้าราชการและบุคลากรกว่า 2,000 คน

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารจัดการในการย้ายหน่วยงาน/ส่วนราชการภายในศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ไปศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ได้ดำเนินการตั้งแต่เริ่มเข้ามาปี 2565โดยสำรวจพื้นที่และจำนวนบุคลากรทั้งหมดของทั้งสองแห่ง กำหนดแผนแนวทางการย้ายหน่วยงานไปที่อาคารธานีนพรัตน์ จัดสรรพื้นที่อาคารพร้อมแผนปรับปรุงอาคารบางส่วนเพื่อให้สามารถย้ายหน่วยงานเข้าไปได้ทั้งหมด

สำหรับตัวอาคารศาลาว่าการ(เสาชิงช้า) จะมีการปรับปรุงเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ซึ่งคณะกรรมการบริหารจัดการศาลาว่าการกรุงเทพมหานครและลานคนเมือง สู่พิพิธภัณฑ์เมืองกรุงเทพมหานครเป็นผู้พิจารณาในเรื่องนี้ โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธาน และสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว เป็นผู้กำกับดูแล ดังนั้นจึงมีแผนย้ายสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว และสำนักเทศกิจมาที่ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) ในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ด้วย เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุมชนและร้านค้าโดยรอบ ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการย้ายหน่วยงานจากศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)ไปที่ ดินแดง โดยมีความเห็นไม่อยากให้ย้าย และไม่เห็นด้วยให้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เมือง เพราะชาวชุมชนส่วนหนึ่งก็ทำมาหากินค้าขายรอบๆ บริเวณ ทั้งอาหาร ร้านชำ รวมถึงร้านค้าต่างๆ ก็มีความกังวลหากย้ายไปแล้วจะขายได้น้อยลงเพราะลูกค้าส่วนหนึ่งก็คือข้าราชการคนกทม. แต่เมื่อต้องย้ายไปจริงก็ต้องปรับตัว แต่อีกส่วนหนึ่งเมื่อต้องย้ายไปก็อยากให้กทม.ทำเป็นโรงพยาบาลเพิ่ม ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์มากกว่าทำพิพิธภัณฑ์เมือง อย่างไรก็ดีอยากให้ กทม.มาบอกถึงแนวทางจัดการต่างๆ ให้รับทราบด้วย