ศาลอาญากท.ใต้ สั่งจำคุกรุ้ง-ไมค์-ครูใหญ่ คนละ 9 เดือนไม่รอลงอาญา ปรับคนละ525 บาท นำม็อบชุมนุมตีหม้อไล่เผด็จการ ปี 64
เวลา 09.30 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษา คดีดำ อ.171/2565 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุลหรือรุ้ง , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ จาดนอก, และ นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำกลุ่มราษฎรเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ,พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณา กรณีม็อบทำกิจกรรม "ตีหม้อไล่เผด็จการ" ที่บริเวณด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องไปจนถึงด้านหน้า สน.ปทุมวัน เพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัวให้กับนักกิจกรรมทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564
คำฟ้องอัยการระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2564 จำเลยทั้งสามกับนักกิจกรรมรายอื่นอีก 8 ราย ได้ร่วมกันกระทำความผิดโดยทั้งสามได้ร่วมกันจัดการชุมนุมทางการเมืองในนามกลุ่ม #ราษฎร ในระหว่างที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่บริเวณด้านหน้าของของหอศิลป์ แยกปทุมวัน กทม. โดยไม่มีมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ในระหว่างการชุมนุม ทั้งสามและกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ใช้โทรโข่งขยายเสียงปราศรัย อันเป็นการใช้เครื่องขยายเสียง ยังได้ร่วมกันตั้งเวทีและเก้าอี้บนถนนบริเวณหน้าหอศิลป์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร มีการพ่นสีลงบนถนนหน้าห้างมาบุญครอง มีข้อความว่า #ราษฎรพ่อทุกสถาบัน ผู้ชุมนุมยังได้เดินเท้าไปยัง สน.ปทุมวัน มีจำนวนราว 1,000 คน ทั้งสามซึ่งมีหน้าที่สั่งการในการชุมนุมได้ปล่อยให้ผู้ชุมนุมกีดขวางทางสาธารณะ จนเป็นอุปสรรคต่อการจราจร ทั้งสามและนักกิจกรรมรายอื่นยังได้ร่วมกันปราศรัยที่หน้า สน.ปทุมวัน ให้ปล่อยตัวแกนนำที่ถูกจับกุม จากนั้นผู้ชุมนุมได้กระจายตัวล้อม สน.ปทุมวัน พร้อมทั้งปา ประทัด ขวดน้ำ และของแข็งเข้าไปในพื้นที่ อันเป็นการมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยมีจำเลยทั้งสามเป็นผู้สั่งการ มีเจตนาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังวางแนวป้องกันสถานที่ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ 7 ราย ได้รับบาดเจ็บ รถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณ สน.ปทุมวัน ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการทำให้เกิดความเสียหาย คิดเป็นค่าเสียหาย 155,586 บาท
จำเลยให้การปฏิเสธ โดยวันนี้จำเลยทั้งสามเดินทางมาฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว
เห็นว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215, กีดขวางทางสาธารณะ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 700 บาท จำเลยให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลนคนละ 9 เดือน ปรับคนละ 525 บาท โดยไม่รอลงอาญา ให้ยกฟ้องข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ทำร้ายเจ้าพนักงาน, ทำให้เสียทรัพย์ และ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ
ต่อมาทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอประกันตัวจำเลย
ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้จำเลยทั้งสามมีประกันตัวไป โดยตีราคาประกันคนละ 25,000 บาทระหว่างอุทธรณ์คดี .
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี