กต.เช่าเครื่องบิน2ลำ
รับคนไทย266ชีวิต
หนีสู้รบในเมียนมา
กลับถึงบ้านปลอดภัย
กระทรวงการต่างประเทศเผยคืบหน้าช่วยเหลือ 266 คนไทยจากเมืองเล่าก์ก่ายของเมียนมา โดยอพยพออกจากเมียนมาถึงจีนแล้ว กต.ส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำ 2 ลำ พากลับประเทศไทย
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยความคืบหน้าการช่วยหลือคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย ของเมียนมาว่า ทางการเมียนมาช่วยจัดส่งคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย 266 คน ไปยังชายแดนจีน และทางการจีนอนุญาตให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวข้ามชายแดนเข้าประเทศ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำ 2 ลำ โดยสายการบินแอร์เอเชีย และสายการบินไลออนแอร์ นำคนไทยกลุ่มดังกล่าวกลับไทยจากนครคุนหมิง ซึ่งคาดว่าจะมาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองในเวลาประมาณ 22.00 น. และเวลาประมาณ 24.00 น.ของวันนี้ (19 พฤศจิกายน)
ทั้งนี้ เมื่อเครื่องบินอพยพคนไทยทั้ง 2 ลำ เดินทางถึงไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช).จะอำนวยความสะดวกแก่คนไทยในการตรวจคนเข้าเมือง และคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism – NRM) และผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการอาชญากรรมข้ามชาติต่อไป
สำหรับการให้ความช่วยเหลือคนไทยครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลเมียนมา และรัฐบาลจีนในการอำนวยความสะดวกตั้งแต่ต้นทาง และระหว่างทางการอพยพ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้รับความร่วมมือจากทางการเมียนมา และมูลนิธิอิมมานูเอลช่วยดูแลคนไทยด้านอาหาร น้ำและเครื่องนุ่งห่ม ระหว่างรอการอพยพที่เมืองเล้าก์ก่าย
กระทรวงต่างประเทศเผยด้วยว่า ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ได้รับการอำนวยความสะดวกจากรัฐบาลส่วนกลางและท้องถิ่นด้านเส้นทางการบิน และการตรวจคนเข้าเมือง จนช่วยเหลือคนไทยทั้งหมดออกมาได้สำเร็จ ตลอดจนช่วยเหลือคนชาติของมิตรประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ออกมาด้วย อย่างไรก็ตาม นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เร่งติดตามช่วยเหลือคนไทยที่อาจยังหลงเหลืออยู่โดยเร็วต่อไป
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงการช่วยเหลือคนไทยจากเมืองเมืองเล้าก์ก่ายชุดแรก 41 ราย จากสถานการณ์ความขัดแย้งในเมียนมา และอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติโดยละเอียด เพื่อคัดแยกกลุ่มผู้บริสุทธิ์ที่ประกอบสัมมาอาชีพสุจริตออกจากกลุ่มที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับและกลุ่มที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ว่า รัฐบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือคนไทยให้ปลอดภัย โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา ซึ่งทุกหน่วยงานพยายามเร่งให้การช่วยเหลือรับคนไทยกลับมาประเทศไทยเร็วที่สุด
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ในฐานะรับผิดชอบดูแลแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ได้ติดตามเรื่องนี้ใกล้ชิด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า บางคนในจำนวนผู้ที่อยู่ระหว่างตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ อาจมีส่วนเชื่อมโยงกับปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และอาจมีหมายจับติดตัว ต้องแยกแยะให้ชัดว่าเป็นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ถูกล่อลวงบังคับขู่เข็ญให้ไปทำหรือไม่ ซึ่งตนสั่งให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการบูรณาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) ติดตามเรื่องนี้ใกล้ชิด พร้อมร่วมสอบสวนหาเบาะแส เพื่อขยายผลดำเนินการทางกฎหมายปราบปรามปัญหานี้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากที่ผ่านมาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก่อปัญหาคุกคามคนไทยมานาน