ขยายผลส่วย

‘สติ๊กเกอร์’รถบรรทุก

ตร.สอบเอาผิดทุกมิติ

จ่อฟันผิดวินัย-อาญา

จับอีก2คันบรรทุกเกิน

ตร.เร่งขยายผลส่วยสติ๊กเกอร์ ปมรถบรรทุกดินตกบ่อโครงการนำสายไฟลงใต้ดินถนนสุขุมวิท 64/1 เอาผิดในทุกมิติ ด้าน กทม.จับมือทางหลวง จับอีก 2 รถบรรทุกน้ำหนักเกิน ส่งตัวคนขับดำเนินคดีอ่วม!

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีรถบรรทุกดินประสบอุบัติเหตุตกบ่อก่อสร้างโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน บนถนนสุขุมวิท ซอย 64/1 ท้องที่ สน.พระโขนง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ การจราจรติดขัดนานหลายชั่วโมง

และส่งผลกระทบด้านอื่นๆ เป็นวงกว้าง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนจะมีข้อสังเกตในการตรวจสอบว่ารถมีการบรรทุกน้ำหนักเกิน รวมทั้งมีสติ๊กเกอร์รูปดาวกับอักษร B สีเขียว ติดไว้ ซึ่งประธานสหพันธ์ขนส่งแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าเป็นสัญลักษณ์ของส่วยสติ๊กเกอร์ ว่ากรณีดังกล่าว ทางจเรตำรวจแห่งชาติ ได้มีการเร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการจ่ายส่วยเพื่อบรรทุกน้ำหนักเกินแล้ว ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะถูกพิจารณาดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ควบคุมการสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้องในทุกฐานความผิด และตอบประเด็นข้อสงสัยของประชาชนในสังคมได้ เช่น การเคลื่อนย้ายดินออกจากรถ พร้อมกำชับตำรวจทั่วประเทศ ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์ส่วยสติ๊กเกอร์ หรือสิ่งผิดกฎหมาย หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด รวมถึงเอาผิดผู้บังคับบัญชาที่ปล่อยปละละเลยด้วย

ที่ สน.พระโขนง วันเดียวกัน พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รักษาราชการแทน รอง ผบช.น.ได้เรียกประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งรัดการตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.พัลลภ กล่าวว่า หลังจากได้แจ้งข้อหากับคนขับรถบรรทุกดินคันเกิดเหตุไปแล้ว ทางพนักงานสอบสวนยังเรียกเจ้าของรถบรรทุก ให้เข้าให้ปากคำเพื่อขยายผลว่ามีส่วนรู้เห็นกับการปล่อยให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ หรือมีเจตนาใดในการเคลื่อนย้ายดิน หากพบว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด ก็จะพิจารณาดำเนินคดีด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.โอภาส หาญณรงค์ ผกก.สน.พระโขนง กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามตัวคนงานที่นำแกลลอนมาถ่ายน้ำมันออกจากรถบรรทุกดิน มาสอบสวนแล้ว เบื้องต้นให้การว่าได้รับคำสั่งให้ถ่ายน้ำมันออกจากถังรถเนื่องจากตัวถังได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ เกรงว่าน้ำมันอาจรั่วจนเกิดอันตราย ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้นำน้ำมันของกลางมาส่งคืนให้พนักงานสอบสวนแล้ว จึงยังไม่มีการพิจารณาแจ้งข้อหา

ส่วน พล.ต.ท.ธิติ ระบุว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ในทุกมิติ หากพบสิ่งใดที่ผิดกฎหมาย ก็ให้ดำเนินคดีทั้งหมด ไม่มีการละเว้น แต่กรณีนี้คงต้องใช้เวลาในการดำเนินการ สำหรับกรณีที่สังคมให้ความสนใจเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ นั้น ทาง ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้ โดยทาง บช.น.จะทำงานร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในการแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ อย่างไรก็ดี รถบรรทุกโดยทั่วไปจะติดสติ๊กเกอร์กันเป็นปกติ แต่มีจุดประสงค์ใด คงต้องพิสูจน์ว่าติดไว้เพื่อใช้อะไร หากเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ ก็จะต้องดำเนินคดี และหากผู้ใดที่ทราบข้อมูลเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์รูปแบบต่างๆ ขอให้แจ้งข้อมูลกับตำรวจ แต่ต้องรับผิดชอบข้อมูลด้วย

อีกด้านหนึ่ง กทม.ร่วมกับกรมทางหลวง สนธิกำลังกันตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน บริเวณถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.โดยพบรถบรรทุกสิบล้อ 2 คัน ซึ่งคันแรกเป็นรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนสมุทรปราการ มีนายประพันธ์ อายุ 56 ปี เป็นคนขับ และคันที่ 2 เป็นรถบรรทุกยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนสมุทรปราการ มีนายสังวาลย์ อายุ 59 ปี เป็นคนขับ

จากการชั่งน้ำหนักพบว่าทั้ง 2 คัน บรรทุกดินน้ำหนักเกิน โดยมีดินเต็มคันรถ ซึ่งคันแรกมีน้ำหนัก 34 ตัน ส่วนคันที่ 2 มีน้ำหนัก 28 ตัน สอบสวนคนขับรถทั้ง 2 ในเบื้องต้นระบุว่า ขับรถมาจากไซต์งานก่อสร้างใน กทม.เพื่อนำดินไปถมในไซต์งานก่อสร้างย่านปริมณฑล จึงคุมตัวพร้อมของกลางรถบรรทุก ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน รับไว้ดำเนินคดีในข้อหาใช้ยานพาหนะบรรทุกของเกินอัตราเกินอัตราที่กำหนดในทางหลวงแผ่นดินท้องถิ่นเขตกรุงเทพมหานคร มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยคนขับรถทั้ง 2 ได้ขอประกันตัวออกไป โดยวางหลักทรัพย์เป็นเงิน 2 หมื่นบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นัดส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดมีนบุรี ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ เวลา 08.00 น.