วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เรียกประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวน และภายหลังประชุม พล.ต.ต.พัลลภ กล่าวว่า หลังจากแจ้งข้อหาคนขับรถบรรทุกดินไปเมื่อวานนี้แล้ว พนักงานสอบสวนยังได้เรียกเจ้าของรถเข้ามาสอบสวนเพื่อขยายผลว่ามีส่วนรู้เห็นกรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ หรือมีเจตนาสั่งการใด ๆ ในการเคลื่อนย้ายทำลายหลักฐานหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ทั้งเจ้าของรถบรรทุก และผู้ที่เคลื่อนย้ายหลักฐานก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ส่วนกรณีถ่ายน้ำมันออกจากรถบรรทุกดินของกลาง ให้การอ้างว่าถ่ายน้ำมันออกเพราะกลัวถังน้ำมันรั่วจะเกิดการระเบิดได้
สำหรับรถบรรทุกอีก 6-7 คัน ที่อยู่ในสังกัดเดียวกัน ทางตำรวจไม่ได้มีคำสั่งห้ามวิ่ง เจ้าของรถสามารถนำรถมาวิ่งได้ตามปกติ แต่ต้องวิ่งแบบไม่กระทำผิดกฎหมาย โดยตำรวจจะจับตาเป็นพิเศษในช่วงนี้
รรท.รอง ผบช.น. ยังระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตรวจสอบในความผิดอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องด้วย ทั้งกรณีการดัดแปลงรถบรรทุก และอุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆ รวมถึงตรวจสอบบ่อพักร้อยสายไฟว่า มีการก่อสร้างตรงตามหลักทางวิศวกรรมหรือไม่ โดยร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย หรือ วสท. นำชิ้นส่วนคานรับน้ำหนักไปตรวจสอบแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องส่วยสติกเกอร์ ทางจเรตำรวจแห่งชาติ กำลังเร่งตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.อ.โอภาส หาญณรงค์ ผู้กำกับการ สน.พระโขนง กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามตัว คนงานที่นำแกลลอนมาถ่ายน้ำมันออกจากรถบรรทุกดิน มาสอบสวนแล้ว เบื้องต้นให้การว่าได้รับคำสั่งให้ถ่ายน้ำมันออกจากถังรถ เนื่องจากตัวถังได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ จึงเกรงว่าน้ำมันอาจรั่วจนเกิดอันตราย ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็ได้นำน้ำมันของกลางมาส่งคืนให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะอำพรางทำให้น้ำหนักรถลดลง ดังนั้นจึงยังไม่มีการแจ้งข้อหา
ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ในทุกมิติ หากพบสิ่งที่ผิดกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด ไม่ละเว้น แต่ต้องใช้เวลาในการทำงาน ส่วนกรณีที่สังคมให้ความสนใจเรื่องส่วยสติกเกอร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบสืบสวนในเรื่องนี้ โดยทางตำรวจนครบาล จะทำงานร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติในการช่วยหาพยานหลักฐาน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม รถบรรทุกโดยทั่วไปได้มีการติดสติกเกอร์กันเป็นปกติอยู่แล้ว เพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ซึ่งก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า สติกเกอร์ที่พบนี้ติดเพื่ออะไร หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และหากใครที่ออกมาเปิดเผยว่า สติกเกอร์นี้เป็นส่วย ก็ขอให้นำข้อมูลหลักฐานมาให้กับตำรวจ หากไม่จริง ก็ต้องรับปิดชอบคำพูดตัวเองด้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผบ.ตร.สั่งด่วน! จเรตำรวจ เร่งตรวจสอบ 'สติกเกอร์' รถบรรทุกตกท่อ รายงานผลใน 3 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี