โดนแล้ว!!! แจ้ง 2 ข้อหา คนขับบรรทุกน้ำหนักเกิน พร้อมเสนอศาลพิจารณาสั่งริบรถ ตามขั้นตอนกฎหมาย ด้านเจ้าของรถอ้างสติกเกอร์ดาว เป็นสัญลักษณ์เข้าไซต์งาน

9 พ.ย.66 พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า คดีนี้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนและตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถบรรทุกน้ำหนักเกินคันเกิดเหตุ เบื้องต้นดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรือทรัพย์สินเสียหาย และข้อหาขับรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้ดำเนินการชั่งน้ำหนักรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเข้าดำเนินการชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่าน้ำหนักรวมทั้งหมด 37,450 กิโลกรัม หรือ 37 ตัน 450 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการบรรทุกน้ำหนักเกินที่กฎหมายกำหนด ส่วนในกรณีก่อนหน้านี้ มีการตักดินออกจากกระบะท้ายไปบางส่วน เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปที่ไซต์งานและนำดินที่ถูกตัดออกไปมาเติมท้ายกระบะ ให้มีน้ำหนักใกล้เคียงกันมากที่สุดแล้ว

นายสราวุธ อนันต์ชล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตพระโขนง ระบุว่า เบื้องต้นจากน้ำหนักที่ได้ คือ การบรรทุกเกินที่กฎหมายกำหนด เพราะกฎหมายกำหนเให้รถบรรทุกสิบล้อ บรรทุกได้ 25 ตัน ขณะที่เรื่องของคดีความพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะน้ำหนักรวมสุทธิของรถบรรทุก ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินคดี นอกจากโทษปรับแล้ว โทษสูงสุดของรถบรรทุกน้ำหนักเกิน คือ การยึดรถ

ส่วนเจ้าของรถบรรทุก หากการสืบสวนสอบสวนพบมีส่วนรู้เห็นจะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ส่วนรถบรรทุกที่เป็นของกลาง ใช้ในการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนจะเสนอให้ศาลพิจารณาสั่งริบ ตามขั้นตอนทางกฎหมาย

สำหรับโทษของการขับขี่รถบรรทุกน้ำหนักเกิน มีจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท โดยทั้งจำทั้งปรับ ประเด็นป้าย “เสี่ยบิ๊ก” การสอบสวนเบื้องต้นเจ้าของรถสิบล้อให้การอ้างว่า นั่นคือ ชื่อเล่นของตัวเอง ส่วนสติกเกอร์ดาวสีเขียว เป็นสัญลักษณ์เข้าไซต์งานก่อสร้าง

รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ระบุว่า เป็นคำให้การที่สามารถให้การได้ แต่ตำรวจก็มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี โดยจะดำเนินการในทุกประเด็นที่ต้องสงสัย รวมถึงเรื่องส่วยสติกเกอร์ รถบรรทุก

ขอบคุณภาพ JS100Radio