เรื่องชาวบ้าน! เมียลั่น ผัวจะไปอยู่กับเมียน้อยก็เชิญ แต่จ่ายเงินเลี้ยงดูลูกมา สาวมือที่สามโฟนอิน บอก ก็รู้นะว่าผิด แต่อยากเอาชนะ เพราะเขาเอาเราไปประจาน
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี เมียมาร้องว่า สามีไปมีเมียน้อย ถึงขั้นตามไปจับได้คาหนังคาเขา เกาะรถให้ลงมาเคลียร์ สุดท้ายถูกลากไปกับถนน เมียลั่นวาจา จะไปด้วยกันก็เชิญ แต่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูลูกมา 3 คน
คุณบี สาวชาวกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นภรรยา เล่าว่า อยู่กินกับนายหนึ่งมาเป็นสิบปี มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ย้อนกลับไปตอนที่รู้จักกับคุณหนึ่งครั้งแรก ตอนนั้นตนทำงานในร้านอาหาร เขามาจีบเรา พูดคุยกันมาประมาณสัปดาห์หนึ่ง ปรากฏว่าเถ้าแก่ร้านอาหารที่มีเมียอยู่แล้ว เขามาชอบตน จะมาเอาเราเป็นเมีย เรากลัว เราจึงให้เขามารับ ยอมทิ้งเงินเดือนก้อนสุดท้าย หนีไปกับเขา ไปอยู่กินกันเป็นสามีภรรยา
ช่วงแรกๆ อยู่ด้วยกันได้ไม่นาน ตนก็ตั้งท้องลูกคนแรก ก็มาจับได้ว่าเขามีผู้หญิงอีกคน ตอนนั้นบอกให้เขาเลิกกัน ก็คิดว่าจบไปแล้ว จนตนคลอดลูกได้ 4 เดือน ตนก็เริ่มกลับไปทำงาน แล้วแม่ของสามีเป็นคนเลี้ยงลูก ช่วงนั้นก็ยังไปเจอว่าเขาแอบคบซ้อนผู้หญิงคนเดิม ผู้หญิงคนแรกที่เราจับได้ เขายังมาขอโทษตน จนตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่
เท่าที่ตามจับได้ เขามีผู้หญิงคนอื่นไม่ต่ำกว่า 8 คน มีคนชื่อ ยุ้ย พามานอนที่บ้าน มีคนชื่อ หมูแดง แล้วยังมีอีกหลายคน ทั้งที่ตนรู้จักชื่อและไม่รู้จัก แต่คุณหนึ่งยืนยันว่าไม่จริง ไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น มีแค่คนแรกที่ตนคุยมาก่อนจะมาคบหากับคุณบี แล้วเกิดคบซ้อนกันตอนนั้น กับคนล่าสุดคือ คุณแคท ที่เป็นประเด็นกันอยู่ในปัจจุบัน
กรณีล่าสุดของผู้หญิงชื่อแคท เป็นผู้หญิงที่ร้านคาราโอเกะ ที่นายหนึ่งไปติดพัน ตนเห็นความผิดสังเกตหลายอย่าง จากการปรับเบาะนั่งในรถ การปรับช่องแอร์ในรถ รู้สึกได้ว่าผู้หญิงตั้งใจจะให้เราจับได้ เขาจะเม้มลิปสติกใส่ทิชชู่ไว้ในรถ เห็นที่ปัดแก้มผู้หญิงตกอยู่ในรถ
จนเราตัดสินใจเอามือถืออัดเสียง ยัดใส่ใต้เบาะไว้โดยไม่ให้เขารู้ จนได้คลิปเสียงหลักฐานมา หนึ่งกับแคทมานั่งคุยกันบนรถ หึงหวงกันที่แคทไปนั่งกับแขกในร้าน เขาบอกว่าเขาเป็นแฟนกัน มีอะไรกันกี่ครั้งๆ หนึ่งพูดว่ารักแคท เพราะแคทรับตัวตนเขาได้ ที่เขามีลูกมีเมีย ถ้าแคทมีผัวเขาก็รับได้เหมือนกัน แต่คลิปนี้ นายหนึ่งมาลบออกไปจากมือถือแล้ว ซึ่งหนึ่งก็ยอมรับว่า ลบจริง ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นหลักฐานมัดตัวเขา
คุณบีตามสืบจนบุกไปหา ทั้งหนึ่งและแคท ที่อยู่ด้วยกันที่ร้านคาราโอเกะ เราแอบซ่อนตัวแล้วโทรหาสามี เขาเลยวิ่งออกจากร้านมารับโทรศัพท์ พอเราเข้าไปเรื่องสามี ผู้หญิงก็โผล่หน้าออกมา เราจึงหยุมตัว แล้วมีการลงไม้ลงมือกันทันที ครั้งนั้นก็แยกย้ายกันไป กลับมาบ้านหนึ่งก็มีทำร้ายร่างกายตน ตนไปแจ้งความ ตำรวจก็ยังบอกว่าเป็นเรื่องผัวเมีย
ต่อมา ตนรู้ว่าเขาจะออกจากบ้าน ก็เลยโทรเข้ามือถือของตัวเอง แล้วเอามือถือเครื่องหนึ่งยัดไว้ในรถ แล้วใช้อีกเครื่องดักฟังไว้อยู่ที่บ้าน ซึ่งเขาก็ไปรับผู้หญิงอีกคนจริงๆ ฟังจนรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปทันที
พอไปถึง ก็เอารถมอเตอร์ไซค์ไปจอดดักหน้าจนเขาหยุดรถ ตนไปกระชากประตูเปิด แต่เปิดไม่ได้ เราด่าเขาต่างๆ นานา เขาไม่ยอมเปิด แล้วเขาก็ออกรถ เราไม่ยอมปล่อยมือจากที่จับประตูรถ เขาก็ลากเราไปทั้งอย่างนั้น จนตนเจ็บตัว
คุณบีบอกว่า เราไม่กล้าปล่อยมือ เพราะถ้าปล่อยคงจะถูกล้อหลังทับแน่นอน ยืนยันว่าหนึ่ง กับแคท เห็นแน่นอนว่าตนเกาะรถอยู่ แต่ก็ยังลากไป
หนึ่งบอกว่า ไม่เห็นจริงๆ คิดว่าเขาปล่อยมือแล้ว เพราะไม่ได้คิดจะทำร้ายบีอยู่แล้ว แต่ที่หนึ่งไม่ยอมเปิดประตู เพราะไม่อยากให้มีเรื่องกัน แต่บีบอกว่าหนึ่งกลัวเมียน้อยจะเจ็บตัว
สุดท้ายลากกันไปจนคุณบีปีนขึ้นไปหลังกระบะได้ ทุบรถจนเขายอมจอด แล้วลงมาเคลียร์ ตนก็อาศัยจังหวะนั้นเข้าไปเอาเรื่องเมียน้อย จิกหัวเขาลงไปกับพื้น สามีก็เข้ามายื้อยุด ล็อกตนเอาไว้ ถ้าเขาจะมาแยกเป็นคนกลางจริงๆ ทำไมเขาถึงไม่แยกสองฝ่ายออก แต่มาล็อกตัวเมียแบบนี้
ขณะที่หนึ่ง ชี้แจงว่า ตนยอมรับว่า ไปเจอแคทตอนที่ตนไปขายของ ก็ถูกใจ เป็นอารมณ์ชั่ววูบ ก็ไปด้วยกันและได้เสียกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ แล้วก็แอบคบกันมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตนบอกเขาไปตั้งแต่แรกแล้วว่าตนมีลูกมีเมีย เขาบอกว่าเขาชอบตน เขารับได้ แต่พอเมียจับได้ ก็เลยมีปัญหากับภรรยา ตั้งแต่เกิดเรื่องมา น้องแคทไม่เคยมายุ่งมาอะไร เขาไม่เคยอยากมีเรื่อง
ขณะที่แคทโฟนอินเข้ามาพูดในมุมตัวเองว่า บอกว่าชอบหนึ่ง ชอบแบบไม่มีเหตุผล เป็นคนหล่อ นิสัยดี แต่ทางคุณบี ตนไม่รู้จักมาก่อน อยู่ดีๆ เขาก็ตามมาตบ มาด่า ตอนนั้นตนก็คิดว่าอยากจะเลิกคุยกับหนึ่งแล้ว แต่พอคุณบีปลอมเฟซบุ๊ก เอาตนไปประจาน ด่าเราเป็นผู้หญิงขายตัว เราก็เลยอยากเอาชนะเขา เลยกลับไปคุยกับหนึ่งต่อ
แคทบอกว่า รู้ดีว่าความสัมพันธ์ของตนมันไม่ถูกต้อง ถ้าเมียเขาจับได้ก็พร้อมจะเดินออกมา แต่พอเห็นเขาเอาเราไปประจาน ก็เลยโกรธ อยากเอาคืน อยากเอาชนะ
ส่วนที่บอกว่า แคทพยายามจะแสดงตัว เม้มรอยลิปสติกทิ้งไว้ ตนไม่เคยทำ ตนไม่เคยคิดจะทำลายครอบครัวเขา ตนก็อยู่ในที่ของตัวเอง วันที่เขาถูกรถลาก เราก็ไม่คิดจะสู้ แค่ปกป้องตัวเองไม่ให้ถูกทำร้ายเท่านั้นเอง
ด้านทนายแก้ว ชี้แจงว่า เนื่องจาก บีกับหนึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่หนึ่งต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดู แต่ต้องมีการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้ยืนยันสิทธิ์ของความเป็นพ่อ แล้วกำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดู
สุดท้ายหนึ่งบอกว่า จะแยกย้ายกับบี ต่างกันต่างอยู่ ก็แยกย้ายกันไป แล้วลูกก็จะอุปการะเลี้ยงดู ทราบว่าบีจะเอาลูกกลับไปอยู่ฝั่งเมียนมา แต่ถ้าตนไม่ยินยอมจะทำได้ไหม ทนายแก้วบอกว่า สิทธิ์ในความเป็นพ่อของหนึ่งยังไม่สมบูรณ์ ถ้าจะต้องการสิทธิ์เลี้ยงดูก็ต้องไปฟ้องศาลให้เรียบร้อย
ส่วนบีบอกว่า ถ้าจะให้ตนจ่ายค่าบ้านเอง ตนไม่ได้ทำงาน ไม่มีเงินมาจ่ายอยู่แล้ว ถ้าจะให้ตนจ่ายเอง ก็ต้องพาลูกกลับเมียนมา จะให้หนึ่งมาอยู่ร่วมชายคา แต่ต่างคนต่างอยู่ ก็คงไม่ได้ ไม่ยอมทนเห็นเขาไปมีอะไรกับคนอื่นอยู่แล้ว บีบอกว่า จะให้ส่งเงินให้ลูก 3 คน 15,000 บาท กับจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งหนึ่งบอกว่ามันเยอะไป มันไม่ไหวเหมือนกัน
ขณะที่หนึ่งบอกว่า เรื่องจ่ายเงินต่างๆ ก็ต้องขอไปคุยกับเขาอีกที แต่หลังจากนี้ก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี